วันศุกร์, 26 กันยายน 2568

สภาเด็กและเยาวชนศรีสะเกษ!!ผนึกกำลังทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมต้านนำ้เมา”ไม่สูบ ไม่ดื่ม ไม่เสพ”

สภาเด็กและเยาวชนศรีสะเกษ ผนึกกำลังทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมต้านน้ำเมา “ไม่สูบ ไม่ดื่ม ไม่เสพ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายนพ พงศ์ผลาดิสัย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมโครงการถนนเด็กเดิน “ไม่สูบ ไม่ดื่ม ไม่เสพ” Safe Sex ซึ่งสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ จัดขึ้น โดยมี นายพชร บุญเหลือ ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายพงศ์ภัค มงคลชัยพาณิชย์ ที่ปรึกษาสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และผู้ประสานงานสมาพันธ์เด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ นำเด็กนักเรียนและเยาวชน จ.ศรีสะเกษ ให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรมด้วยอย่างคึกคัก


นายพชร กล่าวว่า จากสถานการณ์ด้านเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ที่มีสถิติความเสี่ยงทางด้านสุขภาพที่ทำให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ประสบกับปัญหาทางสังคม และมีผลต่อการพัฒนา โดยปี 2554 มีข้อมูลอัตราการสูบบุหรี่ของเยาวชนเป็นอับดับ 2 ของประเทศ และข้อมูลอัตราการเพิ่มจำนวนของนักดื่มหน้าใหม่ อยู่อันดับที่ 5 ของประเทศ จากการสำรวจของศูนย์วิจัยปัญหาสุราแห่งชาติ โดยเด็กและเยาวชน ปัจจุบันนี้ตกเป็นเครื่องมือของสื่อการโฆษณาเชิญชวน ต่างๆ รวมทั้งการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเด็กและเยาวชนในการที่จะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความง่ายมากขึ้น ซึ่งมีหลายปัจจัย ทั้งเกิดจากสิ่งจูงใจเช่น การจัดโปรโมชั่น การจัดดนตรีที่วัยรุ่นชื่นชอบ การทำการตลาดของทุนเหล่านี้ เข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้น จากการโฆษณาแฝงผ่านช่องทางการ CSR ทำให้เด็กและเยาวชนมีการรับรู้ และอาจจะติดจากความเคยชิน จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป มีโอกาสที่เด็กและเยาวชนเหล่านี้จะเป็นลูกค้าหรือผู้สนับสนุนในผลิตภัณฑ์ไปอีก 20-30 ปีข้างหน้า ดังนั้นการรู้เท่าทันกลไกต่างๆ หรือสิ่งยั่วยุต่างๆ ทำให้เด็กและเยาวชนขาดภูมิคุ้มกันที่ดี แต่ก็ยังนับว่าเป็นความโชคดีที่ประเทศไทยมี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการคุ้มครองเด็กและเยาวชนไทย ปีนี้เป็นปีที่ 11 ที่ได้มีการประกาศและบังคับใช้ พ.ร.บ. ฉบับนี้ ดังนั้น เครือข่ายต่างๆ ทั้งองค์กรเด็กและเยาวชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม ซึ่งมีหลายปัจจัย ทั้งเกิดจากสิ่งจูงใจเช่น การจัดโปรโมชั่น การจัดดนตรีที่วัยรุ่นชื่นชอบ การทำการตลาดของทุนเหล่านี้ เข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้น จากการโฆษณาแฝงผ่านช่องทางการ CSR ทำให้เด็กและเยาวชนมีการรับรู้ และอาจจะติดจากความเคยชิน จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป มีโอกาสที่เด็กและเยาวชนเหล่านี้จะเป็นลูกค้าหรือผู้สนับสนุนในผลิตภัณฑ์ไปอีก 20-30 ปีข้างหน้า ดังนั้นการรู้เท่าทันกลไกต่างๆ หรือสิ่งยั่วยุต่างๆ ทำให้เด็กและเยาวชนขาดภูมิคุ้มกันที่ดี แต่ก็ยังนับว่าเป็นความโชคดีที่ประเทศไทยมี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการคุ้มครองเด็กและเยาวชนไทย ปีนี้เป็นปีที่ 11 ที่ได้มีการประกาศและบังคับใช้ พ.ร.บ. ฉบับนี้ ดังนั้น เครือข่ายต่างๆ ทั้งองค์กรเด็กและเยาวชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม

ข่าว/ภาพ…… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

Loading