วันพฤหัสบดี, 25 กันยายน 2568

สุพรรณบุรี!!ไร่อ้อยไม่สนใจ ไฟลุกไร่อ้อยก่อนตัดส่งเข้าโรงงาน”ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ”

ไม่สนไม่แคร์ไฟลุกไร่อ้อยก่อนตัดส่งเข้าโรงงานไม่เกรงใจปัญหาสิ่งแวดล้อม

จากปัญหากระแสการตื่นกลัว กังวลเรื่องฝุ่น PM 2.5 ซึ่งก่อให้เกิดปัญหามลภาวะทางอากาศ ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบระบบทางเดินหายใจและได้รับอันตรายจากฝุ่นเป็นพิษ เป็นจำนวนมาก จนสร้างกระแสความตื่นตัวให้กับคนในสังคมไปทั้งประเทศตามข่าวที่เคยเสนอให้ทราบแล้วนั้น

ซึ่งต้นเหตุอีกหนึ่งปัญหาเกิดจากการ. ไฟเผาในภาคการเกษตร ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยมีการขอความร่วมมือและประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทั้งหลาย โดยเฉพราะชาวไร่อ้อย ให้งดการจุดไฟเผาอ้อยก่อนตัดส่งฌรงงานน้ำตาล หรือการเผาตอซังข้าวเพื่อจะลดปัญหาฝุ่นพิษที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 5 ก.พ. ได้มีไฟลุกไหม้ไร่อ้อย เปลวไฟได้ลุกโหมอย่างรุนแรงและมีเขม่าไปออยที่ถูกปล่อยไม่ลอยไปอยู่เต็มท้องถนนและตกใส่ในบ้านเรือนประชาชน ริมถนนสายมาลัยแมน นครปฐม-อู่ทอง พื้นที่ ต.สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ติดกับร้านส้มค้าของเก่า ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพักเพียง 300 เมตรเท่านั้น ซึ่ง ขณะเกิดเหตุนั้นทางเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าได้หยุดทำการในช่วง เทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 3-5 ก.พ. หลังเกิดไฟลุกไหม้ไร่อ้อย ลูกจ้างร้านของเก่า ได้เดินออกมาคอยสังเกตุลาดเลา เพราะเกรงว่าไฟจะลุกลามเข้ามาติดภายในร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งลูกจ้างร้านดังกล่าวบอกว่าปีนี้เพิ่งจะมีอะไรอ้อยมาปลูกติดอยู่กับร้านรับซื้อของเก่าเมื่อเกิดไฟไหม้ขึ้นตนจึงได้รีบเดินออกมาดูแต่ก็ไม่พบหรือทราบว่าผู้ใดเป็นผู้จุด

ซึ่งแหล่งข่าวที่ไม่ขอเปิดเผย กล่าวว่าปัญหาการจุด ไฟเผาอ้อยจะมีในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายนเป็นประจำของทุกปีเนื่องจากเป็นฤดูกาลเปิดหีบอ้อย ซึ่งโรงงานน้ำตาลจะทำการรับซื้ออ้อยจากเกษตรกร โดยปัญหาการเผาอ้อยเกิดจากสองกรณีคือ หนึ่ง แรงงานไม่ยอมตัดอ้อยสดเนื่องจากเสียเวลาในการริดใบอ้อยจะทำให้การตัดอ้อยช้า จึงแอบจุดไฟก่อนจะลงมือตัด กับ อีกสาเหตุหนึ่ง คือการ. ไฟเผาอ้อยของผู้ที่เคยมีปัญหากัน อาทิเช่นการฉีดยา-สารเคมี ในไร่อ้อยแล้วส่งผลกระทบไปถึงไร่ที่ปลูกพืชผัก ทำให้ได้รับผลกระทบเกิดใบไหม้หรือหงิกงอ พอไปแจ้งเจ้าของไร่อ้อย กลับทำไม่รู้ไม่ชี้ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เมื่อถึงฤดูกาลตัดอ้อยมักถูกแอบจุด ก่อนที่จะถึงกำหนดตัด เผื่อให้เกิดความเสียหายกับเจ้าของไร่อ้อยเนื่องจากน้ำหนักจะหายไปเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใด ล้วนก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านต้องทนรับกรรมเจอกับเศษใบอ้อยที่ถูกเผาใหม้ ตกใส่หลังคาบ้านและพื้นบ้าน จนบางครั้งตากผ้าไม่ได้ หรือผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจต้องทนรับชะตากรรม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จึงอยากให้หน่วยราชการ เข้มงวดกวดขันกันอย่างจริงจังเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ให้เลวร้ายมากไปกว่าเดิม

นัน พิราบ 3 สุพรรณบุรี

Loading