ชลบุรี!!ทะเลสีดำ กลับสู่ภาวะปกติ”

ทะเลสีดำกลับสู่สภาวะปกติ นายอำเภอเร่งรัดการเชื่อมต่อระบบบำบัดน้ำเสีย

จากกรณีในสังคมออนไลน์โซเชียลเน็ตเวิร์คเฟสบุ๊ก ได้มีการแชร์คลิปวีดีโอปล่อยน้ำเสียลงทะเล ทำให้น้ำทะเลบริเวณดังกล่าวกลายเป็นสีดำทั้งหมด ซึ่งระบุจุดที่ปล่อยคือท่อระบายน้ำเสียภายในซอยนาจอมเทียน 8 ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก


วันนี้ 19 พ.ค.62 ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลนาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายอนุชา อินทศร นายอำเภอสัตหีบ ได้เรียกประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำเสียไหลลงสู่ทะเล บริเวณชายหาดนาจอมเทียน ม.1 ต.นาจอมเทียน เพื่อบำบัดน้ำเสีย โดยบูรณาการให้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต โดยมี นายสมพงษ์ สายนภา นายกเทศมนตรีตำบลนาจอมเทียน ดร.สะถิระ เผือกประพันธ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 8 อ.สัตหีบ พร้อมด้วยปลัดเทศบาล จนท.กองช่าง จนท.สาธารณะสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ เพื่อหาข้อสรุปในการแก้ไขอย่างเร่งด่วน พร้อมลงพื้นที่เกิดเหตุชายหาดนาจอมเทียน เก็บตัวอย่างน้ำทะเลบริเวณโดยรอบไปส่งตรวจยังกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งขณะนี้สู่สภาวะปกติ น้ำไม่ดำเหมือนวันเกิดเหตุแต่คงยังมีกลิ่นน้ำเน่าเสียอยู่บ้าง พร้อมประสานไปทางเมืองพัทยา เพื่อขอรถมาสูบน้ำเน่าเสียตามท่อทางระบายน้ำเพื่อนำไปบำบัด โดยมีหน่วยงานชาวบ้านและกลุ่มประมงในพื้นที่ร่วมกว่า 50 คน ร่วมกันออกเก็บขยะที่ออกมาจากท่อระบายน้ำและที่ลอยจากทะเลมาติดบริเวณชายหาด เพื่อให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม

นายอนุชา อินทศร นายอำเภอสัตหีบ กล่าวว่าผลการประชุมสรุปคือในระยะเร่งด่วนจะดำเนินการ ทำความสะอาดสะอาดบริเวณชายหาดที่ได้รับผลกระทบโดยเริ่มดำเนินการในตั่งวันนี้เป็นต้นไป ดำเนินการสูบน้ำค้างท่อแล้วขนส่งไปบำบัดตามระบบ เร่งรัดการเชื่อมต่อระบบบำบัดน้ำเสียเกี่ยวกับเมืองพัทยาให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ขอความร่วมมือออกตรวจสอบสถานประกอบการเกี่ยวกับระบบการบำบัดน้ำเสีย จัดระบบการแจ้งเตือนจากชุมชนให้แจ้งเหตุเรื่องน้ำค้างท่อ พร้อม ปิดปากท่อพักน้ำด้านที่ติดกับทะเลในพื้นที่เสี่ยงอย่างน้อย 3 จุด พร้อมกำชับให้เทศบาลนาจอมเทียน รายงานข้อเท็จจริงตามลำดับชั้นและเป็นระยะ


นายสมพงษ์ สายนภา นายก ทต.นาจอมเทียนกล่าวว่า ในวันนี้ต้องเข้ามาแก้ปัญหาก่อน เพราะยังไม่ทราบว่าน้ำจากท่อนั้นมาจากไหน เป็นน้ำที่เก็บสะสมมาในอดีต และจากกรณีเมื่อวาน 18 พ.ค.62 ได้เกิดฝนตกทำให้น้ำมีปริมาณมาก จึงไหลทะลักลงสู่ทะเล แต่วันนี้ไม่มีแล้ว แต่เกรงว่าน้ำใต้ดินหรือน้ำสะสมที่ยังไม่ทราบว่าจะมาจากตรงไหนอีกในเบื้องต้นได้ประสานกับเมืองพัทยา นำรถมาดูดน้ำดังกล่าวนำไปเก็บไว้เพื่อบำบัดต่อไป ตลอดจนล้างท่อทางน้ำและทำความสะอาดท่อทางน้ำทั้งหมด หากน้ำจะมาอีกก็คงจะไม่ใช่น้ำเสียแล้ว คงจะเป็นน้ำจากธรรมชาติเป็นหลัก อาจจะมีเจือปนกับน้ำใช้ของชาวบ้านบ้าง

ส่วนน้ำจากบ่อบำบัดของโรงแรมได้มีการบล็อคไว้แล้ว ไม่ให้ปล่อยน้ำเสียออกมาเพราะยังไม่ได้นำไปบำบัดยังบ่อบำบัดรวมในปัจจุบันนี้เทศบาลตำบลนาจอมเทียน ยังไม่มีบ่อบำบัดน้ำเสียโดยเฉพาะ ส่วนตามท่อทางต่างๆ แถบชายทะเล เราได้คำนึงอยู่ตลอดเวลาว่าทำอย่างไร จะไม่ให้น้ำเสียไหลลงสู่ทะเลลงไปชายหาด การทำบ่อบำบัดได้เตรียมงบประมาณไว้แล้ว แต่การดำเนินการจะต้องได้รับความเห็นชอบและทำประชาพิจารณ์จากประชาชน รวมถึงต้องรายงานถึงผลกระทบต่างๆ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเป็นชุมชนเกรงว่าจะมีน้ำเสียในขณะที่ยังทำไม่ได้ก็ได้ประสานกับเมืองพัทยา ในการร่วมกันบำบัดน้ำเสียที่จะเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

ปัจจุบันในเขตเทศบาลตำบลนาจอมเทียนมีบ่อพักน้ำลักษณะเช่นนี้ รวม 12 แห่งที่อยู่ริมทะเล เพื่อให้น้ำไหลลงมารวมกันแล้วจะใช้เครื่องสูบน้ำนำกลับขึ้นไปบำบัด ตามปกติและบริเวณนี้ไม่เคยเกิดน้ำไหลทะลักไหลลงสู่ทะเลมาก่อน เมื่อเกิดมาแล้วทางเทศบาลนาจอมเทียน ก็ยอมรับและพร้อมจะดำเนินการแก้ไขให้ดีที่สุด หลังจากที่ดูดน้ำมาแล้วจะนำไปทิ้งลงที่บ่อขยะของเทศบาลนาจอมเทียน ซึ่งห่างจากจุดนี้ไปประมาณ 4-5 กม.ไปยังบ่อบำบัดที่วัดบุญกาญจนารามโดยเมืองพัทยาจะรองรับน้ำเสียนี้ให้วันละไม่ต่ำกว่า 5,000 ถึง 7,000 ลบ.เมตร/วัน
โดยจะเสียค่าใช้จ่ายในปริมาตรน้ำลูกบาศก์เมตรละ 7 บาท ในการนำไปบำบัด ส่วนเรื่องการปิดท่อระบายน้ำลงทะเลนั้นนั้นคงจะยังไม่ปิด เนื่องจากจะดำเนินการล้างท่อทางน้ำให้สะอาดพร้อมกับมีการดูดน้ำไปเก็บไว้บำบัดอย่างต่อเนื่องในทุก 15 วันหรือแล้วแต่สถานการณ์ ซึ่งนายก ทต.นาจอมเทียนกล่าวด้วยความห่วงใยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

นายวันชาติ วรรณพราม ปลัดอำเภอสัตหีบกล่าวว่า ในวันนี้ได้ประสานไปทางเมืองพัทยา เพื่อขอรถมาสูบน้ำเน่าเสียตามท่อทางระบายน้ำเพื่อนำไปบำบัด อาจจะมีการปิดประตูระบายน้ำที่ปล่อยลงสู่ทะเล จำนวน 3 จุด การดูดน้ำที่สะสมตามท่อระบายน้ำต่างๆ จะได้มีการประสานงานกับเมืองพัทยาในการดูดน้ำเสียตามท่อระบายน้ำต่างๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป พร้อมกับจะได้มีการตรวจสอบตามอาคารโรงแรมในพื้นที่ ว่าได้มีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกมาหรือไม่ พร้อมกับจะได้มีการซ่อมทำเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าที่มีประจำอยู่ที่ประตูระบายน้ำชำรุดให้สามารถใช้การได้ เพื่อสูบน้ำเน่าเสียออกไปบำบัด และปรึกษาหารือในการแก้ไขในระยะยาวต่อไป
ด้านนายณัฐวุฒิ คำบัวภา อายุ 19 ปี ที่ดูแลร้านค้าซึ่งอยู่ติดกับจุดเกิดเหตุน้ำเน่าเสียไหลทะลักลงสู่ทะเลชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า น้ำเน่าเสียที่ไหลลงลงสู่ทะเลเช่นนี้ จะเกิดขึ้นเป็นประจำในระยะเวลาสั้น เมื่อเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ พร้อมกับมีกลิ่นน้ำเน่าเหม็นปะปนออกมาด้วยในระยะช่วงสั้นๆ 1-2 ชม. เมื่อนักท่องเที่ยวมาเห็นก็จะถ่ายรูปลงในโซเชียล จนกลายเป็นความหวาดกลัวของนักท่องเที่ยวทั่วๆไป จะหายไประยะหนึ่ง จึงอยากให้แก้ไขด้วยการปิดประตูระบายน้ำที่ปล่อยน้ำเสียลงทะเลในบริเวณนี้ไปเลย เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ภาพ/ข่าว นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

Loading