วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

ยังไร้วี่แววเด็กจมนำ้ทะเล!!สูญหายที่หาดนราทัศน์”ชาวบ้านทำพิธีจุดธูปบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์”

ยังไร้วี่แววเด็กจมน้ำทะเลสูญหายที่หาดนราทัศน์ ขณะที่ชาวบ้านและญาติผู้ตายทำพิธีจุดธูปบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอเปิดทาง ให้พบร่าง

วันนี้ 13 มกราคม 2562 ความคืบหน้าสำหรับ เด็กชายที่ลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดนราทัศน์ ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 12 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา ทำให้ ด.ช.พัทธดนย์ อายุ 6 ปี และ ด.ญ.ออนิชา อายุ 7 ปี โดนกระแสน้ำพัดออกไปในทะเล แต่สามารถช่วย ด.ญ.ออนิชา รอดมาได้ แต่ ด.ช.พัทธดนย์ ยังไม่พบร่าง ซึ่งเป็นพี่น้องกันได้มาเที่ยวงานวันเด็กร่วมกับนางสาวพัชนี มีศักดิ์เป็นป้า อายุ 40 ปี โดยป้าได้พามาเที่ยวพักผ่อน และด.ช.พัทธดนย์ และ ด.ญ.ออนิชา ได้ลงไปเล่นน้ำทะเล ซึ่งในขณะนั้นบริเวณที่เด็กทั้ง 2 คน ลงไปเล่นน้ำนั้นเป็นเขตหวงห้ามลงเล่นทะเล เนื่องจากมีคลื่นลมแรง และเป็นแอ่งกระทะที่มีน้ำวน

ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ (13.ม.ค.62) หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ได้สนับสนุนเรือยางและเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำจากกองทัพเรือ ค่ายจุฬาภรณ์ และชาวประมงมาทำการงมในบริเวณที่เด็กจมหายใกล้กับโคกหินกั้นคลื่น ซึ่งการปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากคลื่นลมแรงจนพัดเจ้าหน้าที่จนร่างเซไปเซมาและยากในการดำ เพราะในบริเวณดังกล่าวมีก้อนกินหินขนาดใหญ่ถมไว้เป็นที่กั้นคลื่น โดยเจ้าหน้าที่ทำการดำวนหาอยู่ประมาณ 30 นาทีก็ต้องขึ้นฝั่ง เพื่อวางแผนการณ์ใหม่และกำหนดจุดอีกครั้งก่อนที่จะดำลงไปงมหาอีกรอบ

สำหรับเรือยางติดเครื่องยนต์ที่ได้รับการสนับสนุนมานั้น เจ้าหน้าที่จะการออกลาดตระเวรในบริเวณริมชายฝั่ง เพื่อตรวจหาดูว่าจะมีศพของ ด.ช.พัทธดนย์ จะโผล่ขึ้นในบริเวณใดบ้าง

ทางด้าน นายยะห์ยา ปะนาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาส พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ร่วมประชุมวางแผน ในการค้นหาผู้สูญหายให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพพร้อมกับสั่งกำชับไปยังผู้ใหญ่บ้านที่มีภูมิลำเนาอยู่ริมทะเลตั้งแต่บ้านทอน ต.โคกเคียนไปจนถึงบ้านบาเละฮีเล อ.เมืองนราธิวาส ให้นำลูกบ้านออกสำรวจและเฝ้าพื้นที่ริมทะเลของแต่ละหมู่บ้านเพื่อออกหาศพผู้เสียชีวิตอีกแรงหนึ่งด้วย

นอกจากนี้แล้วชาวบ้านและญาติของผู้ตาย ได้มีการจุดธูปเทียน เพื่อขอเปิดทางให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อเพื่อให้พบร่างของเด็กชายน้อยวัย 6 ขวบ โดยเร็ว เพื่อที่จะได้นำศพไปพิธีทางศาสนาพร้อมกับ น.ส.พัชนี ขำนิอรัญ ซึ่งเป็นป้าของ ด.ช.พัทธดนย์ ซึ่งตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดโคกโก ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส

ส่วน น.ส.เปี่ยมฤทัย แก้วฉาย อายุ 55 ปี ป้าของผู้ตายทั้ง 2 เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายทั้ง 2 คน และ ด.ญ.ออนิชา ได้มาเยี่ยมตนที่รงพยาบาลนราธิวาสฯหลังจากที่ตนออกจากโรงพยาบาลแล้วจึงคิดกันว่าก่อนจะกลับบ้านจะไปเที่ยวไหนกันดี และทุกคนลงมติว่าจะมาเที่ยวชายทะเลที่หาดนราทัศน์กัน จากนั้น ด.ช.พัทธดนย์ ด.ญ.ออนิชา จึงขอลงไปเล่นน้ำทะเลกัน ซึ่งขณะนั้นก็มีเด็กๆเล่นกันเป็นจำนวนมาก ตนเลยยอมให้เด็กทั้ง 2 คน ลงไปเล่นด้วย ต่อมาไม่นานเห็นเด็กทั้ง 2 คนอยู่ในอาการคล้ายจะจมน้ำจึงตะโกนบอกให้ น.ส.พัชรี ว่าเด็กจมน้ำ น.ส.พัชรีจึงวิ่งลงไปช่วย แต่ถึงตัว ด.ญ.ออนิชา ก่อน จึงคว้าตัวพาขึ้นฝั่งและชาวบ้าน เจ้าหน้าที่มูลนิธิเมตตาธรรมมาถึงพอดีก็ช่วยกันปั้มหน้าอก แบกตัว ด.ญ.ออนิชาขึ้นบ่า เพื่อช่วยชีวิจ จน ด.ญ.ออนิชา หายใจขึ้นมาอีกครั้ง จึงส่งโรงพยาบาลได้ทัน และหลังจากที่ น.ส.พัชรี ช่วย ด.ญ.ออนิชาแล้วจึงรีบวิ่งไปช่วย ด.ช.พัทธดนย์ แต่ด้วยคลื่นลมพักแรงจึงพาร่าง ด.ช.พัทธดนย์ ลงทะเลไกลกว่าเดิม จึงทำให้ น.ส.พัชรี เกิดเหนื่อยและหมดแรงจมลงน้ำทะเลไปอีกคน ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันลงไปงมหา แต่ด้วยในขณะนั้นคลื่นลมแรงจึงไม่สามารถหาเจอ.

ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส

Loading