ตำรวจปราบปรามยาเสพติดทลายเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ รวบนักบินเครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือยึดยาบ้า รวม 4.6 ล้านเม็ด ยึดไอซ์ 1,600 กก.
วันที่ 16 พ.ค.66 เวลาประมาณ 10.00 น.ที่ตำรวจปราบปรามยาเสตติด พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส.พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.พล.ต.ต.สมกิตพุ่มวารี ผบก.ขส.พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กอ.รมน.ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดจำนวน 3 เครือข่ายพร้อม ผู้ต้องหา 15 คน พร้อมของกลางไอซ์ 1,600 กก.ยาบ้า 4.6 ล้านเม็ด และยึดทรัพย์ เรือประมง 1 ลำ สปีดโบต 2 ลำ รถยนต์ 9 คัน บ้าน 1 หลัง ที่ดิน 8 แปลง รวมมูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท คดีที่ 1
พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 กล่าวว่าเมื่อวันที่ 13 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.ปส.3 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 9 คน ได้แก่ 1.นายกฤษณะ 2.นายสะหมาด 3.นายประโยชน์, 4.นายรุ่งศักดิ์ 5.นายอรชุน 6.นายจุมพล,7 นายนพดล 8.นายสุชาติ และ 9.นายอนุชา พร้อมของกลางไอซ์ 1,600 กก.โดยก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ปส.3 ได้ทำการสืบสวนทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติจะมีการลำเลียง ยาเสพติดล็อตใหญ่ลงเรือ ส่งไปให้ขบวนการค้ายาเสพติดในต่างประเทศ โดยจะนำไปลงเรือที่บริเวณท่าเทียบเรือไม่มีชื่อ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จว.นครศรีธรรมราช จึงวางแผนจับกุมต่อมาวันที่ 13 พ.ค.66 เวลาประมาณ 18.30 น.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ปส.3 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นเรือประมง Shipoxx พบของกลางไอซ์ 1,600 กก. ซึ่งกำลังเตรียมออกทะเล เพื่อนำยาเสพติดไปส่งยังต่างประเทศ จึงแจ้งข้อกล่าวหาจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ยึดยาเสพติดไว้เป็นของกลาง และยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบอีกหลายรายการ อาทิเช่น เรือประมง 1 ลำ เรือสปีดโบต 2 ลำ รถยนต์ 5 คัน บ้าน 1 หลัง ที่ดิน 8 แปลง นำส่ง พงส.บก.ปส.3 เพื่อดำเนินคดีและขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการและผู้สั่งการต่อไป
คดีที่ 2
พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส.กล่าวว่าเมื่อวันที่ 13 พ.ค.66 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ได้แก่ 1.นาย สือ และ 2.นายพินิจ ได้ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย อ.บางปะหัน จว.พระนครศรีอยุธยา โดยตำรวจ บก.สกส. ได้สืบสวนทราบว่าในวันที่ 13 พ.ค.66 ขบวนการ ค้ายาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่จากภาคเหนือไปส่งให้ลูกค้าในภาคกลาง จึงวางแผนจับกุม ต่อมาวันที่ 13 พ.ค.66 เวลาประมาณ 22.15 น. ได้มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีเทา หมายเลขทะเบียน ยฉ 76xx และรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค 89xx ขับขี่ผ่านไปถึง ถนนสายเอเชีย ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา มีลักษณะคล้ายกับรถลำเลียงยาเสพติดที่ได้รับรายงาน จึงสกัดจับกุมและทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 4 ล้านเม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบจำนวน 25 กระสอบ ซุกซ่อนในรถกระบะหมายเลขทะเบียน ยฉ 76xx มีนายสือ เป็นผู้ขับขี่ โดยมีนายพินิจ เป็นผู้ขับขี่รถกระบะหมายเลขทะเบียนผค 89xx ทำหน้าที่นำทาง จึงแจ้งข้อกล่าวหาจับกุม ยึดยาเสพติดและรถกระบะ 2 คัน เป็นของกลาง นำส่ง พงส.ดำเนินคดีและสืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป
คดีที่ 3
พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส.กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สกส.ได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา 4 คนได้แก่ 1.นายชาลี 2.น.ส.สายใจ 3.นายอนุชา และ 4.นายไกรทอง ได้ที่บริเวณริมถนน สายบางปะหัน-ปทุมธานี อ.บางปะหัน จว.พระนครศรีอยุธยา จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่าในระหว่างวันที่ 11-14 พ.ค.66 ขบวนการค้ายาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก ไปส่งให้ลูกค้าใน จว.พระนครศรีอยุธยา จึงวางกำลังตามเส้นทางเพื่อสกัดจับกุมต่อมาวันที่ 14 พ.ค.66 เวลาประมาณ 13.45 น.ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถกระบะอีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน 3 ฒช 71xx และ รถเก๋งโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กจ 70xx ขับขี่ไปถึงบริเวณถนนสายบางปะหัน–ปทุมธานี ต.ขวัญเมือง อ.บางปะหัน จว.พระนครศรีอยุธยา มีท่าทางพิรุธจะขับขี่หลบหนี จึงสกัดจับกุมและตรวจค้นรถ พบยาบ้าจำนวน 600,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบ 3 กระสอบ ซุกซ่อนในรถกระบะหมายเลขทะเบียน 3 ฒช 71xx มีนายชาลี เป็นผู้ขับขี่ โดยมี น.ส.สายใจ นั่งข้างคนขับ และรถเก๋งหมายเลขทะเบียน กจ 70xx มีนายอนุชาเป็นผู้ขับขี่ และนายไกรทอง นั่งไปด้วย รับว่าทำหน้าที่รถนำทาง จึงแจ้งข้อกล่าวหาจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยึดยาเสพติดและรถยนต์ 2 คันไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คดีถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ” ทั้งนี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (NSB) จะทำการสอบสวนเพื่อขยายผลหาผู้สั่งการขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป ขณะที่ยาเสพติดของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้นพนักงานสอบสวนจะส่งไปตรวจพิสูจน์ยังหน่วยที่กำหนดไว้ อาทิ สำนักงาน ป.ป.ส.,กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นยาเสพติดของกลางจะถูกเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการทำลายต่อไป
