สระบุรี ยาย สังเวียน วัย 65ปี ชาวแก่งคอย มารอรับศพลูกชาย หลังเสียชีวิต พกเงิน 100 บาท รอรับศพลูกกลับบ้าน ด้วยความจน ขณะเงินไม่พอจ่ายค่านำศพกลับบ้านจ้าหน้าที่ มูลนิธิสว่างรัตนตรัย สระบุรี ร่วมบริจากพร้อมด้วยเหลือการนำศพสู่วัด จนโลกโชเชียลชื่นชมและบริจากเงินให้การช่วยเหลือ
ส่วนที่ จังหวัด สระบุรี จากกรณีที่มีโลกโชเชียลชื่นชมหน่วยกู้ภัยเจ้าหน้ที่สว่างรัตนตรัยจังหวัด สระบุรี ได้มีการช่วยเหลือ ยาย สังเวียน วงจัน อายุ 65ปี ชาวบ้าน อ. แก่งคอย เลขที่ 48 ม. 9 ต. ชำผักแผว อ. แก่งคอย จ. สระบุรี หลังจากลูกชายเสียชีวิตป่วยด้วยโรคติดกระแสเลือดลง ไป จนยาย สังเวียน ผุ้เป็นแม่ มาขอรอรับศพลูกกลับบ้านที่ โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ จนควักเงินในกระเป๋ามีเพียง 100 บาท ไม่พอค่าใช้จ่ายในการขอรับศพลูกชายกลับมาที่วัดเพื่อทำบุญทางศาสนา ขณะที่ เจ้าหน้ที่มูลนิธิส่วางรัตนตรัย สระบุรี ที่มาช่วยเหลือนำศพกลับวัด ได้ช่วยกันควักเงินรวมกันช่วยค่าใช้จ่าย ยาย ไป จนนำศพมาที่วัดได้ จนมีการขึ้นโลกโชเชียล ในการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่มูลนิธิขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือทำดีไม่หวังผลตอยแทน จนมีการแพร่หลายและมีการเข้าช่วยเหลือเยียวยา แด่ครอบครัวยาย สังเวียน 100 บาท ในครั้งนี้ จนหลายแสนบาท
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.ย ผุ้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่วัด วังแพ ม. 9 ต. ชำผักแผว อ. แก่งคอย จ. สระบุรี ซึ่งเป็นที่ นำศพ ลุกชาย ยาย สังเวียน วงจัน วัย 65ปี ผุ้เสียชีวิตเพื่อมาทำพิธีทางศาสนา เมื่อผุ้สื่อข่าวเดินทางมาถึงในวัด วังแพ พบว่า ภายในศาลวัด บรรยากาศเงียบเหงา ในวัดมีเพียงญาติพี่น้อง มาร่วมงาน ประมาณ 30 คน ที่กำลังช่วยกัด จัดข้าวของเลี้ยงพระ โดย ภายในวัด ผุ้สื่อข่าว พบ กับ นาง สังเวียน วงจัน และ นางสาว กันญารัตน์ เลาคา อายุ 44 ปี ภรรยาผุ้ตายนั่งอยุ่ที่ หน้า ศพ ทั้งคุ่อยุ่ในสภาพ การเศร้าโศรกเสียใจกับการจากไป ของ ลูกชาย โดย ที่ด้านหลังทั้งสอง คน มี โรงศพ บรรจุ ร่าง นาย สมพงษ์ วงจัน วัย 38 ปี อยุ่ด้านกลัง พร้อมมีพวงหรี 4-5 พวง
ด้าน ยาย สังเวียน เปิดเผยกับผุ้สื่อข่าวว่า ตนเองนั้น อาชีพเก็บผักตามริมเขามาขาย ตนมีลูกชาย 3 คน คนโต ชื่อ นาย วิเชียร วงจัน อายุ 42ปี อยุ่ต่างจังหวัด ไม่ทราบที่อยุ่ ส่วน คนที่ 2 นาย ทนงศักดิ์ วงจัน อายุ 39 ปี ป่วยไม่สมประกอบหูหนวกเป็นใบ้ อยุ่กับตน คนที่ 3 นาย สมพงษ์ วงจัน ตนตาย ส่วนสามีนั้นเสียชีวิมาหลายปีแล้ว ส่วนปัจจุบันตนอาศัยอยุ่ที่บ้านในพื้นที่ 1 งาน โดยอยุ่อาศัยรวมกัน 4 ชีวิต พร้อมลูกสะใภ้ โดยเฉพาะ ลูกชาย คนตายพึ่งกลับมาอยุ่บ้านกับตนได้เพียง15 ก็มาจบชีวิตลง
ยาย สังเวียน เผยวันก่อนเกิดเหตุว่า ช่วงวันที่ 31 สิ.ค ที่ผ่านมา ลูกชายตน หรือผุ้ตาย นาย สมพงษ์ ได้มีอาการป่วย หน้ามืดอาเจียร ช๊อกเกร็ง ตนพร้อมลูกสะใภ้พาไปส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ หลังจากนั้นนอนรักษา ตัว 1 คืน หมอให้กลับมาที่บ้านได้ จนกระทั่ง มาพักที่บ้านได้ 2 วัน ลูกชายตนมีอาการช๊อกเกร็งเกิดขึ้นอีก พร้อมอาเจียน ตนจึงนำไปส่งรักษาที่ โรงพยาบาล แก่งคอย และหมอส่งต่อไปที่โรงพยาบาลเดิมโรงพยาบาลเกษมราษฏร์ จากนั้นลูกชายตนก็เสียชีวิตลงช่วง 4 ทุ่ม ของวันที่ 3 กย. โดยคุณหมอบอกตนว่าลูกชายตนมีอาการติดเชื่อในกระแสเลือด จนทำให้เสียชีวิต
จากนั้นทาง ด้าน ยาย สังเวียน ก็ได้พาผุ้สื่อข่าวมาที่บ้านของยายสังเวียน ซึ่งเมื่อผุ้สื่อข่าวมาถึงพบว่า เป้นบ้านไม้กึ่งปูนชั้น เดียว สร้างอยุ่ในเนื่อที่ 1 งาน ด้านหลังบ้านติดคลองชลประทาน ภายในบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนด้านหลังบ้านผุ้สื่อข่าวพบว่า มีกระต๊อบ สร้างขึ้น 1 หลัง ทราบว่าเป้นของผุ้ตายที่มาพักอาศัยอยุ่ด้วยกัน
ขณะที่ ด้าน นาย โดโด้ ชาวบ้าน วัย 46ปี เพื่อนบ้าน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ยาย สังเวียน นั้น พักอาศัยในบ้านมานาน แล้ว และทราบว่า ในบ้านไม่มีฟ้า ใช้ ซึ่งเท่าที่ตนทราบว่า บ้านยายสังเวียน นั้น อยุ่ในพื้นที่ ถือว่า ตาบอด เพราะ ด้านหน้าด้านข้าง ติดกับที่ชาวบ้าน หากถ้าเจ้าของที่ดินมาทำการปลูกบ้าน แก่ก็จะออกไม่ได้ ซึ่งดูจากพื้นที่ของยายแล้ว หากจะออกจริงเมื่อมีการปลูกบ้าน ยายสังเวียจะต้องทำสะพานข้ามคลองออกไป ถึงจะออกได้
ส่วนในขณะเดียวกัน การศพของ ลูกยาย สังเวียน นั้น จะนำศพมาบำเพ็ญกุศล จำนวน 3 คืน 4 วัน โดยจะทำการปาณกิจวันที่ 7 กย. ช่วง สี่โมงเย็น ในขณะเดียวกัน ยายสังเวียน ได้เผยผุ้สื่อข่าวว่า ตนรุ้สึกเสียใจการจากไปของลูกชายตน และ ตนขอขอบพระคุณที่ให้การเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวในครั้งนี้ ส่วนเงินที่ตนรับบริจากมา จะนำไปใช้ด้านการทำบุญงานศพลูกของตน ส่วนที่เหลือ ตนเองก็จะนำไปถ่าย ที่โฉนด ซึ่ง แนดดังกล่าวนั้น ผุ้ตาย เอาไปจำนองไว้ ตนก็จะถ่ายถ่ายมา ส่วนนอกจากนั้นก้จะเก้บไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ขณะที่ ผุ้สื่อข่าวทำข่าวอยุ่ในที่วัดนั้น ก็ได้มีหน่วยงาน ของราชการ และ เอกชน ต่างเข้ามาทำการบริจากให้ความช่วยเหลือ
สมพงษ์ ปานรุ่ง รายงาน จ. สระบุรี