ชุดสืบสวน สภ.เชียงคานบุกจับหนุ่มอ้างตัวเป็น ปปง.ควงปืนปล้นทรัพย์กว่า 2 ล้าน.
วันที่ 23 พฤษภาคม ที่บริเวณด้านหน้าสภ.เชียงคาน พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.มาโนช สุภาพพูล ผบก.ภ.จว.เลย พ.ต.อ.เอกพงษ์ พลมณี ผกก.สภ.เชียงคาน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คน นายชยพล สุคันธา อายุ 34 ปีอยู่บ้านเลขที่ 101 ม.3 ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ ตามหมายจับของศาลจังหวัดเลยที่ 103/2562 ลง 21 พฤษภาคม 2562 และนายอาทิตย์ อุทธวัง อายุ 38 ปีอยู่บ้านเลขที่ 300/327 ม10 ต.แม่เฮียะ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ตามหมายจับของศาลจังหวัดเลยที่ 102/2562 ลง 21 พฤษภาคม 2562 พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน 7 กข 2617 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป และอื่นๆอีกหลายรายการ
พ.ต.อ.เอกพงษ์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม นายขวัญชัย แจ่มมณี ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนที่สภ.เชียงคาน แจ้งว่าเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม เวลา 20.30 น.ได้มีกลุ่มคนร้ายจำนวน 4 คนได้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาดักรอตนอยู่ที่หน้าบ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 1 ต.เขาแก้ว อ.เชียงคาน จว.เลย จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนจี้ตนแล้วนำกุญแจมือมาใส่ ไม่ให้ขัดขืน แล้วสั่งให้เปิดประตูรั้ว เข้าไปในบ้าน จากนั้น นายชยพล ได้อ้างตัวว่าเป็นสารวัตร มาจาก ปปง.ได้เรียกให้คนที่อยู่ในบ้านมีทั้งคนแก่ เด็กทารก และภรรยาของตนทั้งหมด มานั่งรวมกันที่บริเวณห้องโถง แล้วบอกกับคนในบ้านว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง.แจ้งว่าพี่ชายของตน คือนายอุดม แจ่มมณี ได้ยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วกระสุนไปถูกม้าแข่งเขาตายและส่งเรื่องให้ ปปง.ตีมูลค่าความเสียหาย ราคาประมาณ 60 ล้านบาทและต้องยึดทรัพย์สินเพื่อนำไปชดใช้ นายชยพล ได้ให้ตนพาไปตรวจค้นเอาทรัพย์สินภายในบ้านของตนไป ประกอบด้วย รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน 7 กข 2617 กรุงเทพมหานคร พร้อมเงินสด 800,000 บาท ทองคำรูปพรรณ และทรัพย์สินต่างๆ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่กลุ่มคนร้ายเอาไปมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท หลังจากเกิดเหตุกลุ่มนายชยพล ได้พากันหลบหนีไปโดยใช้ยานพาหนะเป็นรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า รุ่น CX 5 สีขาวหมายเลขทะเบียน งค 8891 เชียงใหม่
พ.ต.อ.เอกพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายทั้ง 4 คนไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของ ปปง.จึงได้ทำการสืบสวนพร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่าคนร้าย 2 ใน 4 คน นาย ชยพล สุคันธา อายุ 34 ปีและนายอาทิตย์ อุทธวัง อายุ 38 ปีทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำภาพของกลุ่มคนร้ายไปให้นายขวัญชัยดูและได้ชี้ภาพยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่มาปล้นทรัพย์ทรัพย์สินของตนไป ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาล ออกหมายจับกุมนาย ชยพล ตามหมายจับของศาลจังหวัดเลยที่ 103/2562 ลง 21 พฤษภาคม 2562 และนายอาทิตย์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดเลยที่ 102/2562 ลง 21 พฤษภาคม 2562 ต่อมาวันที่ 22 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำกำลังจับกุมตัวนายชยพลได้ที่บริเวณริมถนนข้างโรงเรียนวัดเสาหิน หมู่ 3 ต.หนองหอย อ.เมือง จว.เชียงใหม่พร้อมตรวจยึดรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ที่ปล้นไปขณะเดียวกันกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีก 1 ชุดได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายอาทิตย์ ได้ที่บริเวณริมถนนภายในหมู่บ้าน หน้าบ้านเลขที่ 300/327 หมู่ 10 ต.แม่เฮียะ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
พ.ต.อ.เอกพงษ์ เปิดเผยว่าจากการสอบสวนนาย ชยพล ได้ให้การซัดทอดว่านางแสง หรือแสงดาว ยศสง่า อายุ 49 ปี สัญชาติลาว อดีตภรรยานายอุดม แจ่มมณี ซึ่งเป็นพี่ชายนายขวัญชัย เป็นผู้จ้างวานให้ตนกับพวกรวม 4 คนมาปล้นทรัพย์ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดเลย ออกหมายจับนางแสง ตามหมายจับศาลจังหวัดเลยที่ 104 /2562 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นผู้ใช้ จ้าง วาน หรือยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิดปล้นทรัพย์”
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เชียงคาน ได้ติดตามจับกุมตัวนางแสงมาที่ สภ.เชียงคานเพื่อทำการสอบสวนต่อไปส่วนคนร้ายที่ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะสอบสวนขยายผลติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่กระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, เข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่สองคนขึ้นไป ในเวลากลางคืน, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ได้กระทำโดยมีอาวุธ”
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงคาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
