วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

ราชบุรี!!คืบหน้า”วัยรุ่นเมากร่างยิงดุเดือดหน้าผับ”

17 มิ.ย. 2019
12

ราชบุรี คืบหน้าล่าสุด วัยรุ่นเมากร่างยิงดุเดือดหน้าผับ

จากกรณี ได้เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงกันบริเวณด้านหน้าสถานบริการ โรงเบียร์พันตาถนนเพชรเกษม (ด้านหน้าโรงแรมโกลเด้นซิตี้ราชบุรี) ขาเข้าเมืองราชบุรี หมู่ 5 ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี ทำให้มีผู้ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่โดนขวดขว้างอีกหลายราย นอกจากนี้ภายในที่เกิดเหตุยังพบรถยนต์ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นขว้างขวดใส่ทำให้ได้รับความเสียหายอีกหลายคัน ขณะเกิดเหตุได้มีหญิงสาวบันทึกคลิปไว้ได้ เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. 62 นั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 62ผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบที่ผับดังกล่าว มีชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เมื่อคืนผับดังกล่าวก็ยังเปิดให้บริการตามปกติ ซึ่งในคืนที่เกิดเหตุทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นมีเรื่องกันด้านนอกผับ ไม่ได้มีเรื่องในผับ แต่ก็อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ที่ผ่านมามีเรื่องกันบ่อยเพราะมีคนเมาแต่ก็ไม่ได้รุนแรงถึงขนาดนี้ ซึ่งเดิมผับแห่งนี้อยู่ติดกับโรงแรมโกล้เด้นท์ ซิตี้ แต่ตอนยังได้ขยับออกมาอยู่ข้างนอกห่างจากจุดเดิมประมาณ 100 เมตร ถามว่ากลัวไหมก็ไม่ได้กลัวอะไรมาก เพราะทำงานในบริเวณใกล้ๆกับผับจะกลับบ้านก็ประมาณ 3-4 ทุ่ม จึงไม่ค่อยรู้อะไรแต่จะมารู้ช่วงเช้าที่มาทำงานและมาเห็นซากขวดที่แตกเท่านั้น

ด้านนายรณภพ เวียงสิมมา นอภ.เมืองราชบุรี ในฐานะเจ้าพนักงานที่ดูแลเรื่องของสถานประกอบการกล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ให้ทางปลัดอำเภอไปรวบรวมข้อมูล โดยประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองราชบุรี ว่าผับดังกล่าวเข้าข่ายความผิดอะไรบ้าง เพื่อเสนอให้กับทางผวจ.ราชบุรี ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาต แต่ในเบื้องต้นตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูล ต้องให้ทางผับเปิดดำเนินการไปก่อน ส่วนถ้าพบว่ามีความผิดจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยเคร่งครัด ส่วนปลอกกระสุนปืนที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุเป็นขนาด .45 ม.ม. ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นปืนที่นายทะเบียนไม่ได้มีการอนุญาต จะต้องดูว่าใครพกพามา แต่เบื้องต้นได้รับรายงานว่าผับแห่งนี้เคยมีเรื่องมาหลายครั้ง มีการเปลี่ยนชื่อจากเดิมชื่อ เทอเรส ผับ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาชื่อ โรงเบียร์พันตา มีการขออนุญาตจากทางฝ่ายปกครองเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่เวลา 10.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน พร้อมนำตัวหญิงสาวเจ้าของคลิปที่ถ่ายขณะเกิดเหตุทะเลาะวิวาทมาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อเป็นพยาน และนำตัวนายธนากร แย้มขยาย อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 1 ต.สามเรือน อ.เมืองราชบุรี กับนายธีรยุทธ งามดี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/2 หมู่ 3 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งทั้งคู่อยู่ในเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท ที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ พนักงานสอบสวนได้แยกสอบเพื่อประกอบสำนวนคดี จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหานายธนากร แย้มขยาย ร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ รับอันตรายสาหัสฯ นายธนากร รับสารภาพ และแจ้งข้อกล่าวหานายธีรยุทธ งามดี ร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ รับอันตรายสาหัสฯ และมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นอันเร่งด่วน นายธีรยุทธ รับสารภาพข้อกล่าวหาร่วมชุลมุนฯ แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาพาอาวุธฯ

จากนั้นช่วงเวลา 15.00 น. ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมพนักงานสอบสวน และกำลังตำรวจชุดสืบสวน นำตัวหญิงสาวเจ้าของคลิป ไปชี้จุดขณะถ่ายคลิปเหตุการณ์อย่างละเอียด นำตัวนายธนากร และนายธีรยุทธ ไปจำลองเหตุการณ์ขณะทะเลาะวิวาทและมีการใช้อาวุธปืนยิงกัน บริเวณหน้าผับโรงเบียร์พันตาตั้งแต่เริ่มทะเลาะวิวาททุกช่วงจนกระทั่งแยกย้ายกลับ

พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี กล่าวว่า ตอนนี้ได้สอบพยานไปแล้ว 7 ปาก ในส่วนของชุดสืบสวนก็ออกสืบสวนหาข่าว ซึ่งรู้กลุ่มผู้ก่อเหตุ และตัวบุคคลแล้ว มีผู้ที่มีส่วนในการกระทำความผิด 2 คน อยู่ในระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ได้ดำเนินการแจ้งของหาในวันนี้ เบื้องต้นข้อหาที่เราได้ตั้งไว้ ร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ รับอันตรายสาหัสฯ และมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นอันเร่งด่วน ส่วนเรื่องการใช้อาวุธปืนอยู่ในระหว่างการสอบสวน ข้อหาเรื่องการใช้อาวุธปืนยังคงให้การปฏิเสธ แต่รับว่าร่วมชุลมุนในส่วนของอาวุธปืนยังไม่เจอยังอยู่ในระหว่างการค้นหาอยู่ เบื้องต้นเรามีการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นภาพวงจรปิด และมีการสอบพยานที่เกี่ยวข้องว่า ใครมีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุบ้าง โดยตอนนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมหลักฐานที่ชัดเจน ตอนนี้มี 2 คน แต่หากมีพยานหลักฐานถึงใครจะดำเนินคดีหมด ส่วนสาเหตุนั้นมาจากทั้งสองกลุ่มมาเที่ยวและเขม่นกัน จนมีการท้าท้ายออกมาทะเลาะกันข้างหน้าผับ

 

สุจินต์ นฤภัย (เต้)

Loading