วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

หนุ่มใจงาม!!ปั่นด้วยหัวใจ 9 วันถึงจุดหมาย”พร้อมยื่นหนังสือขอสนามฟุตบอล เพื่อสานฝันให้น้องๆ

“หนุ่มใจงาม ปั่นด้วยหัวใจ 9 วัน ถึงจุดหมาย King Power พร้อมยื่นหนังสือขอสนามฟุตบอล เพื่อสานฝันให้น้องๆเยาวชนในจ.สุรินทร์!

วันที่ 9 เมษายน 2562 เวลา 12.00 น. ที่บริษัท คิงเพาเวอร์ จากที่เคยนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ นายอาลาดิน คงเรือง หนุ่มวัย 37 ปี ได้ทำจิตอาสา ในนามชมรม อาลาดิน คงเรือง ไทยช่วยไทย (เคียงข้างสังคมไทย)และในนาม”โครงการปั่นขอสนามฟุตบอล King Power เพื่อให้เด็กไทยมีสนามดีๆ” ได้ทำสำเร็จโดยการปั่นจักรยาน ถึง บริษัท คิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ เป็นที่เรียบร้อยตามเป้าหมายที่ตั้งใจใว้

จากที่นายอาลาดิน นักปั่นหนุ่มใจงามได้ทำการปั่นจักรยานเดี่ยวคนเดียว จาก จ.สุรินทร์ -กรุงเทพมหานคร เป็นระยะทาง รวม 500 กม.จำนวนทั้งหมด 9 วัน ซึ่งเริ่มปั่นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อจะมายื่นหนังสือขอสนามฟุตบอลจาก King Power เพื่อสานฝันให้น้องๆเยาวชนในจ.สุรินทร์ ได้มาถึงกรุงเทพมหานคร ในช่วงเช้าของวันนี้ โดยใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต ตรงมายังแยกดินแดง และเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งได้รับการ อำนวยความสะดวก จากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร โครงการพระราชดำริ มาช่วยดูแลในด้านความปลอดภัยขณะปั่นเข้าเมืองตลอดเส้นทาง จนถึงจุดหมาย ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจ สำหรับประชาชนที่พบเห็น หลังจากถึงบริษัท คิงเพาเวอร์ นายอาลาดินได้ทำการยื่นหนังสือของ นายศักดิ์นันท์ สุภาวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เพื่อขอสนับสนุนสนามฟุตบอล จาก King Power ให้กับเด็กๆที่รักกีฬาฟุตบอลแต่ขาดโอกาสที่จะมีสนามดีๆได้เล่น โดยมี คุณสุพรรณี ตันเอี่ยม เป็นตัวแทน บริษัทคิงเพาเวอร์ รับมอบหนังสือขอสนับสนุนสนามฟุตบอลในครั้งนี้

ด้านนายอาลาดิน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ตนเองทำได้สำเร็จในขั้นตอนแรก โดยการปั่นจักรยาน จากจ.สุรินทร์ – กรุงเทพมหานครระยะทาง 500 กม.รวมทั้งหมด 9 วัน มาเพียงคนเดียว ตลอดการเดินทาง ถึงแม้จะเจออุปสรรคต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะยางแตก ฝนตก แดดร้อน แต่นั่นไม่ใชปัญหา เพราะความตั้งใจที่มีให้กับน้องๆเยาวชนที่รอความหวังจากเราที่จะได้สนามฟุตบอลดีๆทำให้เราต้องฝ่าฟันทำให้สำเร็จจนได้ ซึ่งตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ทาง คิงพาวเวอร์ ที่ท่านจะพิจารณาและเมตตาให้น้องเยาวชนที่จ.สุรินทร์ ได้มีสนามฟุตบอลดีๆได้เล่น และที่ผ่านต้องขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆที่ให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจทางหลวงที่ให้การสนับสนุนที่พักตลอดการเดินทาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร โครงการพระราชดำริ ที่อำนวยความสะดวกในการดูแลด้านความปลอดภัยในขณะปั่นจักรยานเข้ามาในเมืองจนถึงจุดหมายทันเวลาที่กำหนด ตลอดจนพ่อแม่พี่น้องและเพื่อนๆที่คอยให้กำลังใจ และสุดท้ายผมต้องขอบคุณพี่ตูน บอดี้สแลม ที่ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจในการช่วยเหลือสังคมครั้งนี้ ซึ่งในอนาคตผมได้ปฎิญานตนแล้วว่าผมจะทำจิตอาสา ไทยช่วยไทย เพื่อเคียงข้างสังคมไทยตลอดไป นายอาลาดินกล่าวทิ้งท้าย!!

สมบัติ ผลกิจ ภาพ/ข่าว

Loading