วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

ผู้ตรวจราชการแผ่นดินลงพื้นที่สนามบินกระบี่”

ผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่สนามบินกระบี่ เร่งติดตามมาตรการด้านความปลอดภัยในทรัพย์สินระหว่างขนถ่ายสัมภาระ


21 มิถุนายน 2562พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และพันโท เทพจิต วีณะคุปต์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบระบบมาตรการรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของผู้โดยสารระหว่างการขนถ่ายสัมภาระภายในท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ มุ่งพัฒนางานป้องกัน สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน

พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเรารับทราบถึงปัญหาว่ามีผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินแล้วโหลดกระเป๋าเดินทางใต้ท้องเครื่องบิน เมื่อถึงปลายทางปรากฏว่าทรัพย์สินที่บรรจุไว้ในกระเป๋าเดินทางสูญหาย ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินได้หยิบยกเรื่องนี้มาแก้ไขปัญหาเชิงระบบ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ด้านมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยภายในท่าอากาศยานของประเทศไทย ทั้งนี้ได้เคยลงพื้นที่ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต และให้ข้อเสนอแนะกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว สำหรับจังหวัดกระบี่ นับเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากคนไทยและต่างชาติอย่างมาก มีท่าอากาศยานนานาชาติรองรับบริการจาก 28 สายการบิน จำนวนเที่ยวบินเข้า – ออก หลายเที่ยวบินต่อวัน ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานกว่า 4 ล้านคนต่อปี ดังนั้น ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารจึงสำคัญยิ่งที่จะต้องรักษามาตรฐานให้ดีที่สุด

พลเอก วิทวัส กล่าวต่อว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจระบบการดำเนินการขนถ่ายสัมภาระของผู้โดยสาร สายพานลำเลียง ห้องควบคุมกล้องวงจรปิด (CCTV) และห้องตรวจสัมภาระลงทะเบียน (EDA) ภายในท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ พร้อมประชุมหารือร่วมกับนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกระบี่ นางสาวสุรีย์รัตน์ ทิพย์โยธา หัวหน้าบริหารและอำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ กรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม สถานีตำรวจภูธรเหนือคลอง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บริษัทเอกชนที่รับจ้างขนถ่ายสัมภาระ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากการตรวจสอบพบว่า ภายในอาคารมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือ CCTV จำนวน 240 ตัว ซึ่งอาจไม่เพียงพอ บางตัวติดอยู่ในมุมที่ไม่สามารถมองเห็นได้โดยรอบ ส่วนบริเวณลานจอดอากาศยานไม่ได้ติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ อาจเป็นช่องว่างให้เกิดการลักทรัพย์ผู้โดยสารระหว่างการขนย้ายได้ ซึ่งกล้องวงจรปิดมีระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลเพียง 20 วัน เมื่อมีเหตุลักทรัพย์สัมภาระของผู้โดยสารเกิดขึ้น กว่าจะดำเนินการประสานจนถึงตรวจสอบภาพจากกล้องได้ ข้อมูลอาจถูกลบทับไปแล้ว ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีข้อเสนอแนะให้การท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมในบริเวณจุดเสี่ยง บริเวณจุดจอดอากาศยานเพื่อให้เห็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภาคพื้น และบริเวณลานจอดรถยนต์ เร่งดำเนินการปรับมุมกล้องให้เหมาะสมไม่ถูกสิ่งอื่นบดบัง ตรวจสอบปรับปรุงไม่ให้กล้องชำรุดเสียหาย สามารถใช้งานได้ทุกตัว รวมถึงเพิ่มระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลจากเดิม 20 วัน เป็น 60 วัน พร้อมกับอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าตรวจตราความเรียบร้อยภายในท่าอากาศยาน ทั้งนี้ ควรจัดทำเป็นแผนแม่บทระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อเสนองบประมาณในการขอติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมด้วย ซึ่งเชื่อว่าหากดำเนินการมาตรการความปลอดภัยได้อย่างจริงจังแล้ว จะป้องกันปัญหาต่าง ๆ ได้ดีและส่งเสริมความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์จังหวัดกระบี่ในฐานะเมืองท่องเที่ยวอย่างแน่นอน

กระบี่//ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง. รายงาน

Loading