วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนำผู้สมัคร ส.ส.3 จว.ชายแดนใต้ปราศรัยใหญ่”

20 มี.ค. 2019
21

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำผู้สมัครจาก 3 จ.ใต้ ปราศรัยใหญ่ที่ อ.รือเสาะ ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาให้กำลังใจแน่นสนามกีฬา ทำให้รถติดในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะนานหลายชั่วโมง ชูประเด็นพร้อมรับแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเสียงเครื่องจักร เปลี่ยนงบลับเป็นงบลงทุน ชูปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6 ตัน สร้างรายได้ปีละ 400,000 บาท

ณ สนามกีฬาเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายอนุทิน ชาญวิรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย ดร.นาที รับกิจประการ กรรมการบริหารพรรค ศุภชัย ใจสมุทร กรรมการบริหารพรรคฯ นำตัวผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขึ้นเวทีแนะนำตัวให้กับประชาชนที่มานั่งฟังการปราศรัยใหญ่พร้อมรับฟังนโยบายของพรรคฯ โดยมีประชาชนจากพื้นที่ 3 จ.ใต้ มาร่วมต้อนรับมอบดอกไม้และถ่ายรูปกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จำนวนไม่น้อยกว่า 35.000 คน จนแน่นสนามท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ โดยไม่มีใครยอมหนีไปไหน

จากนั้นผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทยจากพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส สลับกันขึ้นเวทีแนะนำตัวให้ประชาชนที่มาร่วมรับฟังนโยบายได้รู้จักพร้อมนำเสนอในสิ่งที่นโยบายพรรคมีความต้องการที่จะพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ก้าวไกลไปในทุกๆด้านทั้งด้านการศึกษาและการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มาเยือนและชื่นชมในความสวยงามของธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เกิดรายได้และการหมุนเวียนของเงินตราให้เกิดความมั่นคงต่อประชาชนในอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการแก้ปัญหาด้านการประมง การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม

จากนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูใจไทย ได้ขึ้นปราศรัยนโยบายของพรรคที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี โดยการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนโดยเฉพาะยางพารา ซึ่งทางพรรคนโยบายชัดที่จะรับที่จะทำให้ราคายางพาราสูงถึงกิโลกรัมละ 70 บาท ปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 5 บาท การยกระดับ อสม.เป็นหมอประจำบ้าน ค่าตอบแทน 2,500 – 10,000 บาท ต่อเดือน ลดอำนาจรัฐเปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเสียงจักรกล ทวงคืนคืนกำไรให้เกษตรกร เปลี่ยนสวนปาล์มเป็นบ่อน้ำมัน โรงไฟฟ้าจากน้ำมันปาล์ม ยางพาราระบบกำไรแบ่งปันเป้าหมายที่ กก.ละ 70 บาท แก้กฎหมายประมงเพื่อทางรอดชาวประมงไทย ออกกฏหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเสียงเครื่องจักร เปลี่ยนงบลับเป็นงบลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ แก้หนี กยศ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีค่าปรับ ผ่อนคืนเงินต้น 10 ปี ปลอดหนี้ 5 ปี เรียนออนไลน์ฟรีตลอดชีพ ทุกคนต้องมีโอกาสได้เรียนฟรีเท่าเทียมกัน

ซึ่งตลอดเวลาของการแถลงนโยบายของพรรคภูมิใจไทยในครั้งนี้ สร้างเสียงปรบมือจากประชาชนที่มารับฟังนโยบายอยู่ตลอดเวลาเป็นระยะๆ แต่ที่ทำให้เกิดเสียงหัวเราะและสร้างรอยยิ้ม และเสียงปรบมือด้วยความชื่นชอบของประชาชนมากที่สุดคือ นโยบายการสร้างรายได้อย่างมหาศาลต่อครอบครัวในยามเศรษฐกิจฟืดเคือง คือการปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6 ต้น และเมื่อปลูกแล้วจะสามารถไปขายให้กับองค์กรภาครัฐที่จะตั้งขึ้นมา กก.ละ 70,000 บาท นำไปผสมอาหารได้ ปรุงอาหารได้ รักษาโรคได้ ป้องกันโรคได้ จะสร้างรายได้ครัวเรือนละ 400,000 บาท ต่อปี

ด้าน ดร.นาที รับกิจประการ กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย อดีต สว.และ สส.จ.พัทลุงในฐานะแม่ทัพของพรรคดูแลผู้สมัคร สส.ใน 14 จังหวัดภาคใต้ 50 เขต เปิดเผยว่า ในวันนี้มีโอกาสมาพบปะกับผู้สมัคร สส.ของพรรคใน 3 จังหวัดภาคใต้ ส่งครบ 11 เขต โดยนโยบายเน้นในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ พร้อมยกระดับภาคใต้ให้เท่าเทียมภาคกลางที่มี AEC และนโยบายการเกษตร การศึกษา ให้เป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะนักศึกษาที่จบมาจากต่างประเทศ ซึ่งจะต้องได้รับการยอมรับจากประเทศไทย การเรียนฟรีทางมือถือเพื่อลดภาระของครอบครัว และการสร้างงานให้ประชาชนในพื้นที่ การพัฒนาการท่องเที่ยว ในฝั่งอ่าวไทย การแก้ปัญหาการประมงพื้นบ้านจะต้องทะลายทุกข้อจำกัดที่เป็นปัญหาอุปสรรคอยู่ในขณะนี้ เรื่องของ OTOP เรื่องของอาหาร ผ้า และสินค้าต่างๆที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น ต้องสร้างให้เป็นรายได้แก่ท้องถิ่นไปด้วย

ในส่วนของ 3 จังหวัดภาคใต้ 11 ที่นั่ง ทางพรรคได้ส่งทุกเขต และคาดการไว้อย่างน้อย 5 เขต ถ้าประชาชนให้โอกาส

ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส

Loading