สมุทรสาคร โจรพิลึกขโมยเข็น จยย.ฟีโน่ ไปเปลี่ยน ฮอนด้าเวฟ ก่อนหนีลอยนวล
เรื่องราวของโจรสุดแปลกในจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีพฤติกรรมการขโมยที่แสนประหลาดด้วยการเข็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ ที่ขโมยมาไปจอดไว้ข้างๆรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ก่อนที่จะเข็นฮอนด้าเวฟหายไปลอยนวล ทิ้งยามาฮ่า ฟีโน่ ไว้ให้ดูต่างหน้า เหตุการณ์พิลึกครั้งนี้เปิดเผยเมื่อ นางวราภรณ์ มงคลนิมิต อายุ 49 ปี เจ้าของร้านชัยวิวัฒน์ค้าข้าว ที่ถูกคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์เมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 4 พ.ค.62 เปิดเผยกับทีมข่าวว่า รถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน กขญ 671 สมุทรสาคร ซึ่งเป็นของ นายบุญชัย ลำใยนิคม อายุ 52 ปี ลูกจ้างที่ร้าน โดยรถจยย.คันดังกล่าวจอดไว้หลังร้านที่เป็นตึกแถว เลขที่ 60/4-5 ริมถนนเอกชัย ม.4 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ก่อนที่รถจะถูกขโมย นายบุญชัยฯ ได้มาขออนุญาตลากลับบ้านที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้เติมน้ำมันรถจยย.เต็มถัง และนำหลักฐานทะเบียนรถมาเก็บไว้ใต้เบาะเพื่อรอเวลาออกเดินทางในช่วงเช้า แต่ก็มาถูกคนร้ายโจรกรรมรถไปเสียก่อน การมาขโมยรถจยย.ของคนร้ายในครั้งนี้มีเรื่องประหลาดคือคนร้ายได้เข็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ ทะเบียน ขงม 725 สมุทรสาคร ซึ่งขโมยมาจากบริเวณหน้าทาวเฮ้าส์ภายในซอย ใกล้กับร้านขายข้าวสาร จากนั้นคนร้ายได้เข็นรถจยย.ฟีโน่ เข้ามาที่ด้านหลังร้านขายข้าวสารซึ่งเป็นซอยตัน ทั้งนี้คนร้ายมีทีท่า
หวาดระแวงคอยมองบริเวณตึกแถวข้างเคียงซึ่งเปิดไฟเอาไว้ และยังพยายามหลบมุมกล้องวงจรปิดด้านบน แต่ไม่ทันสังเกตว่ามีกล้องวงจรปิดด้านล่างที่ติดตั้งไว้เหนือศีรษะเพียงเล็กน้อย ทำให้คนร้ายไม่ระวังและเห็นใบหน้าอย่างชัดเจน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางร้านพบว่าคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 35 ปี สวมหมวกแก็ป ไว้หนวดยาว รูปร่างเตี้ยและมีท่าเดินกระเผลกๆเหมือนขาไม่เท่ากัน หลังจากเข็นรถจยย.ฟีโน่เข้ามาจอดก็เดินไปขยับรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ ที่จอดอยู่ใกล้ๆกัน ซึ่งคนร้ายได้เอาผ้าที่คลุมรถ จยย.ออกไปก่อนที่เข็นรถหายไปทางเดิม ทั้งนี้จากการสอบถามคนงานร้านขายข้าวสารชาวพม่า ให้ข้อมูลว่าคนร้ายอาจต้องการนำรถไปขายยังฝั่งพม่า เพราะมีการเปลี่ยนเอารถฮอนด้าเวฟ ซึ่งเป็นที่ต้องการในฝั่งพม่ามากกว่ารถจักรยานยนต์ออโตเมติกอย่าง ยามาฮ่า ฟีโน่ โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.โคกขาม ให้ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีเพราะกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน
ทีมข่าว ชัยภูมิ