วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

จังหวัดศรีสะเกษเตรียมบำเพ็ญพระกุศลและเปลี่ยนผ้าไตรสรีระสังขารหลวงปู่สรวง”วัดไพรพัฒนา

จังหวัดศรีสะเกษเตรียมบำเพ็ญพระกุศลและเปลี่ยนผ้าไตรสรีระสังขารหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา ในวันที่ 8 เมษายน นี้


ด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงโปรด ให้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้แทนพระองค์ ประกอบพิธีบำเพ็ญพระกุศลและเปลี่ยนผ้าไตรสรีระสังขารหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 8 เมษายน 2562 เวลา 10.00 น นั้น.
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562 นายสืบ ชื่นอารมณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองพระราชพิธี และคณะ ลงพื้นที่ตรวจและติดตามความก้าวหน้าในการเตรียมบำเพ็ญพระกุศลและเปลี่ยนผ้าไตรสรีระสังขารหลวงปู่สรวง มีพระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) นายบุญชู บุดห์ดา วัฒนธรรมอำเภอภูสิงห์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมบรรยายความก้าวหน้าในการเตรียมสถานที่รับเสด็จในครั้งนี้


พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ กล่าวว่า ผ้าไตร ประกอบด้วย สบง จีวร อังสะ ผ้า 3 ผืนนี้ คณะสงฆ์วัดไพรพัฒนาได้ร่วมกันน้อมแสดงถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบูรพาจารย์ คือ หลวงปู่สรวง ซึ่งร่างกายหรือสังขารไม่เน่าเปื่อยสถิตในโลงแก้ว ซึ่งการเปลี่ยนผ้าเปรียบเสมือนการป้องกันและปกป้องร่างกายมิให้เป็นที่น่ารังเกียจ โดยอานิสงส์ของการถวายผ้าไตรจีวรนั้น เมื่อเกิดมาในภพภูมิใดจะมีเสื้อผ้าเครื่องอาภรณ์สวมใส่ ทั้งนี้ การเปลี่ยนผ้าไตรหลวงปู่สรวงดำเนินการโดยคณะศิษย์ผู้ใกล้ชิดที่เป็นชายเท่านั้น และปิดผ้าม่านอย่างมิดชิด ซึ่งการเปลี่ยนผ้าไตรนี้ได้ทำติดต่อกันมาปีนี้เป็นปีที่ 18 แล้ว แต่ละปีมีประชาชนและลูกศิษย์หลวงปู่สรวงจากทั่วประเทศมาร่วมพิธีกันจำนวนมาก เมื่อเสร็จพิธีจะนำโลงแก้วขึ้นไว้ที่เดิม เพื่อให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้บูชาต่อไป


พระครูโกศลสิกขกิจ กล่าวต่อไปว่า หลวงปู่สรวง ชาวบ้านรู้จักกันว่าเป็นพระชาวกัมพูชา ที่อาศัยอยู่แถบชายแดนตามเชิงเขาพนมดงรัก เป็นผู้ทรงศีลปฎิบัติธรรม พักอาศัยอยู่ตามกระท่อมในไร่นาของชาวบ้าน และย้ายไปในที่ต่างๆตามแถบเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งชาวบ้านทั่วไปจะเข้าใจท่านในฐานะผู้ทรงศีลที่มีคุณวิเศษ มีความเมตตาช่วยเหลือชาวบ้าน และเรียกขานว่า “ลูกเอาวเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” เป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบส เป็นพระมักน้อย สันโดษ สมถะ มีอุเบกขาสูง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวกัมพูชา รวมถึงชาวจังหวัดศรีสะเกษและใกล้เคียง หลวงปู่สรวง ละสังขาร เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2543 แต่สังขารยังคงสภาพเดิม ศิษยานุศิษย์จึงได้นำสรีระสังขารหลวงปู่สรวงบรรจุในโลงแก้ว พร้อมสร้างมณฑปปราสาทให้เพื่อถวายเป็นกุศล

ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

Loading