สืบสวน ภ.1 บุกรวบหนุ่มขับวินจักรยานยนต์รับจ้างเบอร์ 11เพิ่งพ้นโทษมาแค่ 7 เดือนก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ “สาวแผงผลไม้”
วันที่ 25 ก.ค.ที่บริเวณด้านหน้าสภ.คลองหลวง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายสามารถ ธัญญะผลอายุ 27 ปีอยู่บ้านเลขที่ 262 ม.3 ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จว.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่ 400/2562 โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นต่อการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” พร้อมด้วยของกลางอรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน 9 กช 3510 กรุงเทพมหานคร หมวกกันน๊อกแบบเต็มใบสีดำเสื้อวินจยย.รับจ้างเบอร์ 11 เสื้อผ้าที่สวมใส่ กระเป๋าสะพายไหล่ของผู้ตาย
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ค.62 เวลาประมาณ 11.30 น.กรณีคนร้ายฆ่าน.ส.พิไลวรรณ แก้วรักษา อายุ 28 ปี ลูกจ้างแผงค้าผลไม้หมู่บ้านพระปิ่น 7 หมกป่าหญ้าข้างทางภายในซอยเทพกุญชร 21 ม.11 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนกระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องสงสัยคือนายสามารถ เป็นผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างเสื้อวินสีส้มเบอร์ 11 ซึ่งรับผู้ตายมาจากบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อปากทางเข้าหมู่บ้านพระปิ่น 7 ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค62 เวลา 21.30 น.จากนั้นก็ได้เลี้ยวเข้าซอยเทพกุญชร 21 และได้ขับรถออกมาจากซอยเพียงคนเดียวแล้วขับจักรยานยนต์หายไป
ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดธัญบุรีเพื่อออกหมายจับ ในข้อกล่าวหา”ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือและเพื่อให้พ้นต่อการจับกุมและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” จนกระทั่งทางเจ้าหน้าทุ่ดสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัวได้พร้อมนำตัวไปตรวจยึดกระเป๋าสะพายของผู้ตายที่นำไปทิ้งไว้ที่บริเวณใกล้เคียงทางต่างระดับบางขัน
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่าจากการสอบสวนนายสามารถ ได้ให้การรับสารภาพว่าเมื่อคืนวันที่15 ก.ค.62 ตนได้ขับรถจักรยานยนต์ ผ่านมาในเส้นทาง โดยน.ส.พิไลวรรณผู้ตายได้ยืนโบกเรียกใช้บริการอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อหน้าหมู่บ้านพระปิ่น 7 เพื่อไปส่งที่บ้านพักซึ่งอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งเลยจุดเกิดเหตุไปเล็กน้อยแต่เมื่อถึงซอยเทพกุญชร 21 ตนได้พาผู้ตายเลี้ยวเข้าไปในซอยเปลี่ยวและได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ซึ่งเป็นกระเป๋าสะพายของน.ส.พิไลวรรณผู้ตายโดยการสับศอกซ้ายเข้าที่ปลายคางของน.ส.พิไลวรรณผู้ตายจนล้มลงแล้วใช้เท้าถีบไป 1 ครั้งจนกระทั่งน.ส.พิไลวรรณ ตกลงไปในป่าหญ้าข้างทางและตนไม่ได้ใช้อาวุธมีดแทง น.ส.พิไลวรรณ แต่อย่างไร ก่อนจะนำเอากระเป๋าสะพายไป จากนั้นตนก็ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปออกถนนเลียบคลองหนึ่ง จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ขณะขับวินจักรยานยนต์รับจ้างตามปกติ เพราะไม่ทราบว่าเหยื่อเสียชีวิต
จากการตรวจสอบประวัติของนายสามารถพบว่ามีประวัติเสพยาเสพติดและครอบครองยาเสพติด ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์อีกด้วยโดยล่าสุดนายสามารถเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 7 เดือน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบโดยมีกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยดูแลความเรียบร้อย ท่ามกลางเสียงตะโกนสาบแช่งของประชาชนที่มาร่วมสังเกตุการณ์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหากลับไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมต่อที่สภ.คลองหลวงทันที
