วันศุกร์, 19 เมษายน 2567

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด!!รวบรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเวียง”ขณะรอรับเงินค่ายาเสพติด”

23 พ.ย. 2018
18

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด”รวบรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเวียง”ขณะรอรับเงินค่ายาเสพติด

วันที่ 23 พ.ย.61 ที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ รอง ผบช.ส.พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.ภาณุวิชญ์ ทองยิ้ม ผบก.อก.บช.ปส.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมคดียาเสพติดจำนวน 3 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 9 ราย นายอะคา จะนู อายุ 54 ปีอยู่บ้านเลขที่ 193 ม.9 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จว.เชียงราย นายสุวิชัย พงศ์ทวีรัฐ อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 410 ม.9 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จว.เชียงราย นายจะมุ จะหลู อายุ 21 ปีอยู่บ้านเลขที่ 22 ม.10 ต.ห้วยชมพู อ.เมือง จว.เชียงราย นายจะงะ พญาอู๋ อายุ 56 ปีอยู่บ้านเลขที่ 84 ม.18 ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จว.เชียงราย นายพรศักดิ์ หรือชาติ แซ่โซ้ง อายุ 42 ปีอยู่บ้านเลขที่ 40/3 ม.10 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จว.เพชรบูรณ์ นายชวนหรือเตี้ย แซ่หว้า อายุ 20 ปีอยู่บ้านเลขที่ 159 ม.8 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จว.เพชรบูรณ์ นายนิรุตน์ บัวทุม อายุ 30 ปีนายประจวบ บัวทุม อายุ 37 ปีนายบุญช่วย เขียวไพรี อายุ 49 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 149 มัดรวมประมาณ 298,000 เม็ด รถยนต์จำนวน 4 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน โทรศัพท์มือถือจำนวน 11 เครื่อง อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก


คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 19 พ.ย.61 เวลาประมาณ 13.00 น.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.ปส.3 ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 4 คนนายอะคา จะนู อายุ 54 ปี นายสุวิชัย พงศ์ทวีรัฐ อายุ 23 ปี นายจะมุ จะหลู อายุ 21 ปี นายจะงะ พญาอู๋ อายุ 56 ปีทั้งหมดเป็นชาว จว.เชียงรายพร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 250,000 เม็ดรถยนต์จำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์จำนวน 1 คันโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่องและอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.ปส.3 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มนักค้ายาเสพติดซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นชาวเขา มีพฤติการณ์ในการจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่เขต อ.เวียงป่าเป้า จว.เชียงราย จึงได้ทำการสืบสวนพฤติการณ์เรื่อยมาจนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 พ.ย.61ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สะกดรอยติดตามจนสามารถจับกุมนายอะคา ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันปตท.บ้านแม่ขะจาน ต.แม่เจดีย์ อ.เวียงป่าเป้า จว.เชียงราย ส่วนนายสุวิชัยและนายจะมุ สามารถจับได้ที่หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลเวียง อ.เวียงป่าเป้า จว.เชียงราย นายจะงะ จับได้ที่บริเวณริมถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย หน้าวิทยาเขตเทคนิคเวียงป่าเป้า ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า จว.เชียงราย ขณะกำลังจะส่งมอบยาบ้า 250,000 เม็ดให้กับผู้ซื้อ โดยจากการตรวจค้นพบอาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ในรถของนายอะคา พร้อมยึดสมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 8 เล่ม และบัตรกดเงินสด จำนวน 3 ใบไว้ตรวจสอบ
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”ส่วนนายอะคาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า“พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควรและเร่งด่วนตามควรแก่สถานะการณ์

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน บก.ปส.3 บช.ปส.เพื่อขยายผลและออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการและยึดทรัพย์ตามพ.ร.บ.มาตรการฯ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วน คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 21 พ.ย.61 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปส.3 บช.ปส.ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน คือ นายพรศักดิ์ หรือชาติ แซ่โซ้ง อายุ 42 ปีและนายชวนหรือเตี้ย แซ่หว้า อายุ 20 ปีพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 24 มัดรวมประมาณ 48,000 เม็ด รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง
พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปส.3 บช.ปส.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มนักค้ายาเสพติดกลุ่มม้ง ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จว.เพชรบูรณ์ มีพฤติการณ์ในการค้ายาเสพติดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่านายพรศักดิ์และนายชวนมารับยาเสพติดมาจากกลุ่มนายทุนและจะมาส่งมอบให้กับลูกค้าที่ปั๊มน้ำมันพีที แคมป์สน อ.เขาค้อ จว.เพชรบูรณ์ จึงได้เดินทางมาตรวจสอบและสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 48,000 เม็ดรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย


จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน บก.ปส.3 บช.ปส.เพื่อขยายผลและออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการและยึดทรัพย์ตามพ.ร.บ.มาตรการฯ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และคดีสุดท้าย คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 19 พ.ย.61ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปส.2ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 คน นายนิรุตน์ บัวทุมอายุ 30 ปี นายประจวบ บัวทุมอายุ 37 ปี นายบุญช่วย เขียวไพรี อายุ 49 ปีพร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 204 แท่ง น้ำหนัก 204 กิโลกรัม รถยนต์กระบะบรรทุก จำนวน 1 คัน รถยนต์เก๋งจำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นนักค้ายาเสพติดในเครือข่าย นายบุญช่วย เขียวไพรี ก่อนจะได้รับรายงานว่าจะมีการลำเลียงกัญาชาอัดแท่งโดยใช้ดยจะใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ รุ่น ERTIGA สีดำ หมายเลขทะเบียน กว-6461 สุราษฎร์ธานี และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นไททัน สีดำ หมายเลขทะเบียน บพ-1289 เลย เป็นยานพาหนะในการลำเลียงไปส่งลูกค้าในพื้นที่ตอนในและภาคตะวันออกโดยใช้เส้นทาง จ.บึงกาฬ – จ.หนองคาย – จ.อุดรธานี – จ.หนองบัวลำภู – จ.เลย – จ.เพชรบูรณ์ – จ.ลพบุรี – จ.สระบุรี – กรุงเทพฯ – จ.ชลบุรี – จ.ระยอง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามดักจับกุมและตรวจค้นที่บริเวณหมู่บ้านนาข่า อ.เมือง จว.อุดรธานี พบกัญชาแห้งอัดแท่งบรรจุในกระสอบปุ๋ย พันด้วยเทปกาวใส ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำจำนวน 5 กระสอบซึ่งนายนิรุตน์ทำหน้าที่คนขับรถและนายประจวบนั่งข้างคนขับ ส่วนนายบุญช่วย เขียวไพรี เป็นคนขับอีกคันที่ทำหน้าที่เป็นรถตรวจการณ์
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน บก.ปส.4 บช.ปส.เพื่อขยายผลและออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการและยึดทรัพย์ตามพ.ร.บ.มาตรการฯ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Loading