วันอังคาร, 30 เมษายน 2567

ประจวบคีรีขันธ์”ที่ปรึกษารัฐมนตรี วธ.จี้ปรับภูมิทัศน์ โบราณสถาน

ที่ปรึกษารัฐมนตรี วธ.จี้ปรับภูมิทัศน์โบราณสถานจุดส่องกล้องดูสุริยุปราคาหว้ากอทรุดโทรมหนัก

 

วันที่ 4 กรกฎาคม นายอุดร โพธิ์พวง ผู้ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการะทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และนักท่องเที่ยวให้ตรวจสอบบริเวณจุดส่องกล้องดูสุริยุปราคา ของนักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ภายหลังพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่บ้านหว้ากอ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2411 ที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากร อยู่ในเขตอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ต.คลองวาฬ อ.เมือง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าปัจจุบันอยู่ในสภาพทรุดโทรม หากมีฝนตกจะมีน้ำท่วมในบริเวณดังกล่าว ล่าสุดได้แจ้งให้รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมรับทราบเพื่อเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ เพื่อให้สมพระเกียรติในฐานะสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์

นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้แจ้งทุกภาคส่วนรับทราบเกี่ยวกับการดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุ ตามพระราชบัญญัติ ( พ.ร.บ.)โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2535 ที่แสดงถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาติไทย และเป็นมรดกทางภูมิปัญญา ศิลปวัฒนธรรม ปัจจุบัน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีโบราณสถานขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ โบราณสถานหว้ากอ ต.คลองวาฬ อ.เมืองฯ อุโบสถเก่าวัดเขาแดง ต.เขาแดง อ.กุยบุรี วัดตรีสตกูฎ ต.ไร่เก่า อ..สามร้อยยอด และพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ภายในถ้ำพระยานคร อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด รวมทั้งยังมีโบราณสถานที่เข้าข่ายขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติอีก 80 แห่ง

 

“ หากพื้นที่ใดมีโบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนอายุมากกว่า 100 ปีขึ้นไป และมีหน่วยงาน องค์กร หรือบุคคลประสงค์จะบูรณะปรับปรุงซ่อมแซม จะต้องแจ้งให้กรมศิลปากรโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดฯ รับทราบ เพื่อดำเนินการตามแนวทางหลักวิชาการอนุรักษ์และระเบียบของกรมศิลปากร นอกจากนี้วัฒนธรรมจังหวัด ฯเป็นเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ฯมีอำนาจหน้าที่ในการเข้าไปยังโบราณสถาน เพื่อตรวจสอบว่าได้มีการซ่อมแซม แก้ไขส่วนต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ กรณีพบเห็นการกระทำผิดสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำผิดได้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายโดยมีโทษทางอาญาทั้งจำและปรับ”นางกฤษณา กล่าว

พิสิษฐ์ รื่นเกษม/ข่าว/จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

Loading