วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

ชาวบ้านเห็นด้วย”ไม่คัดค้านกรมศิลป์ฯฟื้นฟู 3 วัดทาสีทองเมืองสุพรรณบุรี

ชาวบ้านเห็นด้วย ไม่คัดค้านกรมศิลป์ฯ ฟื้นฟู 3 วัดทาสีทองเมืองสุพรรณบุรี หวังให้คงคุณค่าศิลปะโบราณดั้งเดิม

กรณีกรมศิลปากรนำคณะสื่อมวลชนสัญจรเยี่ยมชมการดำเนินโครงการอนุรักษ์ปฎิมากรรม เพื่อแก้ไขปัญหาโบราณสถานที่ถูกทาสีทองใน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีทั้งหมด 9 วัดที่ถูกทาสีทอง แต่กรมศิลปากรได้เลือก 3 วัดในการอนุรักษ์ประติมากรรมลอกสีทองออก คือวัดโพธาราม อ.อู่ทอง วัดลาวทอง และวัดไชนาวาส อ.เมืองสุพรรณบุรี เนื่องจากเสียหายหนัก โดยจะอนุรักษ์ในส่วนที่จำเป็นเร่งด่วนก่อน เช่นใบเสมา ซุ้มประตูวัด

ความคืบหน้านั้น พระปลัดกัลยวรรธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธาราม ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า วัดโพธาราม เป็นวัดเก่าแก่ วิหารหลังนี้มีอายุยาวนานกว่า 400 ปี ที่ผ่านมาได้เกิดการชำรุดทรุดโทรม ผนังวิหารร้าว จนชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปในวิหาร เพราะกลัวจะพังถล่มลงมา เมื่อปี 2557 มีกลุ่มจิตอาสาเดินทางมาที่วัด และมีความประสงค์จะร่วมเป็นเจ้าภาพในการบูรณะวิหารร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งทางวัดเห็นว่าเป็นสิ่งดี ไม่ได้ขัดข้อง โดยทางวัดได้ร่วมพูดคุยกับผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางร่วมกัน จนได้มติเป็นเอกฉันท์ในการบูรณะ ซึ่งมีการบูรณะทั้งในส่วนโครงสร้าง กำแพงโบสถ์ด้านนอก ด้านใน ส่วนการทาสีเหลืองทองนั้น เพื่อต้องการให้วิหารแห่งนี้มีเอกลักษณ์ คือสีทอง ซึ่งเป็นสีเหลืองทองอร่ามตา ซึ่งชาวบ้านไม่ได้คัดค้าน เห็นว่าสวยงามดี จนมาเกิดเรื่องขึ้น ล่ากรมศิลปากรและสื่อมวลชน ได้เดินทางมาที่วัด เพื่อดูความคืบหน้าในการลอกสีทอง โดยเบื้องต้นได้ลอกที่ซุ้มประตูทั้งสองด้านแล้ว

นายณรงค์ ศรีเหรา อายุ 62 ปี กรรมการวัดโพธาราม กล่าวว่าขณะนี้ชาวบ้านไม่มีปัญหาเรื่องการที่กรมศิลปากรจะเข้ามาดูแลจัดการตามโครงการอนุรักษ์ปฎิมากรรม ที่เคยต่อต้านครั้งแรกนั้นเนื่องจากตอนแรกยังไม่ได้รับการชี้แจงจากกรมศิลปฯในการจะเข้ามาดูแล แต่ครั้งนี้ทราบว่าจะเข้ามาบริหารจัดการ ทางชาวบ้านก็ยินดี ทราบว่าจะใช้งบประมาณ ปี 2563 และจะดำเนินการได้ในปี 2564ที่ผ่านมา ที่มปัญหาเนื่องจากทางกรมศิลปากรไม่ได้เข้ามาบูรณะหรือชี้แจงเรื่องนี้ กระทั่งเกิดเรื่องขึ้น ส่วนบริษัทสีที่มีการนำภาพวิหารไปโพสต์ ก็ไม่ได้สนับสนุนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางวัด เพราะงบประมาณในการบูรณะ เป็นงบประมาณจากกลุ่มผู้ใจบุญและชาวบ้านในพื้นที่ จำนวนกว่า 4.5 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการบูรณะแล้วเสร็จตั้งแต่ต้นปี 2559 อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางชาวบ้านยินยอมให้กรมศิลปากรเข้ามาบริหารจัดการโดยไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ

ด้านพระสมุห์ สุประวีณ์ (โจ) ปญญาธโร เจ้าอาวาสวัดลาวทอง กล่าวว่าพระอุโบสถของวัดลาวทอง มีการชำรุดทรุดโทรมมาก จนจะพังทลาย และเมื่อปี 2559 และได้มีกลุ่มผู้ร่วมทาง ได้เดินทางมาร่วมกันบูรณะวัดร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งทางวัดก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะเห็นว่าเป็นจิตศรัทธา อันดี แต่ก็ขอไว้ว่าอย่าทาทับตรงหน้าบรรณ หน้าต่าง ประตู โดยสีเหลืองที่ทา ก็เห็นว่าสวยงามดี เนื่องจากชาวบ้านก็มองว่า คือ วัดลาวทอง ก็ต้องเป็นสีทอง ไม่น่าจะเป็นอย่างไร ทราบว่าทางกรมศิลป์ฯจะมาอนุรักษ์ก็ยินดีไม่ขัดข้องอะไร

ภาพทีมข่าวสุพรรณบุรี
นันทชัย ศิริอรุณรัตน์ รายงาน

Loading