วันพฤหัสบดี, 18 กันยายน 2568

เดอะโอ๋!!!เรียกประชุมเร่งติดตามความคืบหน้าคดีเยาวชน 5 คนรุมโทรมเด็ก 12 ปี”

เดกอะโอ๋!!! เรียกประชุมเร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดีเยาวชน 5 คนรุมโทรมเด็ก 12 ปี


วันนี้ 19 ธ.ค.61 ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.เมืองสระบุรี อ.เมือง จว.สระบุรี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส)ประชุมเร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดีเยาวชน 5 คนรุมโทรมเด็ก 12 ปีเกิดเหตุที่บริเวณร้านขายของทุกอย่าง 10 บาท ต.ปากเพรียว อ.เมือง จว.สระบุรีเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.61 ระหว่างเวลาประมาณ 02.30-06.00 น.และคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและคดีที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในพื้นที่ “สภ.เมืองสระบุรี ภ.จว.สระบุรี”โดยมีพ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ วิเชียรสรรค์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.เรืองยศ โสภาพล ผกก.สภ.เมืองสระบุรีและเจ้าหน้าที่ส่วยที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในการประชุม

พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าในที่ประชุมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวนติดตามเร่งรัดการสอบสวนปากคำ รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และติดตามผลการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์โดยเร็วพร้อมให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุมกำกับดูแลและสั่งการในคดีด้วยตนเอง และติดตามตรวจสอบการทำสำนวนคดีตามคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 อย่างเคร่งครัด โดยให้ความเป็นธรรมกับคู่กรณีทุกฝ่ายและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ดำเนินการตามที่ได้สั่งการเพิ่มเติมเพื่อนำข้อมูลประกอบสำนวนการสอบสวนและให้ฝ่ายป้องกันปราบปรามปรับแผนการออกตรวจเพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นได้อีกและให้มีการปรับปรุงภาพลักษณ์การทำงาน โดยการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินคดีทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน ให้กับคู่กรณีทั้งสองฝ่ายรวมถึงสื่อมวลชนทราบ เพื่อป้องกันการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน อันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจและให้เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนายพึงระมัดระวังการให้ข่าวอย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวนสอบสวน รวมถึงข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องทางคดี หรือข้อมูลอันอาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิดหรือคลาดเคลื่อนต่อสื่อมวลชนพร้อมทั้งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานร่วมกันเป็นทีม(teamwork) บูรณาการการข่าวร่วมกันทุกฝ่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานให้ชัดเจนและให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทุกระยะ หากพบปัญหาให้รายงานให้ทราบ เน้นย้ำอย่าให้เกิดข้อบกพร่องโดยให้ทุกนายยึดหลักการทำงานแบบ “ขยัน อดทน ดำรงตนอย่างมีเกียรติ”

Loading