วันเสาร์, 23 สิงหาคม 2568

ขอขมา”พ่อเมืองกาญจน์

กาญจนบุรี ‘วราภรณ์’ วิทยากรท้องถิ่นชื่อดัง หลั่งน้ำตาโร่เข้าขอขมา พ่อเมืองกาญจน์ และนายกเหล่ากาชาด หลังโพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊ก จนสร้างความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊กส่วนตัวในชื่อ “วราภรณ์ แสงชา” ได้มีการโพสต์ข้อความด่าทอใส่ความ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จนทำให้ได้รับความเสียหาย จากข้อความที่ได้โพสต์ไว้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี

วันที่ 30 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงาว่า นางสาววราภรณ์ แสงชา นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ องค์การบริหารส่วนตำบลกุดรัง อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นวิทยากรที่ให้ความรู้เกี่ยวกับระเบียบของท้องถิ่น และมีแฟนคลับเป็นจำนวนมาก ได้เดินทางเข้าพบ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ที่ห้องทำงานชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกับนำพานดอกไม้ธูปเทียนแพเพื่อขมา นายจีระเกียรติ และนางรชยา ภายหลังจากโพสต์ข้อความต่างๆ เกี่ยวกับการทำงานและการปฏิบัติหน้าที่ของ นายจีระเกียรติ ลงในโซเซียล จนทำให้ผู้ว่าฯ และครอบครัว ได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง จากสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไป โดยไม่อนุญาตให้บรรดาแฟนคลับของ นางสาววราภรณ์ หรือบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในห้องทำงาน เพื่อขอพูดคุยกันเป็นส่วนตัว

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นางสาววราภรณ์ แสงชา ได้เคยโพสต์ข้อความวิชาการเกี่ยวกับระเบียบราชการในการแจกถุงยังชีพ และต่อมามีการด่าทอ จนทำให้เกิดข้อขัดแย้ง และเกิดความเข้าใจผิดหลายประการ โดยเกิดจากการยุยงปลุกปั่นของบุคคลและกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี จนทำให้เกิดกระแสด่าทอ ให้ร้าย นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในด้านการทำงาน ซึ่งบางถ้อยคำและบางถ้อยความ ทำให้ผู้ว่าฯ ได้รับความเสียหาย จากความเข้าใจผิดไปเองหลายประการ ประกอบกับเหตุที่มีบุคคลและกลุ่มบุคคลพยายามใช้ความซื่อสัตย์ ความมีชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือของ นางสาววราภรณ์ เป็นเครื่องมือ เพื่อไปทำลายชื่อเสียงผู้ว่าฯ พยายามปลุกปั่น ยุยง สร้างความแตกแยก เป็นเหตุให้มีการใส่ร้ายผู้ว่าฯ ต่างๆ นานา จนทำให้เข้าใจผิด และตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มหรือบุคคลดังกล่าว

ต่อมา นางสาววราภรณ์ แสงชา ได้การพูดคุยถึงประเด็นปัญหาต่างๆ กับ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จึงทำให้รับทราบข้อเท็จจริงความเป็นมาของประเด็นปัญหาต่างๆ ซึ่งเป็นที่เข้าใจผิดมาโดยตลอด โดยพบว่าเป็นคนละเรื่องกับที่ผู้ไม่หวังดีเหล่านั้นพยายามปลุกปั่น ยุยง สร้างกระแส โดยสิ้นเชิง จึงตัดสินใจขอเข้าพบผู้ว่าฯ เพื่อขอขมา ดังกล่าว

ภายหลังเสร็จสิ้นการพูดคุยดังกล่าว นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชน และแฟนคลับของ นางสาววราภรณ์ เข้าไปบันทึกภาพและสอบถามเรื่องราวต่างๆ โดย นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ของคุณวราภรณ์ก็เพื่อมาขอโทษตนและครอบครัวที่ได้นำเรื่องราวที่ไม่เป็นความจริงไปลงในโซเซียลจนสร้างความหาย เสียชื่อเสียงให้กับตนและครอบครัว ตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร เราคนไทยด้วยกันเมื่อรู้ว่าผิดก็มาขอโทษ ส่วนเรื่องคดีความก็เช่นกันตนไม่ต้องการให้มันเป็นคดีความเป็นเรื่องเป็นราวอะไรเลย
นายจีระเกียรติ กล่าวต่อว่า เมื่อคุณวราภรณ์ ยอมรับว่าตัวเองผิดพร้อมกับเดินทางมาขอโทษตนและครอบครัวและชาวจังหวัดกาญจนบุรี ตนและครอบครับก็พร้อมที่จะยกโทษให้กับคุณวราภรณ์เกี่ยวกับเรื่องที่คุณวราภรณ์นำเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตนไปลงในโซเซียลจนสร้างความเสียหายเสียชื่อกับตน ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เมื่อรู้ว่าผิดก็ยอมรับว่าตัวเองผิด ตนก็พร้อมที่จะยกโทษให้อยู่แล้ว

ด้าน นางสาววราภรณ์ แสงชา นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ องค์การบริหารส่วนตำบลกุดรัง อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม ได้เปิดเผยทั้งน้ำตาด้วยความสำนึกผิด เกี่ยวกับเรื่องราวที่ตนเองได้นำไปลงในโซเซียลจนเกิดความเสียหายต่อผู้ว่าฯ และครอบครัว ว่า เป็นเรื่องของความเข้าใจผิด ท่านผู้ว่าฯ และ นายกเหล่ากาชาด ท่านเป็นคนดี ตนไม่มีเจตนาที่จะไปก้าวล่วงท่านเลย อย่างที่ท่านผู้ว่าฯ ได้กล่าวและพูดถูกต้องแล้ว มีคนนอกคนในที่เข้ามาปลุกปั่น มายุยง ใช้เรา ใช้ความซื่อของเรา ในการที่เราเป็นคนกล้าพูดกล้าชน มาทำลาย จึงเป็นจุดที่ทำให้เราเข้าใจท่านผู้ว่าฯ ผิด ซึ่งท่านผู้ว่าฯ และคุณนายท่านเป็นคนน่ารักมาก และท่านยังให้นโยบายกับเรา เพื่อนำไปใช้ ไปเผยแพร่ให้ความรู้กับผู้นำท้องถิ่นในเรื่องของระเบียบการเบิกจ่ายต่างๆ ซึ่งต้องขอขอบคุณท่านผู้ว่าฯ และคุณนายที่ให้โอกาสครั้งใหญ่กับตน

กรณีที่มีคนตั้งข้อสังเกตในการเดินทางมาขอโทษ ผู้ว่าฯ และภรรยาในครั้งนี้ ว่า มาจากใจจริงหรือไม่ นางวราภรณ์ แสงชา กล่าวว่า ตนเดินทางมาด้วยใจจริง และไม่มีอย่างอื่นแอบแฝง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันจบไปแล้ว และตนเองก็ไม่เคยมีอะไรผิดใจกับท่านผู้ว่าฯ มาก่อน วันนี้ตนได้พูดคุยกับท่านผู้ว่าฯ และคุณนาย ตนเข้าใจในแนวนโยบายในการทำงานของท่านว่าเป็นเช่นไร ตนจะนำนโยบายและแนวคิดที่ได้รับไปปรับใช้เพื่อให้เข้ากับการทำงานเพื่อพี่น้องท้องถิ่นต่อไป

ส่วนเรื่องข้อมูลต่างๆ ที่ตนนำมาลงในโซเซียล ก็มีบุคคลและกลุ่มบุคคลป้อนข้อมูลมา รวมถึงมีการปลอมเฟสบุ๊กและสร้างเฟสบุ๊กอวตารขึ้นมาด่าว่าตน ทำให้ตนนึกว่าเป็นฝ่ายของคนที่รักท่านผู้ว่าฯ จึงทำให้ให้ตนมีอารมณ์ และตอบโต้ไป รวมไปถึงมีคนพยายามสร้างให้เราสู้คดีถึงที่สุด และเมื่อเราเห็นการทำงานของท่านก็เหมือนกับการทำงานของเราซึ่งมีความคล้ายๆ กัน คือ ทำเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด เมื่อเราทราบข้อมูลข้อเท็จจริงว่าเรื่องดังกล่าวที่ตนทราบมันไม่ใช่เรื่องจริง โดยเกิดจากการยุยงปลุกปั่นจากคนที่เสียประโยชน์ ตนจึงได้เดินทางมาพบกับท่านผู้ว่าฯ และคุณนายเพื่อให้ท่านยกโทษให้กับเรา และท่านก็ยกโทษให้กับเราอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ท้ายสุดนี้ตนต้องกล่าวขอโทษท่านผู้ว่าและคุณนายพร้อมชาวกาญจนบุรี จริงๆ กับสิ่งที่ตนทำลงไปในครั้งนี้

ทีมข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์

Loading