วันศุกร์, 19 เมษายน 2567

ที่นี่หนองง้าว!!แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติกลางทุ่งนา”

ราชบุรี  ที่นี่หนองง้าว แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติกลางทุ่งนา

สองสามีภรรยา ชาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้พลิกผืนนา 14 ไร่ เป็นจุดเรียนรู้สาธิตการสานจากฝีมือของชาวบ้าน บ้านไม้ไผ่ ผสมผสานกับกองฟางข้าว สะพานไม้ไผ่ แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของดีเมืองปากท่อ

นายธนโชติ ทองสกุล และนางธนพร หลอดทองแดง สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 3 ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เจ้าของ ภูล้อมโฮม หรือ “ ที่นี่หนองง้าว ” แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ซึ่งได้มีแนวคิดพัฒนาผืนนาของครอบครัวบนพื้นที่ประมาณ 14 ไร่ เป็นลักษณะธรรมชาติแบบย้อนยุคดั้งเดิมจำลองวิถีชีวิตในชนบท ปลูกสร้างกระท่อมไม้ไผ่ มีสะพานไม้วางเรียงทอดยาว มีการนำก้อนฟางมาจัดวางในรูปทรงพร้อมปลูกดอกไม้หลากสีสันสวยงาม และยังได้นำผลิตภัณฑ์จักสาน และเศษไม้สักชิ้นเล็ก ๆ ที่ไร้ค่ามาใช้ประโยชน์ดัดแปลงสร้างเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น ม้า ช้าง ขนาดใหญ่มาตั้งวางไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม และเซลฟี่บันทึกภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก พร้อมสูดอากาศที่บริสุทธิ์ท่ามกลางบรรยากาศสไตล์ลูกทุ่ง

ทั้งนี้ นายธนโชติ ทองสกุล เปิดเผยว่า วิถีชุมชนเป็นแนวทางเลือกของคนเมือง ซึ่งตอนนี้ได้รับผลกระทบเรื่องมลภาวะ มองว่าที่นี่มีอากาศบริสุทธิ์ อีกทั้งสภาพพื้นที่มีภูเขาล้อมรอบ จึงร่วมกันสร้างผืนนาขึ้นมาให้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว หนึ่งเดียวใน อ.ปากท่อ เพื่อให้ประชาชนได้มีแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ไม่เหมือนที่ไหน ลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร วิถีชุมชน ด้านในจะมีม้าตัวใหญ่ทำด้วยรากไม้ชิ้นเล็กๆในรูปทรงต่างๆมาประกอบเป็นตัวม้าได้อย่างสวยงามแปลกตา ใช้ทุนสร้างประมาณ ตัวละ 250,000 บาท ช้างไม้สักตัวละ 190,000 บาท บริเวณทุ่งนาจะมีร้านค้าชุมชนที่จะจำหน่ายอาหารไทยหลากหลายชนิด มีกิจกรรมพายเรือเที่ยวได้รอบพื้นที่ อีกโซนจะมีการตกแต่งอุโมงค์ต้นไม้เลื้อย ฟัก แฟง บวบ มีม้า ควายกินหญ้าอยู่ในทุ่งนา

อีกโซนพื้นที่จัดเป็นสถานที่รับประทานอาหาร มีชุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นบันไดไปชมทัศนียภาพด้านบน บ้านแบบลูกทุ่งลักษณะปลูกสร้างด้วยไม้ไผ่ และกำลังเตรียมปลูกสร้างบ้านทรงไทยเพิ่มเติมอีก จึงอยากให้ชาวบ้านในพื้นที่นำพืชผัก ผลไม้ปลอดสารมาวางจำหน่าย เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมช่วงวันหยุด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ อนาคตอันใกล้นี้จะมีเข่งใบใหญ่ที่สุดในโลก เป็นไฮไลท์ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปดูวิวทิวทัศน์ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย เนื่องจากในหมู่บ้านมีอาชีพดั้งเดิมสานเข่งที่ทำมาจากไม้ไผ่ขายมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเข่งที่ใช้ใส่วัสดุต่างๆ รวมทั้งพืชผัก ผลไม้ก็ได้ มีหลากหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ อายุการใช้งานทนทานได้หลายปี นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมและเรียนรู้การสาธิตการสานเข่งจากฝีมือของชาวบ้าน หลังเที่ยวชมเสร็จแล้วถ้ารู้สึกหิวก็ยังมีกาแฟ และอาหารในเมนูพื้นบ้าน และอีกหลายเมนูมีให้เลือกชิมทั้งสไตล์ลูกทุ่ง อนาคตกำลังจะเตรียมพัฒนาพื้นที่ต่อไปเรื่อยๆเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจของผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้นายธนโชติ ทองสกุล เบอร์ 086-3668367

 

สุจินต์ นฤภัย (เต้)

Loading