วันพฤหัสบดี, 28 มีนาคม 2567

กาญจนบุรี!!ผวจ.สั่งเจ้าหน้าที่ดูแลให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายพนักงานสาวเทศบาลท่าม่วง”

กาญจนบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจน์ สั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย กรณี 2 พนักงานสาวเทศบาลท่าม่วง เข้าร้องนายอำเภอท่าม่วง ว่าปลัดเทศบาลลวนลามในสำนักงาน ส่วนปลัดคนดังกล่าวไม่ขอพูดใดๆ รอไปให้การชั้นศาล และบอกสั้นๆ ว่าเรื่องนี้มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง

วันนี้ 20 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดตามกรณีที่ นายพิสิษฐ์ กาจนภิญพงศ์ นายกเทศบาลท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้พา นางสาว เอ (นามสมมติ) และนางสาว บี (นามสมมติ) สองพนักงานจ้างชั่วคราวเทศบาลท่าม่วง เข้าพบ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา นายอำเภอท่าม่วง ที่ห้องทำงาน ที่ว่าการอำเภอท่าม่วง ไปก่อนหน้านี้ โดยมี นางอรทัย วงศ์วัชรมงคล ปลัดอาวุโส นายสุรศักดิ์ ล้อมพงศ์ ท้องถิ่นอำเภอท่าม่วง นายปณิธิ ป้องสนาม ปลัดอำเภอ นายสุรพร จันทร์สุนทรพจน์ ปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรม นายวรกร พัฒนวิบูลย์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ร่วมรับฟังข้อร้องเรียนจากทั้ง 2 คน ก่อนให้ไปแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน

โดย นางสาวเอ ได้เข้าพบนายอำเภอท่าม่วง แล้วเล่าเรื่องให้ฟังว่าเนื่องจากข้าพเจ้าได้รับผลกระทบการกระทำและพฤติกรรมของ นาย ป. (นามสมมติ) ซึ่งเป็นปลัดเทศบาลตำบลท่าม่วง ซึ่งชอบกระทำพฤติกรรมกับข้าพเจ้าลักษณะลวนลามอยู่บ่อยๆ เช่นเข้ามาจับแขน บีบแขน ลูบหัว และพยายามดึงเข้าไปกอด นอกจากนี้ยังถาม ข้าพเจ้าว่าชอบคนแก่ไหม โดยข้าพเจ้าไม่เต็มใจให้กระทำ และทุกครั้งมีพฤติกรรมลวนลามแบบนี้ จะเป็นช่วงบ่ายในวันทำงานทุกครั้ง ชอบก็ทำแบบนี้กับข้าพเจ้าต่อหน้าเพื่อนร่วมงานของข้าพเจ้า จนข้าพเจ้ารู้สึกอับอาย และตัวนาย ป.มักจะมีลักษณะอาการมึนเมามีกลิ่นสุรา ข้าพเจ้าเองไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้ ได้แต่ระวังตัวและไม่เข้าใกล้ แต่นาย ป.ก็ชอบเข้ามาใกล้ๆ ข้าพเจ้า

ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเข้ามายื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายอำเภอท่าม่วง เพราะข้าพเจ้าเห็นว่าการกระทำพฤติกรรมของนายหนึ่งไม่เหมาะสม ทำให้ข้าพเจ้าได้รับความอับอายและเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่พนักงาน และไม่เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการ ข้าพเจ้าจึงอยากให้นายอำเภอท่าม่วงช่วยพิจารณาดำเนินการและช่วยเหลือ ในปัญหาที่ข้าพเจ้ากล่าวมานี้ด้วยความเป็นธรรม

ดังนั้นข้าพเจ้าจึงส่งเรื่องร้องเรียนมายังอำเภอท่าม่วง ให้นายอำเภอช่วยพิจารณาดำเนินการช่วยเหลือในปัญหาที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมานี้ด้วยความเป็นธรรมด้วย โดยนางสาวเอ นางสาวบี กล่าวต่อหน้านายอำเภอว่า ที่พึ่งมาขอความเป็นธรรมเพราะ กลัวจะไม่ปลอดภัย ปลัดนายนี้ชอบวางอำนาจ เหมือนผู้มีอิทธิพล และบอกว่ารู้จักคนใหญ่ๆ คนนั้นคนนี้ จนทำให้เกิดความกลัวและไม่ปลอดภัย เพราะทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว กลัวตกงานและไม่มีงานทำ แต่มันถึงที่สุดแล้วถ้าปล่อยไว้แบบนี้ ก็จะโดนลวนลามแบบนี้ตลอดไป จึงตัดสิ้นใจเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับท่านนายอำเภอท่าม่วง ช่วยพิจารณาดำเนินการและช่วยเหลือ

หลังจากนั้น นางอรทัย วงศ์วัชรมงคล ปลัดอาวุโสอำเภอท่าม่วง ได้พา นางสาวเอและนางสาวบี เดินทางไปที่ สภ.ท่าม่วง เข้าพบ พ.ต.ต.วรพงษ์ ชาวแพะ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าม่วง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษว่าถูกกระทำอนาจารดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงทำการสอบปากคำเพื่อดำเนินคดี ซึ่งทางฝ่ายผู้เสียหายได้มีพยานเดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้วเกือบ 10 ราย ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ พร้อมให้ผู้เสียหายไปชี้สถานที่เกิดเหตุทั้งหมดแล้ว และได้นัดให้ทางฝ่ายผู้ถูกร้องมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

และในช่วงบ่ายของวันนี้ นาย ป. ซึ่งเป็นปลัดที่ถูก นางสาวเอ กับ นางสาวบี ได้ร้องเรียน และแจ้งความร้องทุกข์กรณีถูกลวนลาม โดยปลัดคนดังกล่าวได้ทางไปยัง สภ.ท่าม่วง เมื่อพบกับสื่อมวลชนฯ ได้บอกว่าเรื่องนี้ตนได้เดินทางมารับข้อกล่าวหา แต่ไม่ขอให้รายละเอียดใดๆในเรื่องนี้ โดยบอกว่าจะไปให้การในชั้นศาลแทนเท่านั้น และบอกเพียงสั้นๆ ว่าเรื่องนี้ลึกๆ มันมีอะไรมากกว่านี้ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ตนจะปล่อยให้ศาลเป็นผู้พิจารณาเท่านั้นดีกว่าก่อนเดินเข้าไปในห้องพนักงานสอบสวน

สำหรับเรื่องนี้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้กำชับกับทางพนักงานสอบสวน ดูแลเร่งรัดคดีให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยรวดเร็ว

ส่วนในคดีนี้ พนักงานสอบสวน พ.ต.ต.วรพงศ์. ชาวแพะ สว.(สอบสวน)สภ.ท่าม่วง ได้แจ้งดำเนินคดีกับปลัดผู้ถูกกล่าวหาในความผิดฐาน “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุเกินกว่าสิบห้าปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ต่อหน้าธารกำนัล” พฤติการณ์ คือ ผู้ต้องหาได้ใช้มือจับแขน ไหล่ กอด ลูบหลัง ผู้เสียหายต่อหน้าบุคคลอื่นหลายครั้ง สถานที่เกิดเหตุเทศบาล ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี โดยเหตุเกิดเมื่อวันที 20 ก.ย.61 ถึง ธ.ค.61 ต่อเนื่องกัน โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้เรียบร้อยแล้ว.

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์

Loading