กาญจนบุรี ครูปรีชา เปิดใจ ยันวันที่ 31 ต.ค.60 ไปรับลอตเตอรี่ จากเจ๊บ้าบิ่นจริง ส่วนเรื่องสัญญาณโทรศัพท์ ขนาดทาง บ.เอไอเอส ยังไม่กล้ายืนยัน พร้อมฝากถึงทนายตั้ม หากจะฟ้อง ไม่จำเป็นต้องโพสต์เฟสบุ๊กเพื่อปลุกระดม ปชช.ให้เกลียดชัง หากโพสต์อีก อาจโดนฟ้องกลับ
จากกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร เนื่องจากทั้งคู่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้ครูปรีชา ใคร่ครวญ ได้ฟ้องแพ่งต่อหมวดจรูญ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีเลขดำที่ พ.1230/60 แต่ศาลได้จำหน่ายคดีแพ่งออกไปก่อนเพื่อรอฟังผลคำพิพากษาของคดีหลัก คือคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 การต่อสู้คดีดังกล่าวใช้เวลานานกว่า 1 ปี สุดท้ายแล้ว ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา
ต่อมาวันนี้ 31 ต.ค.62 ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นฟ้องนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา และนายวรยุท บุญวงศ์ใส ทนายความ ในข้อหาหรือฐานความผิด “ร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา”ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีประทับรับฟ้องเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2512/2562 และศาลไดนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 3 ก.พ.2563 เวลา 09.00 น.
ล่าสุดวันนี้ 1 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้ขอพบครูปรีชา ใคร่ครวญ ที่บริเวณศาลาขุนแผน ถ.หลักเมือง เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จึงเข้าไปพบพร้อมกับสัมภาษณ์ว่า กรณีที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นำหมวดจรูญ เดินทางไปยื่นฟ้องศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อครูปรีชาและทนายวรยุทธ ในข้อหาหรือฐานความผิด “ร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา”ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีประทับรับฟ้องเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2512/2562 และนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 3 ก.พ.2563 เวลา 09.00 น.การฟ้องครั้งนี้ครูปรีชามองว่าอย่างไร
ครูปรีชาตอบว่า” เมื่อวานนี้ ได้รับหมายแล้ว และเห็นเขาฟ้องแล้ว ซึ่งตัวผมเองเป็นผู้เสียหายเพราะลอตเตอรี่ของผมหาย เมื่อลอตเตอรี่ผมหายก็ได้ไปแจ้งความโดยพนักงานสอบสวนได้ให้ผมนำหลักฐานการสั่งเลขและก็มีแม่ค้ามายืนยันว่าเราซื้อจากแม่ค้าคนนี้ ซึ้งลอตเตอรี่ก็มีการสั่งจองล่วงหน้า
ดังนั้นอยากถามว่าคำว่าเท็จคืออะไร คำว่าจริงคืออะไร เพราะตอนนี้ลุงจรูญเองก็ยังไม่มีผู้ขายลอตเตอรี่ให้เลย สิ่งที่เราได้กระทำมาทั้งหมด เราทำตามความจริง และความจริงก็คือเราเป็นเจ้าของทรัพย์คือเจ้าของลอตเตอรี่อย่างแท้จริง ซึ่งการนำสืบของเราเรานำสืบข้อเท็จจริงทั้งหมด
อันที่จริงแล้วผมอยากจะฟ้องกลุ่มบุคคลที่ยักยอกลอตเตอรี่ของผมไปมีมากกว่า 20 คนด้วยซ้ำ มากกว่า 20 คนอย่างไร เริ่มตั้งแต่เรื่องของซองลอตเตอรี่ ซึ่งซองลอตเตอรี่ได้หายไปตั้งแต่ในชั้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ซองลอตเตอรี่นั้นผมบอกเลยว่าผมหยิบ แต่เมื่อพอถึงเวลาเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ ดีเอ็นเอ จากซอง ปรากฎว่าพนักงานสอบสวน บอกว่าซองลอตเตอรี่นั้นหายไป ขอฝากถามไปถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ด้วยว่าให้ติดตามซองลอตเตอรี่ด้วย ว่าการที่พนักงานสอบสวนทำซองลอตเตอรี่หายไปใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ประเด็นต่อมานั่นก็คือเรื่องที่ว่าทำไมผมต้องนำคดีนี้ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายด้วยการฟ้องกับศาลโดยตรง ก็เป็นเพราะว่าพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 7 ที่ทำการสอบสวน ได้ออกหมายเรียกให้ลุงจรูญมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ต่อมาคดีนี้ก็โอนย้ายไปอยู่ที่กองปราบ คดีนี้ผมกลายเป็นผู้ต้องหา ถูกออกหมายจับและมาจับกุมผมที่โรงเรียนโดยที่ตัวผมเองนั้นไม่ได้หลบหนีไปไหนเลย โดยมีสื่อมวลชนเยอะแยะมากมาย
ส่วนทนายวรยุทธ ได้เข้ามาช่วยทำคดีตั้งแต่เริ่มต้น แต่ช่วงแรกยังไม่ได้เข้ามาแบบเต็มตัว เพราะผมมีทนายความอยู่แล้ว ซึ่งนายวรยุทธ ได้เข้ามาสืบข้อเท็จจริงจากปากของผม จากปากของพยานทุกคน จากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ซึ่งก็ยืนยันว่าลอตเตอรี่นั้นมีที่มาอย่างจัดเจน สายของลอตเตอรี่มีมาตั้งแต่ที่กองสลาก มาถึงยี่ปั๊ว มาถึงเจ๊พัชริดา มาถึงเจ๊บ้าบิ่น และเจ๊บ้าบิ่นก็ส่งให้กับผม
แต่ด้วยเหตุทั้งผมและทนายวรยุทธ มาถูกกล่าวหาว่าเป็นจำเลยในข้อหาฟ้องเท็จ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนเท็จกันแน่ เพราะขณะนี้ลุงจรูญเองถึงแม้จะมีลอตเตอรี่ในมือแต่ก็ยังไม่มีแม่ค้าลอตเตอรี่คนไหนมายืนยันว่าเป็นคนขายให้เขา และนอกจากนี้ลุงจรูญก็ยังชี้สถานที่ไม่ถูกต้องว่าซื้อตรงบริเวณไหน ชี้ครั้งแรกชี้ตรงไหนก็ยังไม่ทราบ ชี้แม่ค้าตรงไหนก็ยังไม่รู้ ไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นซื้อลอตเตอรี่ตรงจุดไหน นิติกรรมการซื้อคุณซื้อจากตรงไหนคุณก็ยังไม่รู้ตรงนี้เรียกว่าคุณไม่เกต
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่หมวดจรูญจะฟ้องเพิ่มในข้อหาเบิกความเท็จ ครูปรีชามองเรื่องนี้อย่างไร” ครูปรีชาตอบว่า ก็เป็นไปอย่างที่ผมพูด ฟ้องเองฟ้องตรงที่ศาลด้วยการใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย และเราให้ข้อมูลจากข้อเท็จจริงไปทั้งหมดต่อกระบวนการยุติธรรมไปเรียบร้อยแล้ว และเราก็ใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย เมื่อศาลชั้นต้นยกฟ้อง เราก็ขอใช้สิทธิ์ตามกฎหมายและได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว และศาลท่านก็รับอุทธรณ์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากหมวดจรูญยื่นฟ้องเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.)ครูปรีชาได้มีการพูดคุยกับทนายวรยุทธแล้วหรือยัง” ครูปรีชาตอบว่า ได้พูดคุยกันแล้วว่าสิ่งต่างๆที่ทนายษิทรา ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเราก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเหมือนกัน ผมเองขอบอกประชาชนทั้งประเทศเลยครับว่า ผมคือผู้เสียหาย และตอนนี้ข้อยุติด้านกระบวนการยุติธรรมก็ยังไม่เสร็จสิ้น ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนจริงคนเท็จ เพราะผมยังอุทธรณ์อยู่
ดังนั้นคุณก็ใช้สิทธิ์ของคุณ ผมก็จะใช้สิทธิ์ของผม ซึ่งเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย และตอนนี้ผมก็ยังเป็นโจทก์อยู่ ขอฝากไปถึงทนายษิทราด้วยว่า การที่คุณจะฟ้องตรงต่อศาล หรือฟ้องผ่านพนักงานสอบสวน ตั้งแต่ในหลายๆคดีที่ผ่านมา คุณใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย แต่การฟ้องของคุณ คุณไม่จำเป็นที่จะนำไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊ก เพื่อปลุกระดมประชาชนทั้งประเทศ เมื่อคุณโพสต์ มันทำให้ผมเสียหาย ทำให้ประชาชนบางท่านที่ไม่เข้าใจว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร ก็มาโพสต์ต่อว่าผม แต่ผมยังไม่เคยตำหนิและอโหสิกรรมให้กับทุกคน แต่ถ้าทนายษิทรา ทำแบบนี้ ผมก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายฟ้องกลับคุณเหมือนกัน
และคดีนี้ทนายวรยุทธเอง ท่านเป็นทนายความที่มีคุณธรรมและมีความเมตตา และได้เข้ามาดูแลคดีให้ผม จากข้อเท็จจริงทั้งหมด การที่ท่านฟ้องทนายวรยุทธ ซึ่งผมยังไม่เคยเจอในประเทศไทย อยู่ๆการที่ทนายความมาว่าความให้ลูกความจะมาถูกดำเนินคดีด้วย ฝากทางทนายษิทรานะครับว่า ท่านทำถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคดีต่างๆเหล่านี้ท่านก็ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายพวกเราก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย
ผมต้องขอขอบคุณประชาชนทั้งประเทศ ขอบคุณทุกคนทุกท่านที่คอยเป็นกำลังให้ ขอบคุณที่ทุกท่านยังให้โอกาส ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม ขอบคุณศาลจังหวัดกาญจนบุรี ขอบคุณทุกท่านที่มีเมตตาและก็ให้โอกาสโดยเฉพาะในเรื่องของการยื่นอุทธรณ์คดีหลักในครั้งนี้นั้น ศาลท่านมีเมตตารับอุทธรณ์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลทางนิติวิทยาศาสตร์บอกว่าครูไปซื่อลอตเตอร์รี่ในวันที่ 27 ต.ค.60 แต่ครูบอกว่าครูไปซื้อวันที่ 31 ต.ค.60 เรื่องนี้ครูมองว่าอย่างไร” ครูปรีชาตอบว่า คือวันที่ 27 ตุลาคม 60 ตรงกับวันศุกร์ ซึ่งตรงกับวันที่มีตลาดนัดซึ่งตลาดเรดซิตี้จะมีตลาดนัดอาทิตย์ละ 2 วัน คือวันศุกร์และวันอังคาร โดยในวันศุกร์ผมก็ไปตลาดนัด และผมก็ไปทุกครั้งที่มีตลาดนัดอยู่แล้ว โดยวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม ผมไม่ได้ไปซื้อลอตเตอรี่ แต่ไปซื้อกับข้าวเพราะผมจะต้องหยุดวันเสาร์และอาทิตย์ 2 วัน
แต่ในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ผมไปซื้อและรับลอตเตอรี่จากเจ๊บ้าบิ่นจริงๆ โดยมีพยานหลักฐานต่างๆที่เป็นพยานบุคคลหลายคนมาในตลาดนัดที่เจอผม เพราะทุกคนจะมาพบปะพูดคุยกับผม และเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนที่ลอตเตอรี่จะออกเพียง 1 วันเท่านั้น
ดังนั้นข้อมูลข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ผมได้นำเรียนไปยังประชาชนทั้งประเทศแล้วว่าผมไปซื้อจริง แต่สัญญาณโทรศัพท์ตามที่มีหลายๆคนมาถามว่าสัญญาณโทรศัพท์ของครูไม่มี สัญญาณโทรศัพท์เป็นสิ่งที่มีหรือไม่มีผมก็ไม่ทราบเพราะมันอยู่ในเครื่องโทรศัพท์ แต่เบสสัญญาณโทรศัพท์ที่ทางเอไอเอส แจ้งโดยบอกว่าไม่สามารถยืนยันได้ว่าวันที่ครูมาซื้อลอตเตอรี่ครูอยู่ตรงไหน เพราะสัญญาณโทรศัพท์เป็นเพียงเคสของบริษัทที่ใช้สำหรับเก็บเงินต้นทางปลายทางเท่านั้น
สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากเรื่องเกี่ยวกับการที่ผมไปแจ้งความทนายษิทราและหมวดจรูญเอาไว้ที่กองปราบ ในเรื่องของการนำเอกสารเบสสัญญาณโทรศัพท์ส่วนตัวของผม ซึ่งอยู่ในมือของลุงจรูญและทนายษิทรา ที่เอามาซักค้านในศาล ซึ่งผมได้นำเอาเอกสารชุดนี้ไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนของกองปราบ ก็ขอฝากไปถึงพนักงานสอบสวนว่า เอกสารชุดนี้เป็นเอกสารส่วนตัวของผมแล้วมันไปอยู่ในมือของลุงจรูญได้อย่างไร ครูปรีชา กล่าว
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี