วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

บิ๊กอวบ-บิ๊กนู-บิ๊กแซ็ก-เดอะโอ๋!!!คุมตัวไอ้เด่อ”ทำแผนประกอบคำสารภาพ

01 มี.ค. 2019
11

บิ๊กอวบ บิ๊กนู บิ๊กแซ็ก เดอะโอ๋!!! คุมไอ้ เด๋อ ทำแผนประกอบคำสารภาพ


วันนี้ 28 ก.พ.62 ที่สภ.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จว.ลพบุรี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วยพล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1(สส)พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1พล.ต.ต.สุนทร โตรอด ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร สว.บก.สส.ภ.1พ.ต.อ.ภูการวิก โชติกเสถียร ผกก.สภ.โคกสำโรงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัวนายมนตรี หรือ เด๋อ หรือ เบิร์ด ปภัสสโร อายุ 32 ปี(ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 27/62 ลงวันที่ 21 ก.พ.62)


พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 19 ก.พ.62 เวลา 07.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ สภ.โคกสำโรง ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้พบศพเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตชื่อ นางหวน อยู่คง อายุ 53 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดเขียวท่อนล่างเปลือย ลักษณะนอนคว่ำอยู่ริมถนนสาธารณะและใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพศพมีรอยแผลถลอกด้านหลังข้างขวาและขาข้างขวามีแผลถลอกในที่เกิดเหตุพบกางเกงยีนส์สีน้ำเงินถอดกองอยู่และรองเท้าของ นายมนตรี พร้อมหมวกกันน็อค 1 ใบตกอยู่

จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุพบเสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีแดงมีรูปปืนบนหน้าอกด้านซ้ายและกางเกงขาก๋วยสีดำขาสามส่วนตกอยู่ห่างอยู่ที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตรเมื่อสอบถาม นายหยวก อยู่คง(สามี ของนางหวน)ให้การว่าก่อนเกิดเหตุ นางหวน ภรรยาของตน ได้ซ้อนรถจักรยานยนต์ออกไปกับนายมนตรีเพื่อไปทำงานรับจ้างที่ ต.วังขอนขว้าง อ.โคกสำโรง จว.ลพบุรี ตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันที่ 18 ก.พ.62 แต่ไม่ได้กลับมาที่บ้านจนกระทั่งเช้าวันเกิดเหตุถึงทราบเรื่องที่นางหวนเสียชีวิต


ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.สส.ภ.1ได้ร่วมกันบูรณาการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าวคือ นายมนตรี หรือ เด๋อ หรือ เบิร์ด ปภัสสโร จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายมนตรีต่อศาลจังหวัดลพบุรี ในข้อหา“ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่น” ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมตัวนายมนตรี หรือ เด๋อ หรือ เบิร์ด ปภัสสโร ไว้ได้และได้นำตัว นายมนตรี หรือเด๋อ ปภัสสโร มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่เชิงเขาดิน หมู่ 8 ต.คลองเกตุ อ.โคกสำโรง จว.ลพบุรี โดยมีชาวบ้านมายืนมุงดูเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำเชือกมากั้นไว้เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าไปภายในพื้นที่ เพื่อหลีกเลี่ยงการรุมประชาทัณฑ์
พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวว่า นายมนตรี ได้ให้การสอดคล้องกับการสอบสวนและพยานหลักฐาน ดีเอ็นเอที่พบได้ส่งไปให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอผล โดยสาเหตุที่ทำลงไปเพราะตนโกรธที่นางหวนและนายหยวกด่าทอตลอดในระหว่างที่อยู่ด้วยกันไปทำงานก็ไม่ได้เงินเดือนพอตนดื่มสุราเข้าไป จึงทำให้เกิดอาการมึนเมาและเกิดอารมณ์ ประกอบกับเส้นทางที่มาเปลี่ยว จึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว
พล.ต.ต.สุภธีร์ เปิดเผยว่า ในระหว่างเกิดเหตุนายมนตรีขับรถจักรยานยนต์มากับนางหวน ระหว่างทางมีปากเสียงกัน นายมนตรีจึงพานางหวนมาที่จุดเกิดเหตุ และลงใช้มือต่อยตามร่างกาย ก่อนใช้มือต่อยผู้ตาย 3 ครั้ง ทำให้นางหวนแน่นิ่งไป จากนั้นนายมนตรีถอดกางเกงนางหวนออกเพื่อจะข่มขืน ซึ่งระหว่างนั้นนายมนตรีเห็นว่ามีรถผ่านมา และเปิดไฟใส่ จึงตกใจและวิ่งหนีไป กระทั่งมาตามจับตัวได้ดังกล่าว

พล.ต.ต.ธนายุตม์ เปิดเผยว่าในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่านายมนตรีต่อยผู้ตายจนเสียชีวิต ขณะนี้กำลังรอผลการชันสูตรอีกครั้ง ซึ่งจากการชันสูตรเบื้องต้นพบว่าผู้ตายม้ามแตก ตับฉีกขาด และซี่โครงหักและจากการตรวจประวัตินายมนตรี มีคดียาเสพตติด ติดตัวในจ.ราชบุรี และคดีทำร้ายร่างกายแม่เลี้ยง ที่จ.อุดรธานี และนายมนตรีเคยเป็นนักมวยมาก่อน เคยขึ้นชกบนเวทีประมาณ 21 ครั้ง ขณะนี้ตรวจปัสสาวะแล้วไม่มีสีม่วง
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า” ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน.สภ.โคกสำโรง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” ปูพรมค้นหาตัวผู้ต้องหาตามไร่มันสำปะหลังและพื้นที่โดยรอบ อย่างไม่ย่อท้อ จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา ผู้ต้องหามีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม หากปล่อยไว้ย่อมเป็นภยันตรายต่อการใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขของชาวโคกสำโรง การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
ในนามของตำรวจภูธรภาค1 จึงขอชมเชยและขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

Loading