ผู้ประกอบกานนำเข้าข้าวโพดร้องสื่อขอความเป็นธรรม กรณีเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในจับรถบรรทุกสินค้าเกษตร จนเกิดการประท้วงใช้รถยนต์ปิดด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา แห่งที่ 2
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 63 กรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กทม. ได้จับรถยนต์บรรทุกสินค้าพ่วง จำนวน 10 คัน ที่กำลังผ่านพิธีการศุลกากรแม่สอด และกำลังข้ามมาจาก จ.เมียวดี ฝั่งประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา บริเวณสะพานมิตรภาพไทยเมียามาแห่งที่ 2 ท้ายบ้านวังตะเคียน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก โดยอ้างว่า รถยนต์บรรทุกได้บรรทุกสินค้ามาจากฝั่งเมียนมาเกินน้ำหนัก..จากใบขนย้าย ส่งผลให้บรรดารถบรรทุกพ่วง ที่บรรทุ กสินค้าเกษตรเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมตัวกันโดยนำรถยนต์บรรทุกราว 50 คัน ปิดถนนบริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย – เมียนมา …. ขณะนี้ทางผู้ประกอบการค้าข้าวโพด ได้ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนผ่านไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ประกอบการไม่ได้บรรทุกน้ำหนักสินค้าเกิน..เพราะการยื่นขอโควต้าข้าวโพดเพื่อนำเข้ามานั้น ได้ผ่านทางหลายหน่วยงาน.ทั้งตรวจพืช..ปศุสัตว์..ศุลกากร.. รถที่บรรทุกข้าวโพดมานั้น..แต่คันมีน้ำหนักแตกต่างกัน.. แต่รวมกันทั้งหมดไม่เกินตามที่ได้โควต้าจากทางราชการ จึงไม่มีความผิด แต่การจับกุมของเจ้าหน้าที่สำหน้าที่ของกรมการค้าภายในนั้น ไม่ได้นำน้ำหนักมาถัวมารวมกัน ทำให้เกิดปัญหา จึงขอความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการด้วย
สำหรับปัญหาเรื่องน้ำหนักดังกล่าว แล้ว ยังคงมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน ว่า ไปปฏิบัติหน้าที่ทับซ้อนกับฝ่ายศุลกากร และการที่เกิดปัญหาเรื่องน้ำหนักนั้น ยังคงอยู่ในความดูแล ของศุลกากรแม่สอด ที่สามารถพิจารณาแก้ไข และตรวจสอบให้เป็นไปตามโควต้า และถือว่า พื้นที่ปฏิบัติการจับกุมนั้น เป็นของยังอยุ่ในอารักขาของศุลกากร….ทั้งนี้การออกใบขนย้ายของพานิชย์..ควรใช้น้ำหนักใบชั่งของประเทศไทยที่ได้มาตรฐาน..ประกอบการพิจารณา..ไม่ควรออกใบขนย้ายล่วงหน้า..จนทำให้เกิดปัญหาตามมาเยอะแยะกับผู้ประกอบการ..ฝากท่านผู้มีอำนาจช่วยทบทวนมาตรการด้วยครับท่าน