กาญจนบุรี ยังไหลเข้ามาไม่หยุด!!!จุดตรวจผ่านแดนถาวรจุดที่ 1 จับได้ตอนเช้า แอบลักลอบเดินเท้าเข้ามาในประเทศไทยตามช่องทางธรรมชาติ โดยเดินอ้อมหลังที่ทำการ คิดว่าไปรอด เจอชุดสืบสวนปราบปราม ตม.ประจำจุดผ่านแดน ที่นำกำลังไปดักซุ่มจับกุมเอาไว้ได้ 6 คนส่วนจุดตรวจผ่านแดนถาวรที่ 2 จับได้อีก 5 คน ขณะทำเนียนนั่งโดยสารรถบัส รถตู้โดยสารประจำทางปะปนมากับคนไทย แต่ไปไม่รอด
วันนี้ 06 ส.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่มีรายงานข่าวว่า หลังมีข่าวต่างด้าวเถื่อนไปถูกจับทางภาคใต้ แล้วให้การว่าได้หลบหนีเข้ามาทางเมืองกาญจน์ ผกก.ตม.กาญจนบุรี หารือหน่วยงาน ตำรวจทหาร ตชด.เตรียมบูรณาการกำลังวางแผนกวาดล้างจับกุมแบบเข้มงวดอีก 1 เท่าตัว สั่งการจุดตรวจทุกจุด จุดผ่านแดนถาวร 2 ด่านและชุดสืบสวนปราบปราม ตม. เพิ่มขีดความสามารถเข้มงวดกวดขันในจับกุมต่างด้าวเถื่อนตามนโยบาย และคำสั่งของ ผบช.สตช.
และล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.จ.กาญจนบุรี บก.ตม.3 ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.(หญิง)กัญญา เพชรไพโรจน์ รอง ผกก.ตม.ฯ และ พ.ต.ท.นพรัตน์ จงเชิดชูตระกูล สว.ตม.ฯ และ เจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปรามประจำจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ได้ทำการจับกุมตัวนายจอโซ(Naing Kyaw Soe) อายุ 23 ปี บุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 2.นายยอม ฮว(Yawn Hung) อายุ 25 ปี บุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 3.นายซอน คิง(Swan King) อานุ 24 ปี บุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 4.นายเน ลอน จอ(Nay Lin Kyaw) อายุ 23 ปี บุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 5.นายมัง ซัน เลียน(Mang Suan Lian) อายุ 25 ปี บุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา และ 6.นายซอ ลิน ทุน(Zaw Lin Tun) อายุ 21 ปี บุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา
ขณะเดินเท้าเข้ามาเข้ามาในประเทศไทย และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดบริเวณริมถนนข้างซอยวัดลำทหาร หมู่ 5 ต.บ้านเก่า อ.เมืองฯ ในชั้นถูกจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 คนให้การยอมรับสารภาพ จึงควบคุมตัวนำส่งห้องกักกัน ตม.เพื่อรอการผลักดันออกนอกประเทศ
ส่วนอีกจุดตรวจผ่านแดนถาวรไทรโยค จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันนี้เช่นกัน พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.จ.กาญจนบุรี บก.ตม.3 ได้รับรายงานจากพ.ต.ท.(หญิง)ปรารถนา นิจรี รอง ผกก.ตม.ฯ ว่าได้ร่วมกับ พ.ต.ต.รณกฤต ชาญวิชัย สว.ตม.ฯ ร.ต.ท.สมจิตร บัวรับพร รอง สว.ตม.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ฯ ตำรวจภูธร สภ.ไทรโยค ชุด ตชด.ที่136 และตำรวจชุด กก.สส.1 บก.สส.ภ.7 ตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทหารชุดฝ่ายการข่าว กกล.สุรสีห์ฯ และ อส.ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค ขณะปฎิบัติหน้าที่ประจำอยู่ที่จุดผ่านแดนถาวรฯ ได้ทำการจับกุมตัวบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ซึ่งลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยการนั่งปะปนมาในรถบัส และรถตู้โดยสารประจำทางสายกาญจนบุรี-สังขละบุรี
จากการตรวจสอบหลักฐานเอกสารหนังสือเดินทางพบว่า บุคคลต่างด้าวทั้ง 5 คน ไม่มีหนังสือเดินทาง จึงนำตัวลงจากรถไปสอบสวนปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามา หรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะควบคุมตัวนำส่งห้องกักกัน ตม.เพื่อรอการเนรเทศต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาญจนบุรี ทุกจุดตรวจ หรือจุดผ่านแดนถาวร ทำการเข้มงวดกวดขันจับกุมบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยโดยการลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติในเขตพื้นที่ 4 อำเภอ ของ จ.กาญจนบุรีได้แก่ อ.ด่านมะขามเตี้ย อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี ซึ่งมีแนวตะเขปชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหางานทำ และอีกส่วนหนึ่งเดินทางไปหางานทำทางภาคใต้โดยเฉพาะในประเทศมาเลเซีย ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาญจนบุรี ได้ทำการตรวจสอบจับกุมมาโดยตลอดตามนโยบายและคำสั่ง ผบช.สตม.ซึ่งในพื้นที่ชั้นใน ชุดสืบสวนปราบปรามทั้ง 2 ชุด ได้ร่วมกับตำรวจภูธร จัดหางานจังหวัด และเจ้าหน้าที่ทหาร จาก กอ.รมน.เจ้าหน้าที่ทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ฯ กก.ตชด.13 ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ประกอบการ นายจ้าง โรงงาน บ้านเช่า และสถานบริการมาโดยตลอด
มีรายงานข่าวว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรีบก.ตม.3 ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักเข้มงวดกวดขันในการจับกุมบุคคลต่างด้าวที่แอบลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากมีข่าวว่า บุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายไปถูกจับกุมตามจังหวัดทางภาคใต้ ซึ่งได้ให้การว่า แอบลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ทางเจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตำรวจภูธรในพื้นที่ ตำรวจชุด กก.สส.ภ.7 ตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ฯ ตชด.กก.13 เพื่อปรึกษาหารือในการบูรณาการกำลังร่วมกันจับกุมบุคคลต่างด้าวเถื่อนที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดกวดขันมากกว่าเดิม
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์