เดอะโอ๋!!! นำทีมสืบสวนภาค 1 บุกทลายแก๊งเครือข่ายแฝดนรกพร้อมอาวุธสงคราม
วันนี้ 25 ธ.ค.62 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส) / เอราวัณ 3 พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง ผบช.ภ.1 / เอราวัณ 5 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ศุภากรณ์ จันทาบุตร รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.อมร ศรีทุนะโยธิน รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดแฝดนรกสระบุรี นายนาย กิตติพันธ์ ฟักขำ อายุ 28 ปีอยู่บ้านเลขที่ 10 ม.4 ต.สร่างโศก อ.บ้านหมอ จว.สระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 470/2561 ลงวันที่ 10 กันยายน 2561 โดยกล่าวว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่รับอนุญาต”และแจ้งข้อหาเพิ่มเติม”มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย”และนาย ดนัย ชูโชติ อายุ 33 ปีและบ้านเลขที่ 82/185 ม.5 ต.เริงราง อ.เสาไห้ จว.สระบุรี โดยกล่าวหาว่า“มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”พร้อมของกลางอาวุธปืนกลมือ AK-47 (อาก้า) จำนวน 1 กระบอก , ซองกระสุนปืนจำนวน 2 ซอง และเครื่องกระสุนปืนขนาดเดียวกัน (7.62 มม.)จำนวน 53 นัด อาวุธปืนออโตเมติกขนาด .45 มม. จำนวน 1 กระบอก , ซองกระสุนปืนจำนวน 1 ซอง และเครื่องกระสุนปืนขนาดเดียวกัน (.45 มม.) จำนวน 11 นัด
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.สส.ภ.1 ได้ติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จว.สระบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ฉายาแฝดนรก ต่อมาตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวนายกิตติพันธ์ได้ในพื้นที่ อ.บ้านหมอ จว.สระบุรีและจากการขยายผลสามารถตรวจยึดอาวุธปืนซึ่งเป็นอาวุธสงครามมือ AK-47 (อาก้า) ได้ในบ้านพัก ม.5 ต.เริงราง อ.เสาไห้และยังตรวจค้นพบอาวุธปืนซึ่งเป็นของนายดนัยได้ในบ้านพักหลังเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายและได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่าจากการสอบสวนนายกิตติพันธ์ และนายดนัยได้ให้การรับสารภาพว่าอาวุธที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นเจอนั้นพวกตนเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในกลุ่มเครือข่ายเวลาที่กลุ่มแก๊งอื่นๆซึ่งมักจะใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มแก๊งที่หักหลังกันเองหรือเพื่อใช้ในการตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐอื่นๆที่เข้าดำเนินการตรวจค้นจับกุมซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 1 จึงมีนโยบายและมาตรการในการกวาดล้างจับกุมต่อกลุ่มแก๊งหรือเครือข่ายต่างๆ ที่กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกลุ่มแก๊งหรือเครือข่ายที่มักใช้ความรุนแรงหรือใช้การตอบโต้ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐอื่นๆให้การกวาดล้างจับกุมมีความเข้มข้นเห็นผลเป็นรูปธรรมต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
