วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

ชาวชัยภูมิ!!จับอึ่งอ่างขายสร้างรายได้งาม”ช่วงฝนแรกของปีอย่างคึกคัก”

ชัยภูมิชาวบ้านออกจับอึ่งอ่างมาขายรายได้งามและเปิบพิสดารในช่วงฝนแรกของปีอย่างคึกคัก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดพายุฝนตกหนักและตกติดต่อกันนานหลายวันในพื้นที่ จังหวัดชัยภูมิ ตั้งแต่ช่วงกลาง เดือน มีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านต่างพากันแห่ออกไปหาจับอึ่งอ่างที่ออกมาเล่นน้ำผสมพันธุ์และวางไข่ตามท้องนา ป่าละเมาะ หรือตามไร่ สวน แล้วนำมาส่งขายตามจุดขายของป่าและขายส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดกันเป็นจำนวนมาก โดยมีชาวบ้านที่ชอบรับประทานอึ่งอ่างต่างพากันมาเลือกซื้อนำประกอบอาหารพื้นเมืองทานกันอย่างคึกคัก สร้างรายได้แก่พ่อค้าแม่ค้าวันละไม่ต่ำกว่า 1-2 พันบาทต่อวันในระยะนี้

โดยเฉพาะที่บริเวณตลาดขายของป่า ต.วังตะเฆ่ ไปจนถึงจุดขายของป่าเขาวงบ้านท่าโป่ง ต.วังตะเฆ่ซึ่งเป็นแหล่งซื้อขายของป่าที่ออกตามฤดู กาล พบว่า มีชาวบ้าน ต่างพากันนำ ของป่าเช่นผักต่างๆและอึ่งอ่างที่พากันออกไปหาส่องและจับตามหัวไร่ปลายนาและชายป่ามาขายให้กับชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปมาที่บริเวณดังกล่าวทั้งนี้ก็ยังได้แบ่งขายให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหลายราย ที่มารับซื้อไปใส่กะละมัง วางขายให้กับชาวบ้านที่นิยมชมชอบเปิบพิษดารรับประทานอึ่งอ่าง ซึ่งอึ่งอ่างสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู อาทิ ผัดกะเพรา ต้มยำ หรือจะนำไปปิ้งย่างก็ได้ แต่เมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ต้มยำอึ่งใส่ใบมะขามอ่อนซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ชอบเปิบพิสดารเป็นอย่างมากสำหรับเมนูอึ่งในช่วงนี้


สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปที่บริเวณจุดขายของป่าที่บ้านท่าโป่งป่าเขาวงและหน้าอบต.วังตะเฆ่นั้นพบว่า มีชาวบ้านหลายรายต่างมาเลือกซื้ออึ่งอ่าง นำกลับไปประกอบอาหารที่บ้านกันอย่างคึกคัก ส่วนราคาขายอึ่งอ่างที่นำมาวางขาย จะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 250ถึง300 บาท และขายเป็นถุงก็ราคาถุงล่ะ100บาทขึ้นอยู่กับขนาดของอึ่งอ่าง ว่า มีไข่มากน้อยเพียงใด สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านหรือพ่อค้าแม่ค้าในช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี
ชาวบ้านขับรนถผ่านไปมาก็จะแว๊ะซื้ออึ่งอ่างที่มาวางขายกันอย่างคึกคัก โดยอึ่งอ่างที่นำมาวางขายเป็นอึ่งอ่างที่จับได้เป็นครั้งแรกของปีหลังฝนตกหนัก โดยชาวบ้านจะไปจับในสวนและตามชายป่าและตามหัวไร่ปลายนาใกล้หมู่บ้านในช่วงกลางคืนและบางบางพื้นที่ที่มีอึ่งอ่างมากออกมาเล่นน้ำแข่งฝนในช่วงกลางวัน ได้อึ่งอ่างไม่ต่ำกว่าวันละ 20-30 ก.ก. จากนั้นตอนเช้าจะนำมาล้างน้ำให้สะอาดเอาเมือกออก แล้วนำมาส่งขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบเปิบพิสดารอึ่งอ่างหรือขายส่งให้กับแม่ค้า โดย อึ่งเค้าลายข้างชาวบ้านจะนิยมกินกันมาก

ขณะที่ชาวบ้านที่มาซื้ออึ่งอ่างไปประกอบอาหาร กล่าวว่าอึ่งอ่างทำเป็นอาหารพื้นบ้านได้หลายชนิด ทั้งต้มส้มยำอึ่งไข่ ต้มยำอึ่งอ่างใส่ใบมะขามอ่อน ย่างอึ่งอ่าง ยำ ผัด หรือแกงอ่อมก็อร่อย ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของผู้รับประทานแต่ละคน แม้ราคาจะสูงเนื่องจากเป็นช่วงแรกที่อึ่งอ่างออกสู่ตลาด เริ่มต้นฤดูฝนจึงนิยมซื้อไปประกอบอาหารเอง เนื่องจากเนื้อแน่น ไม่มีมันเยอะโดยอึ่งอ่างถือเป็นอาหารพื้นบ้าน ที่ชาวบ้านหรือแม้แต่ร้านอาหารพื้นเมืองก็นิยมนำไปประกอบอาหาร เช่น อึ่งอ่างทอดกรอบ หรือนำไปแกง หรือผัดหรือย่างเกลือ ทานกับข้าวเหนียวร้อนๆก็อร่อย ทั้งนี้สำหรับเมนูอาหารที่นิยมทำก็จะเป็นต้มยำอึ่งใส่ใบมะขามอ่อน ซึ่งจะมีรสชาติอร่อยกว่ากบ เนื่องจากเป็นอาหารที่หารับประทานได้ยาก จะหารับประทานได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น ส่วนราคาก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอรับได้ ไม่แพงเกินไป เพราะหนึ่งปีจะมีอึ่งให้กินกันเพียงครั้งเดียว

ด้านแม่โรย เตียงมโน อายุ67ปี บ้านเลขที่121หมู่13บ้านวังอุดม ต.วังตะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ
ชาวสบ้านที่ออกหาอึ่งอ่างมาขาย เล่าว่า ช่วงนี้ เป็นช่วงที่มีพายุฝนเข้ามาตกในพื้นที่ ทำให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ต่อเนื่องหลายวันและเกิดน้ำท่วมขังตามไร่นาซึ่งจะมีอึ่งอ่างภูเขาออกมาหากินและเล่นน้ำฝนร้องหาคู่ผสมพันธุ์กันเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงได้พากันออกหาจับอึ่งอ่างมาขาย เป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัว โดยอึ่งอ่างจะออกมาให้จับปีละครั้งในช่วงนี้เท่านั้น จึงถือว่าเป็นอาหารป่าหารับประทานยาก ดังนั้นจึงเป็นที่ต้องการของผู้คน ซึ่งนิยมซื้อไปประกอบอาหารกินกัน โดยจะขายทั้งสดและทำปลาล้าอึ่งอ่างขายกัน สำหรับอึ่งอ่างสดจะ ขายกิโลกรัมละ 250 -300บาท โดยอึ่งอ่างที่มาวางขายนั้นจะแยกออกเป็น2ชนิด คือ อึ่งเค้าและอึ่งข้างลายหรือเรียกอีกชื่อว่าอึ่งยาง ตัวเมียที่มีไข่เต็มท้อง ขายกก.ล่ะ 300 บาท ซึ่งช่วงนี้สร้างรายได้แก่พ่อค้าแม่ค้าได้อย่างดีทีเดียวแต่ในขณะเดียวกันก็อยากฝาถึงเกษตรกรควรงดใช้สารเคมีบ้างจะดีเพื่อเป็นการอนุรักษ์อึ่งอ่างไปในตัวเนื่องจากทุกวันนี้อึ่งอ่างนั้นมีจำนวนลดน้อยลงสังเกตง่ายๆจากเดิมเคยหาอึ่งได้คืนหนึ่ง50-100กิโลก็ยังได้แต่ปัจจุบันนี้10กิโลฯก็อยากแล้วคาดว่าอึ่งอ่างหาอยากน่าจะมาจากการใช้สารเคมีกันมากเนื่องจากสารเคมีซึมซับลงดินจึงทำให้อึ่งอ่างดับสิ้นไปด้วยจึงอยากฝากให้เกษตรกรช่วยกันหันกับมาย้อนดูอดีตบ้างก็ดีก่อนที่สายไปกว่านี้

/////////////ทีมข่าว จ.ชัยภูมิ//////////////

Loading