นครปฐม160567เกษตรนครปฐม ลุยลงพื้นที่ ปฏิบัติการเฝ้าระวังผลกระทบด้านพืช กรณีน้ำเค็มรุกพื้นที่เกษตร
นางสาวธนนันท์ ศรีสุวะ เกษตรจังหวัดนครปฐม มอบหมายให้นางสาวลำดวน สระทองอินทร์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร ร่วมกับนายสุเมธ พั่วพัก เกษตรอำเภอสามพราน เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม และเจ้าหน้าสำนักงานเกษตรอำเภอสามพราน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเค็มรุกพื้นที่เกษตร ในพื้นที่สวนส้มโอของเกษตรกร อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม ได้ประสานงานกับกรมชลประทานนครปฐม ในการสำรวจระดับน้ำบริเวณวัดบางไผ่นารถ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และสำนักงานสาธารณสุข อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม สำรวจค่าความเค็มในแม่น้ำท่าจีน บริเวณอาคารบังคับน้ำวัดท่าพูด และปากคลองจินดา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพื่อติดตามสถานะแนวโน้มของระดับน้ำและสถานะความเค็ม เป็นประจำทุกวัน หากพบแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อด้านการผลิตพืชจะเร่งแก้ไขปัญหาในการจัดการทรัพยากรน้ำเบื้องต้น ก่อนที่จะปล่อยให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกร
พร้อมกับการปฏิบัติงานเชิงรุก ประชาสัมพันธ์สถานการณ์ประจำวันให้เกษตรกรในพื้นที่ทราบ และลงพื้นที่ให้คำแนะนำเกษตรกร 7 ข้อ ในการเตรียมความพร้อมและรับมือกับปัญหาน้ำเค็มรุกพื้นที่ ดังนี้
1. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งข้อมูลจากกรมชลประทาน สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม
2. ลอกเลนตามร่องสวนเพื่อเพิ่มพื้นที่การเก็บกักน้ำ และดึงน้ำจากดินชั้นล่างให้ไหลออกมาใช้ได้
3. การดูแลเขตกรรมในสวนอย่างใกล้ชิด ด้วยการตัดแต่งกิ่ง ปลิดดอก และผลออกบางส่วน เพื่อลดการคายน้ำของพืช ไม่ปลูกพืชใช้น้ำมากในช่วงนี้ และใช้วัสดุคลุมโคนต้นเพื่อรักษาความชื้นของหน้าดิน เช่น หญ้า ฟางข้าว ตอต้นกล้วย ไม่ควรปล่อยหน้าดินให้โดนแดดเผาโดยตรง
4. จัดหาแหล่งน้ำสำรองเพื่อเก็บน้ำจืดจากแม่น้ำ หรือกักเก็บน้ำธรรมชาติ
5. ขุดสร้างคันดินล้อมรอบสวน เพื่อป้องกันการรุกของน้ำเค็ม
6. กรณีต้นไม้เล็กให้พรางแสง เพื่อช่วยลดอุณหภูมิที่ผิวดิน และลดการคายน้ำของพืช
7. กรณีน้ำเค็มเข้าสวนแล้ว ให้รีบระบายน้ำเค็มออกจากแปลงปลูก และจัดหาน้ำจืดมาให้แก่ต้นไม้ เพื่อช่วยให้ต้นไม้มีชีวิตรอด อีกทั้งยังช่วยล้างความเค็มของดินออกไปด้วย