วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

ตำรวจวจสอบหลักฐาน!!เพิ่มคดีมวยหญิงฆ่าตัวตาย”หลังญาติติดใจ”

ตำรวจตรวจสอบหลักฐานเพิ่มคดีนักมวยหญิงฆ่าตัวตาย หลังญาติติดใจ

จากคดีที่พบศพนางสาวนิติยาภรณ์ ศรีไสล อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 3 ต.สะอาดสมบูรณ์ อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด และเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชามวยไทยศึกษา ของมหาวิทยาลัยราชภัฎจอมบึง จ.ราชบุรี เป็นนักมวยชื่อดังของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งใช้ชื่อในวงการมวยว่า หงส์ขาว ม.ราชภัฎจอมบึง ผูกคอตัวเองกับขอบประตูหอพัก เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 17 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อทางญาติมาติดค่อขอรับศพกลับพบว่าที่ลำคอมีร่องรอยผูกคอสองรอย จึงทำให้ทางญาตินั้นไม่เชื่อว่านางสาวนิติยาภรณ์ จะผูกคอตายแต่อาจจะเป็นถูกจับผูกคอ และได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม

ซึ่งความคืบหน้าในคดีของวันนี้ (20ธ.ค.61) พ.ต.ท.วินัย ลายละเอียด พนักงานสอบสวนสภ.เมืองราชบุรี เจ้าของคดี ก็เปิดเผยว่า.. เมื่อทางญาติของผู้ตายยังสงสัยในการตาย ก็ต้องตรวจสอบและหาหลักฐานให้กับทางญาติ โดยพาญาติไปพบแพทย์ เพื่อให้ดูร่องรอยการผ่าชันสูตรศพ แล้วก็พาไปดูที่เกิดเหตุ แต่ทางพ่อของผู้ตายยังติดใจอยู่ ก็เลยส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งถ้าได้ความคืบหน้าก็จะแจ้งให้ญาติทราบทันที นอกจากนี้ก็ได้เรียกเพื่อนของผู้ตายทั้ง 3 คนมาให้ปากคำ และก็พี่สาวคนตายมาสอบปากคำแล้ว พี่สาวคนตายก็ไม่ติดใจ แต่ว่ามีพ่อที่ยังติดใจอยู่ ส่วนเพื่อนของผู้ตายก็เล่าให้ฟังว่าประมาณ 02.00 ของวันที่ 16 ธ.ค. หลังจากเลิกดื่มสุราด้วยกันแล้วก็เลยนอนหลับพักผ่อน ซึ่งอยู่ห้องเช่าติดกัน ในช่วงที่นั่งดื่มสุราด้วยกัน คนตายก็บ่นน้อยใจแฟน ก่อนจะแยกย้ายกันไป ซึ่งมีห้องพักอยู่ติดกัน ซึ่งขณะนี้เตรียมเรียกแฟนของผู้ตายมาให้ปากคำ ส่วนเรื่องโทรศัพท์ของผู้ตายทั้ง 2 เครื่อง ที่พบในห้องนั้น ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้นำไปตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงแล้ว แล้วก็โทรศัพท์ของผู้ตายไม่สามารถเปิดได้ เพราะว่ามีรหัส ต้องให้ญาติเป็นคนเปิดและก็ให้โทรศัพท์กับทางญาติไปแล้ว และหลังเปิดเครื่องได้แล้วจะเอามาตรวจสอบอีกที ส่วนการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู่แต่อย่างใด ประกอบกับใบชันสูตรบาดแผลตรวจร่างกายที่ศูนย์นิติเวชโรงพยาบาลราชบุรี ก็ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย แต่เพื่อความสบายใจของญาติก็ส่งศพไปให้นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจกรุงเทพฯ ชันสูตรซ้ำอีกครั้ง แต่ผลยังไม่มาครับ

ด้านนายนายฐิติชัย นิลอ่อน หัวหน้าฝ่ายกู้ภัยกู้ชีพ มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ นายรัตนะ ภู่ทับทิม และนายทิวา พัฒจันทร์หอม พนักงานกู้ชีพ ได้ร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้ว่าได้รับแจ้งจากศูนย์สั่งการราชบุรีว่ามีคนผูกคอเสียชีวิต จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งพบว่ามีประตูเปิดอยู่แล้ว มีน้องนักศึกษาเพื่อนของคนตายเป็นคนเปิดเข้าไปเลย เพราะไปเอากุญแจจากเจ้าของหอพักมาเปิดให้ มีเพื่อนมูลนิธิได้เข้าไปดูแลไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายสิ่งต่างๆภายในห้อง พบว่าน้องผู้หญิงผูกคอกับลูกกรงเหล็กที่ประตูด้านหลังห้อยตัวอยู่ ส่วนเก้าอี้ที่อยู่ด้านล่างจะถีบออกมาด้านหลังนิดหน่อย ถ้าปล่อยตัวลงมาน้องคงจะยืนไม่ถึง และจากการที่ได้ทำงานด้านมูลนิธิฯมาเกี่ยวกับการเก็บศพคนตาย น่าจะเป็นการตายปกติ เพราะว่าการผูกคอตายที่เจอมาหลายที่มีทั้งนั่งผูกก็มี ย่อตัวผูกคอตายก็มี และยืนผูกที่ตัวเองไม่ถึงก็มี เพราะเวลาคนผูกคอตาย คนเราจะต้องดิ้นทุรนทุรายอยู่แล้ว อาจจะเป็นเหตุให้เก้าอี้ขยับออกมาได้ แต่โดยมุมที่เกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปอาจจะเป็นมุมที่เป็นมุมสูง เลยทำให้มองเห็นเป็นเก้าอี้สูงอยู่ห่างจากผู้เสียชีวิตเยอะ ประกอบกับร่องรอยการต่อสู้ก็ไม่มี อีกทั้งลูกกรงเหล็กตรงนั้นไม่สามารถผูกได้เพราะมีมุ้งลวดอยู่ก่อน จะต้องแกะมุ้งลวดออกนำมาวางก่อน

ส่วนโทรศัพท์ที่พบเจอในห้องที่เกิดเหตุนั้นสภาพตั้งอยู่ติดกับโต๊ะที่มีหม้อหุงข้าววางอยู่และได้หันหน้าโทรศัพท์ไปทางผู้ตาย แต่ช่วงนั้นแบตเตอรี่โทรศัพท์หมดลง ไม่สามารถติดต่อใครได้อีกเลย คิดว่าแนวคิดจากการที่ได้ทำงานกู้ชีพ กู้ภัยมานานถ้าถูกฆาตกรรม ร่องรอยที่ร่างกายจะต้องมี อีกทั้งที่เกิดเหตุจะต้องมีข้าวของกระจัดกระจายภายในห้องบ้าง ส่วนบาดแผลบริเวณลำคอมีอยู่รอยเดียว น้องผูกคอตายเป็นเวลานานทำให้ร่องรอยลึกทำให้น้ำหนักทิ้งลงข้างล่างหมดจึงมีรอยเดียว และมีเพียงเชือกเส้นเดียวที่ใช้ตัดออกมาไม่ได้แก้ที่ลำคอ ซึ่งตนเองได้เข้าไปร่วมชันสูตรกับอาจารย์หมอพบเห็นมีแค่รอยเดียว บาดแผลอื่นไม่มี สภาพมือเกร็งทั้งสองข้างและมีเลือดไหลตกไปที่ขา ส่วนตามลำตัวและร่างกายไม่พบบาดแผล ถ้าหลักการของมูลนิธิเมื่อเข้าไปถึงที่เกิดเหตุก่อนที่จะเข้าสำรวจดูที่เกิดเหตุแล้ว ซึ่งหากน่าสงสัยก็จะยังไม่เข้าไปและจะรอเจ้าหน้าที่สายตรวจพื้นที่เข้าไปเก็บภาพดูไม่มีร่องรอยอะไรซึ่งจะรอพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวนมาเพื่อเข้าตรวจสอบพร้อมกัน
จากคำบอกเล่าของเพื่อนข้างห้องที่อยู่ด้วยกันกับผู้ตายเขาบอกว่าติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เวลา ตี 2 ของเมื่อวาน และสภาพรถยนต์เก๋งของผู้ตาย ก็ยังอยู่สภาพเดิมไม่ได้ล็อกประตู อีกทั้งห้องพักก็ยังเปิดอยู่มีขวดสุราตั้งอยู่มีแก้วกินเพียงแก้วเดียว จากคำที่เพื่อนของผู้ตายเล่าให้ฟัง พอมาดูที่เกิดเหตุสิ่งของก็ยังคงอยู่เป็นปกติ โทรศัพท์ก็อยู่สภาพปกติแต่แบตเตอรี่หมดไม่มีการรื้อค้นสิ่งของภายในห้องพักแต่อย่างใด

ล่าสุด นายสุริยันต์ และนางกิ่งแก้ว ศรีไสล พร้อมครอบครัวเข้ารับศพน้องแนน “หงส์ขาว ม.ราชภัฎจอมบึง” หลังผลชันสูตรจากสถานบันนิติเวรโรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ ระบุบสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจาก สมองขาดอากาศจากการแขวงคอ แต่ทางครอบครัวยังคงติดใจ ซึ่งหลังจากนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดร้อยเอ็ดที่บ้านเกิดแล้ว จะกลับมาที่ สภ.เมืองราชบุรี ขอให้ช่วยหาแบะแสอื่นๆเพื่อดำเนินการสอบสวนคดีนี้ใหม่อีกครั้ง

 

สุจินต์ นฤภัย (เต้)

Loading