วันพฤหัสบดี, 18 เมษายน 2567

มือปืนยิงถล่มบ้านกว่า 6 นัดเจาะกระโหลกดับ 1 คาดคนมีสี ก่อนหน้าเคยชกต่อยคนมีสี”

21 เม.ย. 2019
7

ยิงถล่มบ้านห้วยเจริญกว่า 6 นัดเจาะกระโหลกดับ 1 คาดฝีมือคนมีสีมืออาชีพ น้องชายเผยเคยมีเรื่องชกต่อยกับคนมีสีแต่เคลียร์แล้วโดยยอมชดใช้ค่าเสียหาย 100,000 บาท แต่โดนมือปืนตามยิงหลังจากที่เพิ่งลงจากศาลมาฉลองกับเพื่อนที่บ้าน

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 13 บ้านห้วยเจริญ ต.ท่าคล้อ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นางจำรัส ประเสริฐ อายุ 41 ปี พร้อมด้วย น.ส.สุกัญญา ประเสริฐ อายุ 34 ปี ได้เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.45 น.ของคืนวันที่ 19 เม.ย.62 ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้ามายิงถล่มบ้านของนางจำรัส ซึ่งขณะนั้น นายสุทัศน์ ประเสริฐ อายุ 23 ปี และนายไชยวัฒน์ รักษาเชื้อ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนางจำรัส และเป็นหลานของ น.ส.สุกัญญา ได้ร่วมกับเพื่อน จำนวนประมาณ 6 คน กำลังพากันต้มไก่เพื่อเป็นอาหาร ซึ่งในวันเดียวกันนี้นายสุทัศน์และนายไชยวัฒน์ได้กลับมาบ้านหลังจากที่ได้ไปขึ้นศาลในข้อหาต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ และตกลงค่าเสียหายกันได้ โดยฝ่ายผู้เสียหายได้เรียกร้องค่าเสียหาย จำนวน 460,000 บาท แต่ต่อรองกันได้เหลือ 100,000 บาท ปรากฏว่าได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้ใช้อาวุธปืนยิงถล่มเข้ามาในบ้าน โดยเป้าหมายคือ นายสุทัศน์ ซึ่งกระสุนปืนนัดแรกเจาะเข้าที่บริเวณท้ายทอยของนายสุทัศน์ และนัดที่ 2 ยิงเข้าที่ด้านหลังบริเวณหัวใจ ทำให้นายสุทัศน์ล้มฟุบลง เสียชีวิตคาที่ ส่วนเพื่อนที่นั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันได้วิ่งหนีตายกันอย่างชุลมุน ซึ่งหลังเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบสวนที่เกิดเหตุแล้ว แต่พวกตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้นายสุทัศน์กับนายไชยวัฒน์เคยมีเรื่องชกต่อยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก่อน อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้มีคนร้ายเข้ามายิงถล่มบ้านที่เกิดเหตุมาแล้วถึง 2 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ทำให้นายสุทัศน์เสียชีวิต

นายไชยวัฒน์ รักษาเชื้อ อายุ 20 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา ตนได้ขับรถจยย.จะเข้าไปเที่ยวงานที่บริเวณหนองกวางดีด อ.กันทรลักษ์ ซึ่งมีการจัดงานเทศกาลลอยกระทง และปรากฏว่าได้เจอด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนได้ขับรถหลบหนีไปที่บ้านจาน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 2 นาย ขับรถติดตามมาด้วย ตนได้ขับขี่รถ จยย.เข้าไปที่บ้านของพ่ออยู่ที่บ้านจาน อ.กันทรลักษ์ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามมาทันที่บ้าน และได้มีปากเสียงกับนายสุทัศน์พี่ชายของตน จากนั้นได้มีการชกต่อยกันระหว่างตนกับพี่ชายที่เสียชีวิตกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างชุลมุน ขณะนั้นตนกับพี่ชายได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงได้พากันวิ่งหลบหนีและต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งความดำเนินคดีกับตน 2 ข้อหาข้างต้น ซึ่งได้มีการขึ้นศาลมาแล้ว 2 ครั้ง และเมื่อวันที่ 19 เม.ย.62 ขึ้นศาลอีกครั้ง สามารถตกลงกันได้ โดยพวกตนยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 100,000 บาท โดยตกลงกันว่าจะจ่ายเงินภายในเวลา 2 เดือน จากนั้นพวกตนได้พากันกลับมาบ้าน โดยก่อนกลับบ้านมีคนมาเตือนว่าให้ระวังตัวให้ดี เพราะว่าอาจจะโดนเอาคืนได้ และพวกตนได้กลับมาบ้าน จากนั้นได้มีเพื่อนมานั่งกินข้าวด้วยกัน จนกระทั่งมีคนร้ายตามมายิงประมาณ 6 นัด ซึ่งขณะนั้นนายสุทัศน์ได้ลุกขึ้นมายืนเพื่อสูบบุหรี่ โดยมีนายณัฐวุฒิ งึดสันเที๊ยะ อายุ 17 ปี เพื่อนรุ่นน้องยืนอยู่ด้วย โดยคนร้ายแอบซุ่มอยู่ริมรั้ว ห่างจากจุดที่นายสุทัศน์ยืนสูบบุหรี่อยู่ประมาณ 15 เมตร โดยยิงนายสุทัศน์นัดแรกเข้าที่ท้ายทอย และนัดที่ 2 ยิงเข้าที่หลังด้านซ้ายบริเวณหัวใจ ทำให้นายสุทัศน์ล้มฟุบลง ซึ่งตนได้รีบวิ่งเข้าไปค่อมร่างของนายสุทัศน์เอาไว้ ขณะที่มือปืนยิงถล่มเข้ามาอีก ประมาณ 3 – 4 นัด ก่อนที่จะหลบหนีไป ตนกับเพื่อนได้รีบนำร่างของนายสุทัศน์ส่งไปยัง รพ.เบญจลักษ์ แต่ว่านายสุทัศน์ได้เสียชีวิตก่อนที่จะถึง รพ.แล้ว

นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า พี่ชายกับตนไม่มีเคยเรื่องกับใครมาก่อน ยกเว้นมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ชกต่อยกัน ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บถึงกับกรามร้าว การที่พี่ชายของตนถูกยิงเสียชีวิตแบบนี้ ทำให้ตนและญาติพี่น้องเสียใจมาก แต่ก็ไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร เพราะว่าไม่เคยมีเรื่องราวกับใครอย่างรุนแรงมาก่อน คาดว่าเป็นฝีมือของคนมีสีมืออาชีพ เพราะยิงปืนได้อย่างแม่นยำมาก ตนขอเรียกร้องความเป็นธรรม ขอให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุดด้วย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกับว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป อยากฆ่าใครก็ฆ่าอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองแบบนี้ บ้านเมืองจะสงบสุขได้อย่างไร

ทางด้าน น.ส.สุกัญญา ประเสริฐ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นอาของนายสุทัศน์ที่เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุทัศน์ได้ไปทำงานกับตนอยู่ที่ จ.ชลบุรี ปกติแล้วนายสุทัศน์เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ไม่มีการสร้างปัญหาใด ๆ กับใคร ตั้งใจทำงานหาเงินเพื่อส่งมาให้แม่ที่อาศัยอยู่กับน้องชายคือนายไชยวัฒน์ ซึ่งที่บ้านยึดอาชีพขายผลไม้เลี้ยงตนเองและครอบครัว ตนไม่คิดว่าการกลับมาเยี่ยมบ้านครั้งนี้ จะเป็นการพาหลานชายมาเสียชีวิตเพราะโดนยิงตายอย่างโหดเหี้ยม ตนขอเรียกร้องความเป็นธรรมในเรื่องนี้ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เพื่อขอให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยด่วนที่สุด เพื่อให้นายสุทัศน์ได้นอนตายตาหลับ

ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

Loading