วันพุธ, 1 พฤษภาคม 2567

ชาวบ้านแสล่งสุดทน!!ร้องสื่อฯ ทนเหม็นนำ้ยางพารามากว่า 2 ปี”ร้องศูนย์ดำรงธรรมเกือบ 10 ครั้งแต่เรื่องเงียบ”

พะเยา – ชาวบ้านแสล่งสุดทนร้องสื่อฯ เหม็นกลิ่นน้ำยางพารามากว่า 2 ปี ร้องศูนย์ดำรงธรรมเกือบ 10 ครั้ง แต่เรื่องเงียบ พบละเมิดคำสั่งแอบซื้อยางหลังถูกสั่งให้หยุด อีกฝั่งหนุนเพราะให้ราคายางสูง

วันนี้(19 ธันวาคม 2561) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ อบต.เชียงแรง ต.เชียงแรง อ.ภูซาง จ.พะเยา จากกรณีที่ชาวบ้าน ได้ร้องเรียนเรื่อง เหม็นกลิ่นน้ำยางพาราสด จากโรงงานรับซื้อใกล้บ้าน พบ นายสงกรานต์  สมนาม อายุ 31 ปี ชาวบ้านแสล่ง 182 ม.5 ต.เชียงแรง พร้อมชาวบ้าน ขอให้ทาง อบต.เชียงแรง ตรวจสอบ บ.ลัมเฮง เอสทีอาร์ จำกัด ม.5 ต.เชียงแรง อ.ภูซาง จ.พะเยา ว่า เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 61 ทาง อบต.เชียงแรงลงพื้นที่ตรวจสอบและทำหนังสือตกลงกับทาง บริษัท ซื้อยางพาราสดดังกล่าวให้ยุติการซื้อยางสด จากชาวสวนนั้น ตนเองและชาวบ้าน ยังเห็นว่ามีการซื้อขายยางสดกันโดยไม่กลัวคำสั่งราชการได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน จึงมาเพื่อเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ใช้คำสั่งเด็ดขาดจัดการกับบริษัทรับซื้อยาง

         นายสงกรานต์ กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากชาวบ้านแสล่ง หมู่ 5 ซึ่งมีพื้นที่ติดกับโรงงานประมาณ 500-600 เมตร ได้รับความเดือดร้อนเรื่องเหม็นกลิ่นน้ำยาง มากว่า 2 ปี ร้องเรียกมากกว่า 10 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับการแก้ไข

ด้าน ว่าที่ ร.ต.สมบูรณ์  ใจดี  ปลัด อบต.เชียงแรง เผยว่า ตนเองได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านและได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกับเจ้าของบริษัทรับซื้อยางเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ท ผ่าน จึงมีคำสั่งให้ ยุติการซื้อขายยางพาราสด พร้อมให้ปรับปรุงแก้ไขภายใน 30 วัน นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ซึ่งทางบริษัทตกลงทำตามคำสั่งดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบต่อที่ บ้านแสล่ง ม.5 ต.เชียงแรง อ.ภูซาง พบชาวบ้าน กว่า 100 คน ร้องต่อผู้สื่อข่าวเรื่องเหม็นกลิ่นยาง ทำให้ต้องทนกลิ่นเหม็นทั้งวันทั้งคืนอยากให้ทางบริษัทหาทางแก้ไขโดยด่วน

ด้านเชียรแยะ  แซ่โยฮ์ (เฮียโก๊ะ) อายุ 27 ปี 321 ม.5 ต.เชียงแรง ผู้จัดการ บ.ลัมเฮง เอสทีอาร์ จำกัด เผยต่อผู้สื่อข่าว ว่า หลังจากที่ตนเองได้รับหนังสือคำสั่งให้ยุติการซื้อขายยางพาราพร้อมให้แก้ไขปรับปรุงกลิ่นจากน้ำยางพาราสด จาก อบต.เชียงแรง ตนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและจะเริ่มดำเนินการใช้ฝามาปิดท่อน้ำทิ้งและขุดบ่อพักน้ำยางพร้อมทั้งบำบัด ภายในระยะเวลา 30 วันตามคำสั่ง ส่วนการซื้อขายที่ยังมีอยู่ในวันนี้จะเป็นการซื้อขายยางพาราสดจากชาวสวนเป็นวันสุดท้ายและเริ่มแจ้งให้ชาวสวนรับทราบกันต่อไป สำหรับการซื้อยางที่เกิดขึ้นหลังจากนี้จะเป็นการรับซื้อยางพาราค้างคืนจากพ่อค้า ที่ทำการพักยางก้อนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เพราะจะทำให้ลดกลิ่นของน้ำยาง ทั้งนี้ตนเองจะเก็บยางพาราสดที่ชาวบ้านมาขายทั้งหมดเข้าโรงงานให้แล้วเสร็จภายในเวลา 15.00 น.ของวันนี้

ด้าน นางสายทอง  บรรเทา อายุ 51 ปี ชาวบ้านศรีไฮคำ 2/1 ม.11 ต.เชียงแรง  เป็นชาวสวนยางที่นำยางพาราสด มาขาย เผยว่า ตนเองอยากให้ทาง บริษัทรับซื้อยางพาราสดของชาวบ้านต่อไป จะได้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว บริษัทแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้บ้านและสวนของชาวบ้าน สะดวกในการนำมาขาย อีกอย่างทางบริษัทก็ให้ราคาต่อการซื้อต่อกิโลสูงกว่า ที่อื่น 3- 4 บาท ทั้งนี้จึงขอเป็นกำลังใจให้กับทางบริษัทให้สู้ต่อไปเพื่อชาวบ้าน

(ภาพ/ข่าว สราวุธ  ตั้งประเสริฐ  พะเยา )

Loading