วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

ผู้ว่าฯกาญจน์”ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า

กาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ. ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด ของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) พื้นที่อำเภอสังขละบุรี เตรียมหาสถานที่เพื่อเปิดเป็น รพ.สนาม หลังจากที่สถานการณ์ยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง

วันนี้ 24 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขสถานการณ์การระบาดของโควิด -19 ในพื้นที่อำเอภสังขละบุรี ภายหลังจากได้ประกาศปิดหมู่บ้านวังกะ (ชุมชนชาวมอญสังขละบุรี) ต่ออีก14 วัน (19ก.ค.-2 ส.ค)นี้ และ หมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ (ชายแดนไทยเมียนมา) ตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค. โดยไม่มีกำหนด เนื่องจากพบว่าทั้ง 2 หมู่บ้านมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีประชากรอยู่อาศัยอย่างหนาแน่น และ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ ในพื้นที่โดยเฉพาะบ้านพระเจดีย์สามองค์ ซึ่งมีชายแดนติดประเทศเมียนมา ทียังมีการค้าขาย และ เดินทางไปมาหาสู่ กัน ตามวิถีชาวบ้าน

โดยมีนายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี นายรังสิมันตุ์ ทองสวัสดิ์ สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี นพ.กฤษดา วุธยากร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสังขละบุรี นายวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ นายภูวดล รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองลู และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยว ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยได้หารือถึงสถานการณ์โควิด -19 ที่กำลังแพร่ระบาดในพื้นที่ อ.สังขละบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านวังกะ หมู่ 3 บ้านไหล่น้ำ(เขตเทศบาลตำบลวังกะ) และ หมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ขณะที่วันนี้ เริ่มพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ ต.ปรังเผล และ ต.ไล่โว่ โดยในที่ประชุม นายอำเภอสังขละบุรี ได้รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ป่วยที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้จังหวัดกาญจนบุรี จะมีมาตรการประกาศปิดอำเภอ ประกาศปิดหมู่บ้านวังกะ และบ้านพระเจดีย์สามองค์ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากประชาชนในพื้นที่ยังขาดวินัยและไม่ค่อยให้ความร่วมมือ ในมาตรการ กักตัวหลังตรวจพบเชื้อ หรือ กลายเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งกลุ่มที่เข้าสู่กระบวนการกักตัวที่บ้าน ( home isolation )

ขณะที่ สาธารณสุข อำเภอสังขละบุรี ได้แจ้งในที่ประชุมว่า ได้รับข่าวดี เนื่องจากผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้จัดสรรวัคซีน ให้ จำนวน 15,800 โดส ซึ่งจะเพียงพอสำหรับประชากร ทั้งไทยและบัตรสีในพื้นที่ อ.สังขละบุรี นอกจากนั้นเรายังมีวัคซีนของ อปท.ที่ได้จองไว้กับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ อีกจำนวนหนึ่ง ในส่วนของประชากรแฝง ที่ไม่มีเอกสารใดๆที่อยู่ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ซึ่งคาดว่าน่าจะมีจำนวนประมาณ 2000 คน ขณะนี้ทางสาธารณสุขอำเภอได้เร่งให้ อสม.ในแต่ละพื้นที่เร่งสำรวจ เพื่อจะส่งข้อมูลรายงานกลับไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจะได้จัดส่งวัคซีน ลงมาสำหรับคนกลุ่มนี้ต่อไป

ด้าน นพ.กฤษดา ผอ.รพ.สังขละบุรี ได้แจ้งกับที่ประชุมถึงสาเหตุที่ต้องประกาศปิดการบริการของแผนกผู้ป่วยนอก (OPD) เนื่องจากขณะนี้ บุคคลากร ของโรงพยาบาล ทั้งแพทย์ พยาบาล ได้ติดเชื้อโควิด -19 นอกจากนั้น ยังมีบุคลากร อีกส่วนหนึ่งที่ต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน เนื่องจากอยู่ในกลุ่มผู้เสี่ยงสูง จากการทำงานในห้วงที่ผ่านมา แต่โรงพยาบาลยังคงเปิดให้บริการในส่วนของห้องฉุกเฉิน ซึ่งหากเจ็บป่วยเร่งด่วน พี่น้องประชาชน ยังคงสามารถมาใช้บริการได้ 24 ชม ขณะที่ รพสนามที่ปัจจุบันมีอยู่จำนวน 250 เตียง มีผู้ป่วยเต็มแล้ว จำเป็นต้องเร่งหาสถานที่แห่งใหม่เพื่อมาทำเป็น ร.พ.สนาม

ปัจจุบัน บุคลากรเริ่มไม่เพียงพอ เนื่องจากต้องแบ่งไปปฎิบัติหน้าที่ ดูแลผู้ป่วย โควิต 19 ที่วันนี้มีจำนวน 326 คน ที่รักษาตัวอยูในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนาม นอกจากนั้นยังต้องแบ่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมตรวจหาเชื้อด้วยชุด ATK ร่วมกับเทศบาลตำบลวังกะ ทั้งในชุมชนบ้านวังกะ และ บริเวณเมืองใหม่ รวมทั้งดูแลกลุ่มเสี่ยงสู.และผู้ติดเชื้อที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักคอย (community isolation) ทั้ง 8 แห่ง ที่กระจายอยู่ในพื้น 3 ตำบล ของ อ.สังขละบุรี ซึ่งนับว่าเป็นภารกิจที่หนักหน่วง ที่เผชิญอยู่ในขณะนี้

จนทำให้ในที่ประชุม โดยนายภูวพล รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ นายก อบต.หนองลู ได้เสนอให้มีการรวมศูนย์พักคอย C I ไว้ในพื้นที่เทศบาลเพียงแห่งเดียว เพื่อความสะดวก และประหยัดทรัพยากรบุคลคล เวชภัณฑ์ งบประมาณ รวมเสนอให้ยุติการให้ผู้ที่ตรวจพบเชื้อโควิตกักตัวที่บ้าน ให้เปลี่ยนมาเป็นการบังคับให้ผู้ที่ตรวจพบเชื้อทุกคน ต้องเข้าสู่การกักตัวที่ศูนย์พักคอย โดยในที่ประชุมมีความเห็นให้ใช้ สถานที่ของโรงเรียนอนุบาลสังขละบุรี และ โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา เป็นศูนย์พักคอยของอำเภอสังขละบุรี CI และ รพ.สนาม ขนาด 200 เตียง ที่ผ่านมาพบว่าการกักตัวที่บ้านหลังตรวจพบเชื้อ ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากผู้ติดเชื้อขาดความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น หลายคนยังเดินทางออกจากบ้าน ไปในพื้นที่สาธารณะ เช่น ตลาด ร้านสะดวกซื้อ รวมทั้ง ธนาคาร จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่สังขละบุรี ยังคงเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ก่อนเดินทางกลับ นายจีระเกียรติ ได้เดินทางไปยังตลาดสดสังขละบุรี เพื่อมอบยามสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ให้กับพ่อค้า แม่ค้า และ ประชาชน เพื่อไว้กินป้องกันโควิต-19 พร้อมทั้งได้ให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ในการต่อสูกับวิกฤติ โควิต-19 ซึ่งหากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ เชื่อว่าในช่วงเดือนกันยายน ทุกอย่างจะดีขึ้น จังหวัดจะได้ผ่อนปรนมาตรการต่างๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้กลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ และ จะได้เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางกลับมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ ซึ่งจะช่วยให้สภาพเศรษฐกิจในพื้นที่กลับมาดีเหมือนเดิม

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

Loading