วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

ศรีสะเกษ!!คืบหน้า นศ.พยาบาล”นับร้อยรำ่ไห้ขอรับเงินกู้ยืมเรียน”

ศรีสะเกษ คืบหน้า นศ.พยาบาลนับร้อยร่ำไห้ขอรับเงินกู้ยืมเรียน ประธานคณะกรรมกาประสานงานเพื่อพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ เสนอรัฐบาลให้ปฏิรูปกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาไปให้กระทรวงศึกษาธิการดูแลแทนกระทรวงการคลังซึ่งระบบล่าช้ามาก เนื่องจากว่ากระทรวงศึกษาธิการมีหน้าที่พัฒนาการศึกษาและดูแลใกล้ชิดเด็กมากกว่า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ คณะนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ ต.โพธิ์ อ.เมือง จ. ศรีสะเกษ จำนวนประมาณ 200 คน นำโดย นางสาวเจนจิรา คงสุข อายุ 21 ปี และนายนิรอมซี ดอยา อายุ 22 ปี ซึ่งนักศึกษาทั้งหมดเป็นนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 และปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ซึ่ง นศ.ทั้งหมดพ่อแม่เป็นชาวไร่ชาวนาได้พากันร่ำไห้ ไปยื่นหนังสือร้องทุกข์กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รมต.ผ่าน ผวจ.ศรีสะเกษ เนื่องจากว่าไม่ได้รับเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษามานานร่วม 1 ปีแล้ว ทั้งที่ได้ดำเนินการด้านเอกสารครบถ้วนตามระเบียบปฏิบัติที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษากำหนดไว้ทุกประการ ได้ส่งผลให้ นศ.และพ่อแม่ผู้ปกครอง ได้รับความเดือดร้อนมาก เนื่องจากว่า ต้องพากันขายวัวขายควาย ขายนา และพากันไปกู้หนี้ยืมสินเงินกู้นอกระบบมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนหนังสือ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 62

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านโนนสำนัก ต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนา จ.ศรีสะเกษ หรือ (ค.ป.ศ.) และอดีต ผอ.ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ กล่าวว่า กรณีเรื่องความเดือดร้อนของ นศ.คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ ที่ได้ยื่นเรื่องขอกู้เงินยืมเรียนไปครบถ้วนนานร่วมปีแต่ยังไม่ได้รับเงินกู้ยืมนั้น ตนเห็นว่า เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าในการเรียนของ นศ.พยาบาลนั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายมากมายหลายอย่าง แต่ว่าเมื่อเด็ก นศ.ที่เป็นอนาคตของชาติถึงกับร่ำไห้เพื่อขอเงินกู้ไปเรียนหนังสือนั้น นับว่าเรื่องที่น่าชื่มชมมากและต้องให้การส่งเสริมสนับสนุน ที่เห็นเด็กมีความตั้งใจใฝ่เล่าเรียน แต่ว่าติดขัดเงินทองเพราะว่า พ่อแม่ผู้ปกครองขาดเงินในการส่งเสียเล่าเรียน จึงต้องพึ่งพาอาศัยขอกู้เงินจาก กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ต้องเร่งส่งเสริมสนับสนุนตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งตนสงสัยและอยากให้ผู้มีอำนาจได้ตรวจสอบว่า เพราะเหตุใดเวลาที่ผ่านไปนานร่วมปีแล้ว แต่เด็กยังไม่ได้รับเงินกู้ที่ขอยืมจากกองทุนเอาไว้ทั้งที่เอกสารหลักฐานถูกต้อง หรือว่า ติดขัดตรงไหนที่ใดทางกองทุนก็ควรที่จะแจ้งให้เด็กได้แก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เด็กได้รับเงินโดยเร็ว ไม่ใช่ปล่อยให้เด็กและผู้ปกครองได้รับความเดือดร้อนมากจนต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาให้ลูกหลานเรียนหนังสือแบบนี้
นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนา จ.ศรีสะเกษ หรือ (ค.ป.ศ.)

กล่าวต่อไปว่า กรณีเรื่องที่เป็นปัญหาอยู่นี้กระทบกับผู้คนที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็ก นศ.ที่เป็นอนาคตของชาติ เพราะฉะนั้นตนจึงเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปฏิรูปกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาใหม่ โดยเสนอว่า ควรที่จะโอนเรื่อง กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จากกระทรวงการคลังไปให้กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการแทน เนื่องจากว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า ระบบการทำงานของกระทรวงการคลังล่าช้ามาก และไม่น่าที่จะมีประสิทธิภาพเพียงพอในการให้บริการด้านนี้ หากโอนเรื่องกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาไปอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของกระทรวงศึกษาธิการน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะว่า ใกล้ชิดรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเด็ก นศ.มากกว่า และมีจำนวนบุคลากรมากกว่า จึงน่าที่จะเกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานบริหารกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้ดีกว่ากระทรวงการคลังอย่างเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ตนจึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รมต.ขวัญใจประชาชนชาวไทย ได้พิจารณาดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เด็ก นศ.อย่างเต็มที่ต่อไป

บุญทัน ธุศรีวรรณ ข่าว/ภาพ จังหวัดศรีสะเกษ

Loading