เตือนเป็นอุทาหรณ์ เพื่อนบ้านจุดไฟเผาหญ้ากลางทุ่งนา ลมกรรโชก เผาวอดยุ้งข้าว และ วัสดุก่อสร้าง เสียหายจำนวนมาก
ชัยภูมิผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.03 น.ของวันที่ 30 มีนาคม 2562 พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ใจสบาย รอง ผกก.(สืบสวน)lสภ.เมืองชัยภูมิ และ ร.ต.อ.วชิระ เพชรฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจาก 191 สถานีตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีเหตุไฟไหม้ยุ้งข้าวชาวบ้าน อยู่ด้านหลังวัดบ้านหนองโง้ง หมู่ที่ 1 ตำบลหนองนาแซง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมรถน้ำเทศบาลเมืองชัยภูมิ และ รถน้ำองค์การบริหารส่วนตำบลหนองนาแซง
ที่เกิดเหตุ พบเพลิงอยู่ระหว่างลุกลามจากกลางทุ่งนา เข้าสู่ก่อไผ่และยุ้งข้าวที่อยู่ข้างบ้านชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงช่วยระดมรถน้ำเร่งทำการดับ แต่ก้อต้องใช้เวลาเนื่องจาก มีลมกรรโชกแรง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ แต่ก้อไม่ทันการณ์ไฟไหม้ยุ้งข้าวเสียหายทั้งหลัง อีกทั้งยังมีกองวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นของนายจำเริญศักดิ์ เมตรตา อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านเสียหายทั้งหมด
สอบถามไปยังนายธีรพล เมตรตา อายุ 26 ปี อาศัยบ้านเลขที่22/23 หมู่ที่1ตำบลหนองนาแซง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ลูกชายเจ้าของบ้าน ให้การว่า ตนได้สังเกตุว่ามีเจ้าของที่นา มาจุดไฟเผาหญ้าบริเวณด้านหลังบ้านของตน จนกระทั้งเวลาผ่านไป สังเกตเห็นกลิ่นควันพุ่งเข้ามาในก่อไผ่ ด้านข้างตัวบ้านของตน ตนจึงรีบออกมาดู กพบไฟกำลังลุกลามเข้ายุ้งข้าว จึงได้วิ่งมาช่วยกันดับ พร้อมทั้งร้องเรียกชาวบ้านในระแวกดังกล่าวเข้ามาช่วย พร้อมกับรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยอีกแรง แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากไฟได้โหมไหม้อย่างรวดเร็วทำให้ข้าวในยุ้ง พร้อม รถอีก 1 คัน และ อุปกรณ์ก่อสร้างของพ่อเสียหายทั้งหมด
ต่อมาทางด้าน พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ใจสบาย และ ร.ต.อ.วชิระ เพชรฤทธิ์ ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นพบควาามเสียหายดังนี้ 1.)ยุ้งข้าวเสียหายจำนวน 5 ตัน เป็นเงินมูลค่า 75,000 บาท 2.)วัสดุก่อสร้าง เสียหายทั้งหมดมูลค่า 100,000 บาท 3.)รถยนต์อีซูซุ สีเขียว ป้ายทะเบียน บพ 3424 หมวดจังหวัดชัยภูมิ ได้ถูกไฟไหม้บริเวณด้านประตูคนขับ คาดมูลค่า 80,000 บาท รวมแล้ว 230,000 บาท อีกทั้งยังไม่ได้รวมค่าเสียหายอื่นๆ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้เชิญตัวผู้ที่จุดไฟเผาหญ้าที่ทุ่งนาด้านหลังบ้านดังกล่าว มาสอบสวน พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหาย หากไม่ชดใช้ค่าเสียหาย จะได้ดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
///////ทีมข่าว จ.ชัยภูมิ///////