วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดบุกทลายเครือข่ายค้านำ้มันกัญชา”

07 ธ.ค. 2018
24

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดบุกทลายกลุ่มเครือข่ายค้าน้ำมันกัญชาลอบตั้งโกดัง-ผลิตส่งขายต่างประเทศ

วันที่ 6 ธันวาคม 61 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป.6)/รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.และ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3,พล.ต.ต.กิตติ สะเภาทอง ผบก.ปส.4,พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผบก.สกส.บช.ปส.พล.ต.ต.ชยพจน์ หาสุณหะ ผบก.ขส.บช.ปส., พล.ต.ต.ภาณุวิชญ์ทองยิ้ม ผบก.อก.บช.ปส.ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดจำนวน 7 คดีผู้ต้องหาจำนวน 21 คนพร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 1,454 มัดรวมประมาณ 2,908,000 เม็ดน้ำมันกัญชาจำนวน 57 ขวดรวมน้ำหนักประมาณ 70.22 กก.ยางกัญชาน้ำหนักประมาณ 6.623 กิโลกรัมสารเคมีจำนวน 3 ถังกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 600 แท่งรวมน้ำหนักประมาณ 600.36 กิโลกรัม.ไอซ์จำนวน 3 ถุงน้ำหนักรวมประมาณ 3,007.34 กรัมและยาอีจำนวน 6 เม็ดและอุปกรณ์การผลิตทางเคมีจำนวนมากพร้อมตรวจยึดทรัพย์สินอีกกว่า 3,785,000 บาท


คดีที่ 1 พ.ต.อ.ภวินทร์ภานุมาส ผกก.2 บก.ปส.1,พ.ต.ท.โชคชัย วระศาสตร์,พ.ต.ท.สุประวิณ สมบัติศิริ รอง ผกก.2 บก.ปส.1, พ.ต.ท.วรศักดิ์ รอดสัมฤทธิ์, พ.ต.ท.ชานุ พิมพ์หนู, พ.ต.ต.ราชวัติ ขลิบเงิน สว.กก.2 บก.ปส.1,พ.ต.ต.อัครพล สุวรรณทัต สว.ฝ่าย สกบ.บก.อก.ช่วยราชการ กก.2บก.ปส.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.ปส.1 ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสุริยันต์ หรือยัน สุวรรณไชยรบอายุ 34 ปี นายศุภกิจ หรือกิจ แก้วมะ อายุ 54 ปี นายโจเซฟ หรือ Sid ทรูเลย์ หรือ (Mr.JOSEPHTOOLE)อายุ 67 ปีสัญชาติอังกฤษและนายคูลิค เดวิด หรือ(Mr.KULIK DAVID)อายุ 65 ปีสัญชาติแคนาดาทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา”ในข้อหา ร่วมกันผลิตและมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชายางกัญชาและน้ำมันกัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”พร้อมของกลางน้ำมันกัญชา ลักษณะเป็นของเหลวสีดำบรรจุในขวดแก้วใสฝาปิดสีฟ้าน้ำหนัก 63 กรัมบรรจุในขวดแก้วสีฟ้าจำนวน 61 กรัมและบรรจุในขวดแก้วสีฟ้าจำนวน 62 กรัมรวม 3 ขวดยางกัญชาลักษณะเป็นก้อนสีดำบรรจุในถุงพลาสติกจำนวน 7 ถุงน้ำกัญชาบรรจุอยู่ในถังพลาสติกใสสีฟ้าจำนวน 3 ถัง น้ำมันกัญชาในขวดแก้วสีชา 10 ขวดน้ำมันกัญชาในขวดพลาสติกสีขาวขุ่นจำนวน 43 ขวด เครื่องมือในการผลิตน้ำมันกัญชาจำนวน 15 ชิ้น ภาชนะหลอดแก้วจำนวนหนึ่ง และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 2 คัน

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่าเมื่อประมาณเดือน มีนาคม 61 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกก.2 บก.ปส.1 ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบผลิตน้ำมันกัญชาและส่งออกกัญชาไปจำหน่ายยังต่างประเทศ จึงได้สั่งการให้ทำการสืบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งพบกลุ่มผู้ต้องสงสัยมีการลักลอบลำเลียงกัญชาส่งออกไปทางท่าเรือแหลมฉบังไปยังต่างประเทศ โดยใช้วิธือำพรางซุกซ่อนไปกับก้อนขุยมะพร้าวอัดก้อน ก่อนถูกตรวจจับได้ที่เมืองแอนด์เวริด์ ประเทศเบลเยียม ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัย ต่อมาทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้ซุกซ่อนกัญชา น้ำมันกัญชา และวัตถุดิบ อุปกรณ์ในการผลิตไว้ที่โกดังเลขที่ 559/5 ม.7 ถ.บางพลี-ตาหรุ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จว.สมุทรปราการและที่โกดังเลขที่ 499/43 ม.13 ถ.กิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้วางแผนเปิดปฏิบัติการกวาดล้างและค้นสถานที่ต้องสงสัยกระทั่งในวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมาจึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นเป้าหมายสามารถจับกุมนายสุริยันต์ ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 614 ใน อ.เมือง จว.สกลนคร นายศุภกิจได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 265/105 ถนน ราษฎร์พัฒนา กรุงเทพฯ จับกุมนายโจเซฟ ได้ที่ทางเข้าโรงแรมเบเวอรี่ พลาซ่า อ.บางละมุง จว.ชลบุรี ส่วนนายคูลิค จับได้ที่บริเวณทางเท้าริมถนนในซอยพระตำหนัก 5 อ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรีและตรวจยึดยางกัญชา น้ำมันกัญชา สารเคมี และอุปกรณ์ในการผลิตหลายรายการได้ที่บริเวณโกดังเลขที่ 559/5 ม.7 ถนนบางพลี-ตำหรุ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่าจากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่ากระบวนการนี้ได้ตั้งโรงงานผลิตย่านบางพลี จว.สมุทรปราการ มานานกว่า 1 ปีและเคยส่งน้ำมันกัญชาน้ำหนักรวมกว่า 5 ตันให้กับเครือข่ายค้ายาเสพติดในประเทศเบลเยียมนอกจากนี้ยังพบว่ามีนายทุนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่นแต่ไม่แน่ชัดว่าจุดหมายปลายทางจะส่งไปยังประเทศใดบ้างสำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตนั้นส่วนหนึ่งหาได้จากกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในประเทศไทยและสปป.ลาว ขบวนการนี้จะมีนายคูลิค ที่พักอาศัยอยู่ที่พัทยา จว.ชลบุรีจะใช้วิธีการขนส่งน้ำมันกัญชาไปทางเรือรวมถึงการเคลื่อนย้ายที่พักไปเรื่อยๆ เพื่อให้ยากต่อการถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมโดยกลุ่มขบวนการดังกล่าวจะมีการแบ่งหน้าที่กันทำโดยนายสุริยันต์ จะมีหน้าที่คอยเฝ้าของและนายศุภกิจ ซึ่งเปิดเป็นบริษัทขนส่งจะทำหน้าที่คอยขนส่งยาเสพติดสำหรับนายโจเซฟ จะทำหน้าที่ติดต่อกับต่างประเทศและจะเดินทางเข้าออกประเทศไทยเป็นระยะในแต่ละครั้งอยู่นานประมาณ 6 เดือนก่อนจะทิ้งช่วงแล้วกลับเข้ามาใหม่ ขณะที่นายคูลิคเป็นอดีตนักวิทยาศาสตร์เคมีซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือเพื่อสกัดน้ำมันกัญชาออกมาโดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บช.ปส.จะขยายผลเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบว่าขบวนการนี้จะส่งน้ำมันกัญชาไปยังที่ใดและมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่


คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.ปส.3 จับกุม นายสกุล นัยยะ หรือเหน่ง อายุ 42 ปี ชาวจ.เชียงราย ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดย ผิดกฎหมาย”และ“สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน”นายธานนิทร์ ชนะกิจ หรือนิน อายุ 45 ปี ชาวจ.พังงา ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดย ผิดกฎหมาย” และความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ(หลบหนีไม่มาศาลตาม กำหนด) ศาลจังหวัดอํางทอง ที่ 97/2561 ลง 17 กันยายน 2561 ข้อหากระทำความผิดฐาน “พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ครอบครองและเสพเมทแอมเฟตามีน)” ตามหมายจับศาลจังหวัดพังงา ที่ 63/2561 ลง 10 ตุลาคม 2561 ข้อหา “มีพฤติการณ์หลบหนี (ให้จับจำเลยมารับโทษตามคาพิพากษาศาลอุทธรณ์)” พร้อมของกลาง ยาบ้า 780,000 เม็ด รถยนต์ จำนวน 2 คัน จับกุมได้ที่จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.61 ขณะกำลังจะส่งมอบยาเสพติดให้กับผู้ซื้อในพื้นที่อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปส.3 ได้ร่วมกันจับกุม นายวงศกร ฉัตรหิรัญเลิศ อายุ 30 ปี ชาวกทม.น.ส.อัมพริกา สิงห์ศิริ อายุ 26 ปี ชาวจว.ปทุมธานี ในข้อหา“ร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา)โดยผิดกฎหมายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ และยาอี)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าสโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง กัญชาแห้ง 1,100 กรัม ไอซ์ น้ำหนัก 7.34 กรัม และยาอี 6 เม็ด จับกุมได้วันที่ 3 ธันวาคม สืบเนืองจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สืบทราบว่า มีการติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดจากต่างประเทศ และถูกส่งมาในกล่องพัสดุ โดยส่งมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา มายังผู้รับในประเทศผ่านทาง บริษัท เฟดเอ็กซ์ จึงได้ไปขอตรวจสอบและพบว่าภายในกล่องพัสดุดังกล่าวมีกัญชาแท่ง จำนวน 2 ก้อน น้ำหนัก 1,100 กรัม จึงสืบหาตัวผู้รับกล่องพัสดุ โดยให้เจ้าหน้าที่เป็นพนักงานส่งพัสดุติดต่อไปยังผู้รับตามที่ระบุบนกล่อง ต่อมา ผู้รับได้แจ้งให้ไปส่งที่คอนโดลุมพินีปาร์ค ถนนพระราม 9 จากนั้น น.ส.อัมพริกา ได้ขับรถพานายวงศกร ไปที่คอนโดลุมพินีปาร์ค ถนนพระราม 9 ก่อนที่น.ส.อัลพริกา จะลงจากรถและเดินไปติดต่อขอรับพัสดุจากพนักงานส่งพัสดุ และเซ็นชื่อรับพัสดุ แล้วนำกล่องพัสดุเข้าไปในร้านอาหารของคอนโดลุมพินีปาร์ค ก่อนที่นายวงศกร จะลงรถเข้าไปพบน.ส.อัมพริกา แล้วตรวจพัสดุ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว จากการตรวจค้นพบไอซ์และยาอี ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าของน.ส.อัมพริกา จึงจับกุมตัวไว้


คดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สกส.บช.ปส.ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 5 รายเป็นชาว จว.เชียงราย 4 ราย และจว.พะเยา 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 500 มัดรวมประมาณ 1,000,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ 1-2 ได้ที่แยกไฟแดงป่าโมก ต.บางปลากด จ.อ่างทอง ส่วนที่เหลือจับได้ที่ถนนสายอยุธยา-อ่างทอง ต.บางเสด็จ จ.อ่างทอง เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม สืบเนื่องจากสืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาลำเลียงยาเสพติดจากจ.เชียงราย มาส่งมอบให้ลูกค้าในพื้นที่กทม.และปริมณฑล โดยใช้รถยนต์กระบะลำเลียง ใช้เส้นทางจ.เชียงราย-พะเยา-ลำปาง-ตาก-กำแพงเพชร-นครสวรรค์-ชัยนาท เข้าสู่พื้นที่ตอนใน ชุดสืบสวนจึงวางแผนสกัดกั้น จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้

คดีที่ 5 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.สกส.บช.ปส. ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาเป็นชาวจว.มุกดาหาร รวม 4 ราย พร้อมของกลาง กัญชาแห้ง น้ำหนักรวม 599 กิโลกรัม รถกระบะ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง จีพีเอส 1 ตัว โดยแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต สืบเนื่องจากชุดจับกุม ได้รับแจ้งว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่กทม.และปริมณฑล โดยขนมาจากจ.มุกดาหาร ใช้รถยนต์วิ่งเส้นทางจ.มุกดาหาร-ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม-ขอนแก่น-ชัยภูมิ-นครราชสีมา-สระบุรีเข้าสู่พื้นที่ชั้นในโดยเลี่ยงเส้นทางหลักจึงทำการสกัดกั้นจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ได้ที่ลานจอดรถหน้าเซเว่นอีเลฟเว่น อ.มวกเหล็ก จว.สระบุรีและจับกุมผู้ต้องหาอีกคนได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน ต.มวกเหล็ก จว.สระบุรี เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 61

คดี 6 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สกส.บช.ปส. ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายกฤษฎา แซ่วาง อายุ 24 ปี และนายสาคร แซ่เฮ่อ อายุ 24 ปี ทั้งสองเป็นชาวจว.ตากพร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 426 ,มัดรวมประมาณ 852,000 เม็ด ไอซ์จำนวน 3 ถุง รวมน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม.รถยนต์กระบะ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ขณะจะใช้รถกระบะลำเลียงยาเสพติดจากจ.เชียงรายมาส่งมอบให้กับลูกค้าในกทม.และปริมณฑล

และคดีที่ 7 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปส.2 ร่วมกับ บก.ขส.บช.ปส. ได้ร่วมกันจับกุม นายอุเทน ศรพร้อม อายุ 25 ปีและนายเฉลิมพล โพธิอำพล อายุ 60 ปีพร้อมของกลาง ยาบ้า 276,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง จับกุมเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะกำลังขับรถนำยาบ้าจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ตอนในและภาคใต้ ลักษณะใช้รถลำเลียงยาบ้า 1 คัน และรถนำคอนดูเส้นทาง 1 คัน ใช้เส้นทางจ.บึงกาฬ-สกลนคร-อุดรธานี-ขอนแก่น-นครราชสีมา-สระบุรี-กทม.-สงขลา แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดยาเสพติด และจับกุมนายเฉลิมพล ซึ่งทำหน้าที่ขับรถสำรวจเส้นทาง และนายอุเทนไว้ได้ โดยนายอุเทน ร่วมกับพวกอีกคนที่อยู่ระหว่างหลบหนี ทำหน้าที่ขับรถขนยาบ้า เบื้องต้นแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.

Loading