หนุ่มถูกยิงกลางตลาดบ้านโป่ง”เฉียดตาย ร้องกองปราบคดีไม่คืบหน้า”

21 มิ.ย. 2019
9

ราชบุรี หนุ่มถูกยิงกลางตลาดบ้านโป่ง เฉียดตาย ร้องกองปราบคดีไม่คืบหน้า

จากกรณีเกิดเหตุการณ์ นายพชร ไชยเรืองกิตติ อายุ 35 ปี ลูกชายร้านขายเสื้อผ้า ในตลาดบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ถูกคนร้ายเป็นชาย ใส่เสื้อแขนยาวสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีดำ และมีแมสสีขาวปิดปาก ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับไล่ตามรถจักรยายนต์ที่นายพชร ขับขี่ แล้วใช้อาวุธปืนขนาด .32 ยิงใส่ จำนวน 5 นัด เข้าศีรษะ ท้ายทอย และหลัง ช่วงเวลากลางวันแสกๆ ได้รับบาดเจ็บ บนถนนแสงชูโตกลางตลาดบ้านโป่ง ห่างจากโรงพักบ้านโป่ง 100 กว่าเมตร ท่ามกลางสายตาประชาชน จำนวนมาก เมื่อวันที่ 26 พ.ค.62 ซึ่งผ่านมา เกือบ 1 เดือนแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.62 นายพชร ไชยเรืองกิตติ ได้เปิดกับผู้สื่อข่าว ผ่านทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ตนและครอบครัวได้ย้ายออกนอกพื้นที่ ไม่ได้พักอาศัยอยู่ใน อ.บ้านโป่ง แล้ว เนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย เพราะคนร้าย น่าจะทราบแล้วว่าตนยังมีชีวิตอยู่ คนร้ายอาจจะย้อนกลับมาก่อเหตุอีก

นายพชร ได้เล่าถึงเหตุการณ์เฉียดตายว่า วันเกิดเหตุในช่วงเช้าตนเดินมาในครัวหลังบ้าน ก็ได้สังเกตเห็นคนร้ายจอดรถจักรยานยนต์ สีดำแดงอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านมองมาที่ตนเอง ลักษณะเป็นชายสวมหมวกและหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า รูปร่างสมส่วน สูงประมาณ 170 ซม. แต่ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร เนื่องจากคิดว่าเป็นชาวบ้านธรรมดา มาจอดรถซื้อสินค้าในตลาด กระทั่งขณะที่ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ ออกไปซื้อนมให้ลูก ก็เห็นชายคนดังกล่าวขี่ตามออกมา เมื่อถึงซอยร้านค้า ตนกำลังจะเลี้ยวขวาข้ามถนน คนร้ายได้ขี่แซงซ้ายขึ้นมา ก่อนจ่อยิงเข้าที่หลัง จนตนล้มคว่ำหน้าลง แล้วเดินเข้ามายิงซ้ำที่ศีรษะอีก 4 นัด ก่อนขี่รถหลบหนีไป ในเวลานั้นตนได้รวบรวมสติลุกขึ้นมาขอความช่วยเหลือจากคุณป้าท่านหนึ่ง ที่อยู่ในเหตุการณ์พอดี เพื่อให้ช่วยนำตนส่งโรงพยาบาลบ้านโป่ง ส่วนในใจก็คิดว่าห้ามหลับอย่างเด็ดขาด พร้อมนึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระสงฆ์ ทั้งหลวงปู่ทวด และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระองค์ที่ 19 ซึ่งเป็นพระอาจารย์ เมื่อครั้งที่ตนบวชเป็นพระ ที่วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร จนทำให้รอดชีวิตมาได้ ปัจจุบันร่างกายมีอาการดีขึ้นมากแล้ว เหลือเพียงร่องรอยบาดแผลที่ต้องใช้เวลาในการรักษา และอาการปวดศีรษะบ้างบางครั้ง แต่ในส่วนของสภาพจิตใจ ขณะนี้ยอมรับว่าตนและทุกคนในครอบครัวกลัวมาก จนต้องย้ายออกจากพื้นที่ไปอยู่ที่อื่น

สำหรับปมคนร้ายก่อเหตุ ที่มีชาวบ้านวิจารณ์ในกรณีชู้สาว ตนยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องดังกล่าว เพราะตลอดเวลา 5 ปี ที่แต่งงานตนและภรรยารักกันดี ตั้งใจทำงานเก็บเงินสร้างฐานะครอบครัว และเตรียมทุนการศึกษาของลูกชายวัย 2 ขวบครึ่ง ที่จะต้องเข้าเรียนในปีหน้า ส่วนการแก้แค้นของคู่อริเก่า ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะตนเลิกเป็นนักเที่ยวนักดื่มมานาน กว่า 10 ปีแล้ว แต่ปัญหาเดียวที่ตนมองไว้นั้นคือ ก่อนหน้านี้ตนเคย ร้องเรียนต่อหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ กรณีก่อสร้างปูพื้นทางเดินเท้า แต่ใช้วัสดุ กระเบื้องไม่เหมาะกับการใช้งานจริง เมื่อโดนน้ำจะลื่น จนมีชาวบ้านโดยเฉพาะผู้สูงอายุลื่นหกล้มกันบ่อยครั้ง

สำหรับในส่วนของคนร้ายที่ลงมือยิง ตนนั้นขออโหสิกรรมให้ไม่ขอผูกใจเจ็บ แต่ในทางกฎหมาย ก็ต้องดำเนินไป ซึ่งในวันนี้ตนจะเดินทางไปยังกองบังคับการปราบปราม กทม. เพื่อเข้าร้องทุกข์เรื่องดังกล่าว ให้ช่วยเร่งติดตามหาตัวคนร้าย ที่ก่อเหตุโดยเร็ว เนื่องจากห่วงเรื่องความปลอดภัยของตน

 

สุจินต์ นฤภัน (เต้)

Loading