ปราจีนบุรี-2 โจรแสบใช้กระบะยกตู้เติมเงินโทรศัพท์ ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดใช้การไม่ได้
ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานงานจาก นางสาวเมตตา สุวรรณกาศ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญและตู้เติมเงินโทรศัพท์ ว่าได้ถูกโจรเข้ามาลักถอดตู้หยอดเหรียญเติมเงินโทรศัพท์ไป โดยกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านจับภาพคนร้ายไว้ได้ เกรงคดีจะไม่คืบ เพราะก่อนหน้านี้ชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันก็เคยถูกคนร้ายเข้ามาทำการแบบนี้ไปแล้ว
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นตามที่ได้รับการประสานมา
ภายในหมู่บ้านวังสำราญ รีสอร์ท ม.10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 106/62 ซ.2 ม.10 ต.ท่าตูม โดยบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวพบร่องรอยของตู้โทรศัพท์ที่ถูกคนร้ายเข้ามาลักไปเหลือเพียงแต่ตัวน๊อตที่ยึดติดกับฐานไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น ซึ่งตู้หยอดเหรียญโทรศัพท์นั้นเป็นของ”บุญเติม” ถูกยกไปทั้งตู้
จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของร้านค้าภายในหมู่บ้านสามารถจับภาพรถของคนร้านไว้ได้ โดยเมื่อเวลา 01.20 น.ของ วันที่ 12 ธันวาคม 2561 ได้มีคนร้ายขับรถเข้ามา ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อ Isuzu แค๊บ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งคนร้ายได้ขับผ่านเข้ามาก่อนที่จะเข้าไปกลับรถด้านใน และมาจอดบริเวณด้านหน้าปากซอยดังกล่าวจากนั้น 1 ใน 2 คนร้ายได้เข้าไปทำการถอดน๊อดยึดและสายไฟสายสัญญาณ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเศษ หลังจากนั้น 2 คนร้ายได้ช่วยกันเข็นรถยนต์ที่ขับมาไปยังปากซอย และเข็นถอยหลังเข้าไปเพื่อยกตู้เติมเงินดังกล่าว ก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องรถยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว
จากการสอบถาม นางสาวเมตตา เจ้าของ ผู้ดูแล ตู้เติมเงินดังกล่าวเล่าว่า “เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 12 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยมีรถยนต์กระบะคันที่ปรากฎจากภาพของกล้องวงจรปิด เป็นผู้ที่เข้ามาโจรกรรมไป และจากการที่ตนได้ตรวจสอบและขอภาพจากกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้าน ที่ได้มีการติดตั้งไว้
ผู้ที่ดูแลบอกว่ากล้องดังกล่าวนี้นใช้การไม่ได้ ตนเลยงงว่า จึงถามว่าแล้วเอามาติดไว้ทำไม เหมือนแค่เอามาเขียนเสือไว้ให้วัวกลัวเท่านั้นเอง จากนั้นตนได้พยามหาภาพจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านจนกระทั่งมาได้ภาพจากร้านค้าภายในหมู่บ้านที่สามารถบันทึกภาพรถยนต์ที่คนร้ายใช้นำมาก่อเหตุไว้ได้ ตนจึงได้มอบให้กับทางบริษัทให้เป็นคนดำเนินการแจ้งความ ส่วนคนร้ายนั้นคาดว่าเป็นคนที่รู้ดีว่ากล้องภายในหมู่บ้านใช้การไม่ได้จึงกล้าเข้ามาลักทรัพย์สินของคนในหมู่บ้านอย่างไม่เกรงต่อกลัวกฎหมาย และรถยนต์ที่วิ่งเข้าออก รวมถึงเพื่อนบ้านที่ยังนั่งสังสรรค์กันอยู่ที่ปากซอย
จึง
วอนฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้องกับกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านช่วยกันพัฒนา ซ่อมแซมเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ในเวลาที่เกิดเหตุร้ายภายในหมู่บ้าน จะได้ติดตามเยาะแสของคนร้ายได้ต่อไป
