ราชบุรี คดีพลิก กรณี จยย.หนีสายตรวจชนกำแพงเสียชีวิต ญาติยอมรับไม่ติดใจ
จากกรณีเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 18 มิย.62 พ.ต.ท.พรชัย ตรีอุดม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกำแพงบบ้าน เหตุเกิดบริเวณภายในซอย หมู่ 7 ต.สามเรือน อ.เมือง จ.ราชบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุเมธ เย็นใส อายุ 23 ปี เลขที่ 23 หมู่7 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ห่างออกไป 20 เมตร พบ จยย.ฮอนด้า ดรีม สีชมพู ทะเบียน 3969 ราชบุรี ล้มอยู่บนถนน ซึ่งต่อมาญาติของผู้เสียชีวิตได้อ้างว่า ผู้เสียชีวิตได้ขี่รถ จยย.หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาในหมู่บ้าน ในขณะที่หลบหนีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขี่รถ จยย.ไล่กวดมาด้วยความเร็ว แต่มาถึงที่เกิดเหตุภายในซอยหมู่บ้าน หมู่ที่ 7 ต.สามเรือน ประมาณ 15 เมตร รถของผู้เสียชีวิตเกิดเสียหลักพุ่งชนเสากำแพงหน้าบ้าน และทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา และยังอ้างอีกว่า ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทำเกินว่าเหตุ และขณะเกิตเหตุไม่ยอมลงไปดูผู้ที่เสียชีวิตแต่อย่างไร กับปล่อยให้ผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่อย่างนั้น และขับรถกลับไป
ล่าสุด 27 มิ.ย. พ.ต.ท.พรชัย ตรีอุดม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้เรียกสอบพยายานบุคคลที่อยู่ในเหตุกราณ์ที่เกิดเหตุ โดยชาวบ้านผู้ที่เห็นเหตุการณ์อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ (ไม่เปิดเผยชื่อ) ได้เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเหตุช่วงเวลาดังกล่าว ตนกำลังยืนเก็บของอยู่ด้านหน้าบ้าน ได้ยินเสียงเหมือนรถชนดังสนั่นแล้วก็เงียบไป ต่อมามีรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงของคนในหมู่บ้านขี่ผ่านมาเห็นว่ามีรถชนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงได้ขี่รถไปบอกกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้มาดูคนเจ็บในที่เกิดเหตุ ซึ่งในช่วงที่รถชนไม่เห็นมีรถคันอื่นวิ่งมา มีแต่รถของคันที่ชนและได้รับบาดเจ็บ กับรถของผู้ที่มาเจอผู้บาดเจ็บและไปตามผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 2 คันเท่านั้น เมื่อผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาถึงก็ได้โทรตามคนมาช่วย และโทรเรียกให้รถโรงพยาบาลให้มารับคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะไม่รู้เรื่องราวตั้งแต่แรกว่าเป็นมาอย่างไร แต่ช่วงเกิดเหตุจะได้ยินเสียงดังสนั่นเหมือนเสียงรถชน ตนเห็นรถของผู้บาคเจ็บคะนเดียวไม่เหฌนมีรถคันอื่นตามมา โดยตนได้ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญไปให้ปากคำที่โรงพักแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.สุรศักดิ์ นิลยาภรณ์ สว.สอบสวน สภ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ต.วีรชัย เจริญไทย สว.สอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้ลงพื้นที่สอบถาม นางพัชนู เอี่ยมสำอางค์ อายุ 36 ปี 22/1 ม.4 ต.สามเรือน อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ได้เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ประมาณ 21.30 น.น้องชายจะไปบ้านแฟนที่บ้านสิงห์ ได้ขับรถมาผ่านเส้นทางนี้ ก็มาเจอคนเจ็บนอนอยู่ที่เกิดเหตุ มี จยย. ล้มอยู่ น้องชายจึงหันหัวรถขับเข้าไปรับตนที่บ้าน เพื่อออกไปช่วยคนเจ็บ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตเห็นว่าคนเจ็บยังหายใจอยู่ จึงพยายามเรียกคนเจ็บเพื่อไม่ให้หลับและโทรเรียกรถพยาบาล ซึ่งตอนที่เรียกรถพยาบาลดูเวลาจากโทรศัพท์ก็ประมาณ 21.59 น. ส่วนตนก็พยายามเรียกคนเจ็บไม่ให้หลับ ตนก็พยายามเร่งรถพยาบาลให้มาด่วนคนเจ็บไม่ไหวแล้ว พอรถพยาบาลมาถึง ก็มีเจ้าหน้าที่ที่มาด้วย 1 คน มาดูคนเจ็บสักพักก็บอกว่าคนเจ็บเสียชีวิตแล้ว ตนก็รู้เบื้องต้นแค่นี้ เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นตนไม่รู้จริงๆ
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ยังบอกอีกว่า หลังจากเกิดเหตุมีวัยรุ่นเข้ามาเรียกชื่อผู้ตาย และได้แจ้งให้ญาตมาดู บริเวณถนนและที่เกิดเหตุตรงนี้ มักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก มี จยย.ล้มบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นคนเมา ชนสุนัขบ้าง เสียหลักล้มเองบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเสียชีวิตแบบนี้
อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุและมีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจก็ได้เรียกพยานแวดล้อมมาสอบปากคำหลายปากพร้อมทั้งไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณถนนในหมู่บ้าน ก็ไม่พบว่าในช่วงที่เกิดเหตุไม่มีรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามผู้ตายแต่อย่างใด นอกจากนี้ทางญาติได้นำภาพจากกล้องวรจรปิดไปเสนอข่าวกับทางสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งว่า มีเจ้าหน้าที่สายตรวจขับรถไล่กวดผู้ตายอย่างกระชั้นชิด ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพช่วงรอบแรกที่ทางเจ้าหน้าที่สายตรวจได้มีการขับรถติดตามจริง แต่ไม่สามารถติดตามได้ทัน และไม่มีการขับไล่กวดอย่างกระชั้นชิดจนเกิดอุบัติเหตุอย่างที่เสนอข่าวออกไป โดยคำให้การของเจ้าหน้าที่ได้ติดตามมาถึงทางแยกซอยบ้านญวนใต้เท่านั้น และไม่สามารถติดตามต่อได้เนื่องจากมืดและเป็นซอยแยกหลายทางจึงหยุดการติดตาม ซึ่งการเสนอข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงและเป็นการเสนอข่าวในเชิงด้านเดียวจึงอยากให้ประชาชนพิจารณาในการรับรู้ข่าวสารที่ถูกต้อง ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกแม่และภรรยาของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยทั้งแม่และภรรยาของผู้เสียชีวิตไม่ติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งศพของผู้เสียชีวิตก็ได้ทำการฌาปนกิจไปเมื่อวันอาทิตย์ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว
สุจินต์ นฤภัย (เต้)
