วันพฤหัสบดี, 28 มีนาคม 2567

เดอะโอ๋!!!ประธานในการประชุมเร่งรัดผลการปฏิบัติ”

เดอะโอ๋!!! ประธานในการประชุมเร่งรัดผลการปฏิบัติ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ตำรวจภูธรภาค1(ศปฉช.ภ.1)


วันนี้ 20 มิ.ย.62 ที่ห้องประชุมศปก.ภ.1บช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1/ รอง ผอ.ศปฉช.ภ.1 เป็นประธานในการประชุมเร่งรัดผลการปฏิบัติ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ตำรวจภูธรภาค 1 (ศปฉช.ภ.1)ตามคำสั่ง ภ.1 ที่ 127/2562 ลงวันที่ 16 พ.ค.62 เรื่อง มอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบการจัดพิธีมอบคืนโฉนดที่ดิน “คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม” ครั้งที่ 12 โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 รับผิดชอบศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ภ.1 (ศปฉช.ภ.1)โดยมี พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ประจำ.ภ.1 ผบก.ภ.จว.ฯ ที่รับผิดชอบงาน ศปฉช.ในสังกัด ภ.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในการประชุม ด้วยระบบทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference)


พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าในที่ประชุมได้มีข้อสั่งการในการ 1.โฉนดที่ดินที่ทำการตรวจยึดได้จะต้องนำเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ของคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบประจำจังหวัด ที่มีอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัด เป็นประธานเท่านั้น 2.ในการเจรจาไกล่เกลี่ย ให้รวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งของเจ้าหนี้ ลูกหนี้ และคณะอนุกรรมการฯ ไว้เป็นหลักฐานในแต่ละรายให้เรียบร้อยครบถ้วน ซึ่งประกอบด้วย 2.1) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของลูกหนี้ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ 2.2)บันทึกข้อตกลง หรือหนังสือสัญญาเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ โดยผ่านการเจรจาไกล่เกลี่ยจากคณะกรรมการเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องร้องเรียนโดยคณะกรรมการสหวิชาชีพ 6 ฝ่าย (ระดับอำเภอ หรือระดับจังหวัด) 2.3)ซองใส่โฉนดที่ดินจะต้องติดสติ๊กเกอร์รายละเอียด ชื่อลูกหนี้ เลขที่โฉนดที่ดิน เนื้อที่ ให้เรียบร้อย 2.4)โฉนดที่ดินที่โอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อลูกหนี้แล้ว หรือมีการสลักหลังในสัญญายินยอมให้ไถ่ถอนที่ดิน (ในกรณีที่ทำสัญญาจำนอง หรือ ขายฝาก) 3.ในวันเสาร์ที่ 22 มิ.ย.62 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป การนำโฉนดไปให้ ตร. ตรวจ ณ ห้อง ศปก.ภ.จว.ลพบุรี ให้แต่ละ ภ.จว. ดำเนินการดังนี้ 3.1)ให้นำโฉนดที่ดินที่ผ่านการตรวจจาก ตร. แล้ว เมื่อวันที่ 7 และวันที่ 14 ไปมอบให้กับ ตร. พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง (มี ว.8 แจ้งไปแล้ว) 3.2)ให้นำโฉนดที่ดินที่ผ่านคณะอนุกรรมการฯ แล้ว ไปให้ ตร. ตรวจสอบทั้งหมด ในกรณีนี้ให้แต่ละ ภ.จว. เร่งรัดนำโฉนดเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และคณะอนุกรรมการฯ โดยเร็ว เนื่องจากเหลือเวลาดำเนินการแค่พรุ่งนี้อีกวันเดียว 3.3)ให้ รอง ผบก.ภ.จว. ที่รับผิดชอบ ศปฉช. และ หน.สภ. ด้วยตนเอง นำโฉนดที่ดินไป ตร. ตรวจสอบ 4.ในส่วนของ ภ.จว.ลพบุรี ให้ประสานกับ จังหวัดลพบุรี ว่านำมวลชนจากอำเภอใดมาร่วมงาน แล้วให้ ผกก./หน.สภ. นั้นๆ เป็นคนประสานการปฏิบัติกับผู้นำระดับอำเภอที่นำมวลชนมาร่วมงาน เกี่ยวกับวิธีการนำมวลมา ตลอดจนการพามวลชนไปยังจุดลงทะเบียน และรับประทานอาหารเช้า 5.บอร์ดแสดงผลการปฏิบัติงานของแต่ละ ภ.จว. ให้ส่งไฟล์ภาพ นามสกุล .JPGE แล้วส่งให้ ภ.จว.ลพบุรี พร้อมค่าใช้จ่าย ภ.จว. ละ 4,000 บาท ภายในวันที่ 24 มิ.ย.62 6.ให้แต่ละหน่วยเร่งรัดจับกุมการกระทำความผิดอันมีลักษณะเป็นการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ตรวจสอบกรณีที่ประชาชนไปทำนิติกรรมกู้ยืม ขายฝาก จำนอง จำนำ หรือนิติกรรมอำพรางต่างๆ ทั้งในระบบ และนอกระบบ กับบุคคลทั่วไป ห้าง ร้าน บริษัท หรือสถาบันการเงินต่างๆ ว่าเข้าข่ายเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม อันมีลักษณะเป็นการเอาเปรียบประชาชนเกินสมควร หรือเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด หรือไม่ หากเข้าข่ายเป็นความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย 7.ให้ทุกหน่วยเน้นการขยายผลดำเนินคดีให้ถึงบุคคล กลุ่มบุคคล นายทุน ผู้มีอิทธิพล หรือผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ให้ได้ทั้งเครือข่าย ตลอดจนทำการตรวจสอบบริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อที่ผิดกฎหมาย รวมถึงผู้ประกอบการ เช่น ร้านค้าทองที่ใช้วิธีการกู้เงินโดยอำพรางเป็นการขายทอง เป็นต้น 8.หากมีการสืบสวนพบรายใหญ่ที่มีความสำคัญให้ประสานการปฏิบัติกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภครวมทั้งส่งข้อมูลให้ส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อให้การสนับสนุนด้านการสืบสวน 9.ให้ทุกหน่วย เฝ้าระวังตรวจสอบบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ที่เกิดจากหนี้นอกระบบและสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ตลอดจนการก่อเหตุรุนแรงจากการทวงหนี้ของกลุ่มอาชญากร ทั้งที่เป็นบุคคลและเป็นกลุ่มบุคคล และให้แสวงหาความร่วมมือจากประชาชนควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายด้วย 10.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบ ควบคุม กำกับดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์จากผู้กระทำความผิด การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพัน หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทั้งคดีอาญา ทางวินัยและทางปกครอง อย่างถึงที่สุด

Loading