กาญจนบุรี นี่คือชีวิตคนอยู่ในป่าชายแดน ขอเฮลิคอปเตอร์แต่บินเข้าไม่ได้!! ทีมเจ้าหน้าที่ รพ.สังขละบุรี สาสุขอำเภอสังขละบุรี ทหาร ป่า ตัดสินใจเดินเท้าเข้าไปช่วยเหลือแบก เด็กนักเรียนโรงเรียนตชด.บ้านทิไล่ป้า ที่ประสบอุบัติเหตุถูกน้ำร้อนลวกขาทั้ง 2 ข้าง หลังจากประสาน ขอการลำเลียงทางอากาศ จาก สพฉ.กาญจนบุรี แต่ ฮ.ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้เนื่องสภาพอากาศปิด ฝนตกตลอดทั้งวัน
วันนี้ 27 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั่งแต่เช้าวานนี้ นายแพทย์ไชยวัฒน์ เพชรพรรณงาม ผอ.รพ.สังขละบุรี ได้รับการประสานทางวิทยุสื่อสารจาก ร.ต.อ.เอนก คำภิมูล ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านทิไล่ป้า หมู่ 5 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ในเขตพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านทิศตะวันตก เพื่อขอความช่วยเหลือการลำเลียงผู้ป่วยถูกน้ำร้อนลวก ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ ด.ช.พุฒิ พิทักษ์ชาติคีรี อายุ14 เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ร.ร.ตชด.บ้านทิไล่ป้า ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าเด็ก ประสบเหตุโดนน้ำร้อนต้มเดือดลวกใส่ที่ขาทั้งสองข้างตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ขณะนี้เด็กได้รับการดูแลเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่สุขศาลาบ้านทิไล่ป้า
ส่วนสาเหตุอุบัติครั้งนี้เกิดจากจาก สภาพบ้านปลูกเป็นเพิงกระต๊อบ ยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 2 เมตร แต่ฝนตกต่อเนื่องกันมาหลายวัน ทำให้พื้นดินทรุด เสาบริเวณครัวหลังบ้านเกิดหักลงมา ขณะที่ เด็กชายกำลังต้มน้ำร้อน ทำให้หม้อต้มน้ำร้อนหล่นจากเตา ลวกใส่ขาทั้งสองข้าง ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว.
ต่อมา นพ.ไชยวัฒน์ เพชรพรรณงาม จึงติดต่อ สพฉ.กาญจนบุรี เพื่อขอสนับสนุนการลำเลียงทางอากาศ เนื่องจากบ้านทิไล่ป้า ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล มีความยากลำบากในการเดินทางซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนไม่สามารเข้าไปลำเลียงผู้ป่วยด้วยรถยนต์ได้ แต่เนื่องจากในพื้นที่มีสภาพอากาศปิด เนื่องจากมีฝนตกตลอดเวลา ไม่สามารถลำเลียงทางอากาศได้ จึงได้มีการเปลี่ยนแผนเป็นการเดินเท้าเข้าไปลำเลียงผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล
โดยได้รับการสนับสนุนจาก พ.อ.ชูพงษ์ สายอุบล รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า (กองกำลังสุรสีห์)ให้ทหารเข้าร่วมภารกิจ 4นาย เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จากหน่วยตะเคียนทอง สะเนพ่อง สาละวะ จำนวน10นาย นำโดย นายรัตนชัย เขยชัย หน.หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านสะนพ่องเจ้าหน้าสาธารณสุขอำเภอจำนวน 2 นายโดยการนำของ นายเฉลิม ยิปรัมย์ ผอ.รพ.สต.บ้านกองม่องทะ และเจ้าหน้าที่ ร.พ.สังขละบุรี จำนวน 7 คน โดยมีน.ส.นริศรา ชื่นแสง เจ้าหน้าที่เวชกิจฉุกเฉิน ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวในภารกิจครั้งนี้
ซึ่งระหว่างการเดินทางได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองสมัครใจเข้าร่วมภารกิจครั้งนี้ตั้งช่วงเช้าที่รู้ข่าวว่ามีคนเจ็บรอความช่วยเหลืออยู่ในป่าบ้านทิไล่ป้า แม้จะเป็นการเดินป่าบนเส้นทางที่มีความยากลำบาก แต่ด้วยหน้าที่และความลำบากของชาวบ้านในยามที่เจ็บป่วย ต้องการความช่วยเหลือ ทำให้ตนต้องมา แม้ว่าที่ผ่ามาการเดินขึ้นเขามากว่าจะผ่านมาได้แต่ละลูกเหนื่อยแทบขาดใจก็ตาม
โดยเริ่มเดินเท้าจากหน่วยพิทักษ์ป่าตะเคียนทอง ท่ามกลางเส้นทางที่มีความยากลำบากเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นป่าเขาสูงชัน สลับกับลำห้วย ถนนเป็นหลุมและบ่อโคลน มีความลื่น ทำให้การเดินทางยิ่งมีความยากขึ้น แม้ทุกคนจะสวมรองเท้าบู๊ท และเตรียมตัวมาพร้อม แต่เมื่อเจอสภาพเส้นทางบวกกับฝนที่ตกลงมาตลอดเวลา ล้วนเป็นอุปสรรค ต้องอาศัยสะพานแขวนที่ชาวบ้านสร้างไว้ในการข้ามลำห้วย เนื่องจากน้ำในลำห้วยมีระดับสูงขึ้นกระแสน้ำไหลเชี่ยว บางช่วงของเส้นทางเป็นดงทาก ส่งผลให้โดนทางกัดกันแทบทุกคน โดยเฉพาะ น.ส.นริศราโดนทางที่หล่นจากใบไม้กัดบริเวณหน้าอกจนเลือดชุ่ม
แต่ทุกคนก็ไม่ท้อ จึงเดินทางมาถึงหน่วยพิทักษ์ป่าสาละวะ ก่อนวางแผนให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และนายเฉลิม ยิปรัมย์ ผอ.รพ.สต.บ้านกองม่องทะ เดินเท้าต่อไปยังบ้านสาลวะ เพื่อรับผู้ป่วยต่อ จากทีมแบกที่เจ้าหน้าที่สุขศาลา พระราชทานบ้านทิไล่ป้า และเพื่อนนักเรียนและครู ตชด.ที่ช่วยกันแบกผู้ป่วยลงมาจากบ้านทิไล่ป้า
ต่อมาในเวลา 20.00 น. ทีมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและนายเฉลิม จึงเดินทางกลับมาถึง หน่วยพิทักษ์ป่าสาละวะ พร้อมผู้ป่วยเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสภาพผู้ป่วยก่อนจะให้ผู้ป่วยได้ดื่มน้ำและกินอาหาร ก่อนออกเดินทางต่อท่ามกลางความมืด ที่มีเพียงไฟฉายที่เตรียมมาคอยส่องทาง แม้ฝนจะยังคงตกอย่างต่อเนื่องแต่ทีมลำเลียงผู้ป่วยก็ยังสลับกับแบกผู้ป่วย และช่วยกันส่องทางและคอยถือถุงน้ำเกลือ กว่าจะเดินทางกลับมาถึงหน่วยพิทักษ์ป่าตะเคียนทอง ก่อนจะนำผู้ป่วยขึ้นรถฉุกเฉินเดินทางต่อมายัง รพ.สังขละบุรี ถึง รพ.สังขละบุรี ในเวลา 0.30 น.ของวันนี้ ท่ามกลางความโล่งอกของทีมแพทย์ที่รอลุ้น
ด้านนายสุคำ พิทักษ์ชาติคีรี บิดาของ ด.ช.พุฒิ พิทักษ์ชาติคีรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่างเป็นภาษากะเหรี่ยงว่า รู้สึกดีใจที่ลูกมาถึงโรงพยาบาล หลังจากต้องรอมาตั้งแต่เมื่อวาน การอยู่ในพื้นที่มีความลำบากในยามเจ็บไข้ได้ป่วย เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนมีน้ำป่า ถนนเป็นเป็นโคลนลื่น เดินยังลำบาก ตนเองต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยเหลือลูกชายของตนเองในครั้งนี้
ทีมข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
