วันพฤหัสบดี, 2 ตุลาคม 2568

ชาวเชียงบานผวา”ให้เปิด รง.อบมะม่วง

พะเยา – ชาวเชียงบานผวา “ผู้พันตึ๋ง” รับหน้าเสื่อขอให้เปิด รง.อบมะม่วง สร้างมลพิษหวั่นอิทธิพลมืดและไม่ขอเจรจา ทิ้งท้าย “ผู้พันตึ๋ง” ยันไม่เล่นการเมือง

วันนี้(22 พฤศจิกายน 2562) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ.เจ เค ชนาธาร จำกัด ต.เชียงบาน อ.เชียงคำ จ.พะเยาซึ่งตั้งเป็น โรงงานผลิตผลไม้แห้ง เนื่องจาก “ผู้พันตึ๋ง” หรือพ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ ได้เข้าเจรจาไกล่เกลี่ย ปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นและสิ่งแวดล้อม ในชุมชน และชาวบ้าน บ้านแวนพัฒนา ต.เชียงบาน ,ชาวบ้าน ต.น้ำแวน และชาวบ้าน ต.ทุ่งผาสุก 3 ตำบล ชุมชุนมประท้วงกันหลายสิบครั้ง ตั้งแต่ ปี 2559 เป็นต้นมาเพื่อให้ทางโรงงานปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ผ่านมากว่า 3 ปี ทางโรงงานก็มีข้อพิพาทกับทางชาวบ้านมาโดยตลอด จนเมื่อ 3 เดือนก่อน ทางอุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา ได้สั่งปิดปรับปรุงและจะมีการตรวจสอบกันอีกครั้งภายหลัง
จากการให้สัมภาษณ์ของ ผู้พันตึ๋ง เผยว่า ตนเองได้รับการร้องขอจาก พระมหาสุทัศน์ วชิรญาโณ (หัสดิน) ณ สำนักสงฆ์พุทธอุทยานภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย โดยได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากทางโรงงาน ให้มาเป็นผู้ประสานงานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนี้ ซึ่ง ผู้พันตึ๋ง กล่าวว่า การประสานครั้งนี้ตนเองก็ไม่ได้รับเงินรับทองจากฝ่ายใด มาด้วยจิตอาสา และในการพูดคุยกับชาวบ้าน เมื่อ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมาเป็นการปรึกษาหารือแนวทาง เพื่อเป็นทางออกของทางโรงงานกับชาวบ้าน ซึ่งขณะนี้ทางโรงงานก็ได้ปรับปรุงแก้ไขเรื่องของกลิ่นเหม็นจากน้ำเสียของโรงงานและทั้งยังปรับสภาพสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นตามลำดับ จึงอยากจะให้ทั้งชาวบ้านและโรงงานได้อยู่ร่วมกันอย่างพึ่งพาอาศัยกัน ตนเองก็จะเป็นตัวกลางในการจัดการปัญหาในครั้งนี้ ซึ่งในระหว่างการพูดคุยกับชาวบ้านก็ไม่ได้มีคำพูดหรือกริยาท่าทางที่จะไปข่มขู่ และตนเองก็ยังถ่ายคลิปวีดีโอไว้เป็นหลักฐานด้วย


ผู้สื่อข่าวได้ถามคำถามว่า ที่มาช่วยเหลือหรือประสานงานและออกสื่อสาธารณะครั้งนี้ อนาคตจะลงเล่นการเมืองหรือไม่ ผู้พันตึ๋ง กล่าวย้ำอย่างชัดเจน ว่าตนเองจะไม่ลงเล่นการเมืองเด็ดขาด และยังย้ำอีกในช่วงท้าย
ด้าน นายสรศักดิ์ แสงศรีจันทร์ ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ผู้พันตึ๋ง ได้เข้ามาพบกับตนและผู้นำในพื้นที่ที่มีส่วนร่วมเสนอขอให้ปิดโรงงานอบลำไยและอบมะม่วง ที่สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมตลอดมา ซึ่งให้เหตุผลว่าเป็นตัวแทนของโรงงาน เพื่อมาเจรจาขอให้ทางโรงงานได้เปิดดำเนินการต่อไป ซึ่งไม่มีการข่มขู่แต่อย่างใด ทั้งนี้ทางกลุ่มผู้นำต่างสะท้อนเป็นเสียงเดียวกันว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมเรื้อรังมานานแล้ว โรงงานจะต้องแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาทั้งหมด ดังนั้นการจะเปิดได้ต่อไปหรือไม่ ณ เวลานี้เรื่องได้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของทางราชการเป็นหลัก ประชาชนคือผู้เสียหายก็ต้องขอความเห็นใจจากทางราชการ
แต่การมาของ ผู้พันตึ๋ง ในครั้งนี้ ทำให้ตนเองและชาวบ้าน หวาดกลัวและเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิต เพราะ ผู้พันตึ๋ง ซึ่งโดยที่ทราบกันว่า เป็น “ผู้มีอิทธิพล” ซ้ำยังมีประวัติที่ด่างพร้อย ตนเองและชาวบ้านแปลกใจและตกใจเป็นอย่างมาก อีกทั้ง ตั้งแต่เกิดเรื่องการประท้วงให้ปิดโรงงาน มา ตั้งแต่ ปี 2559 ผู้พันตึ๋ง ก็ไม่เคยมาประสานงานแต่อย่างใด หากว่าทางโรงงานมีความจริงใจจริงๆ ทำไมไม่หา ดาราท่านอื่นที่มีชื่อเสียง หรือไม่ คุณโน้ต อุดม แต้ พานิช เข้ามาเป็นคนประสานให้ จึงเล็งเห็นว่าทางโรงงานจะใช้อิทธิพลมืดเข้ามาทำลายทำร้ายชาวบ้าน ดังนั้น ตนเองและพวกจึงได้ไป สถานีตำรวจเชียงคำ เพื่อไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และเพื่อความปลอดภัยของตนเองและชาวบ้าน

นายสรศักดิ์ กล่าวอีกว่า การกระทำของทางโรงงานในครั้งนี้ ตนเองและชาวบ้านจะไม่ขอพูดคุยและทำความเข้าใจกับทางโรงงานเป็นอันขาด อย่างไรก็แล้วแต่ ชาวบ้านยืนยัน ให้ทางโรงงานปิด อย่างเดียวเท่านั้น
ด้าน นายเจษฎา พีพงษ์ ปลัดอำเภอเชียงคำและเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม กล่าวว่า การที่ ผู้พันตึ๋ง เข้ามาในพื้นที่และพบกับชาวบ้าน ตนเองทราบเรื่องแล้ว แต่การที่จะขอให้ตนเองประสานเป็นตัวกลางในการประชุมกับชาวบ้านนั้น ต้องขึ้นกับชาวบ้านเองว่าจะยอมเจรจากันอีกหรือไม่ จะให้ทางหน่วยงานราชการไปสั่งการก็ไม่อาจที่จะทำได้ ขณะทางโรงงานก็อยู่ในระหว่างการปรับปรุง และรอการตรวจสอบจากทาง กรมโรงงาน อีกครั้ง จึงยังไม่มีข้อสรุป ดังนั้นก็ต้องรอฟังผลการตรวจสอบอีกครั้ง

(ภาพข่าว สราวุธ ตั้งประเสริฐ พะเยา)

Loading