วันอาทิตย์, 24 สิงหาคม 2568

นครปฐม!!อึ้งทั้งจังหวัด “ยายทองพูน นอนเดียวดายริมถนนเพชรเกษม”

นครปฐม อึ้งทั้งจังหวัด ยายทองพูน นอนเดียวดายริมถนนเพชรเกษม

เส้นผมบังภูเขา หน่วยงานรัฐ ประชาชน อึ้งทั้งจังหวัดหลังข่าว ยายทองพูน วัย 90 ปี นอนเดียวดายอยู่ริถนนเพชรเกษม กลางเมืองนครปฐม ไร้ลูกหลานดูแล นั่งยองงอเข้านับชั่วโมงไปหาข้าวกินร้านสะดวกซื้อทุกวัน หลังเป็นข่าว พระสงฆ์วัดไผ่ล้อมระดมจับจอบ ลุยบูรณะที่อยู่ สร้างที่พักให้ใหม่ ล่าสุด ไชยาฯ นักการเมืองเบอร์ 1 นครปฐม ส่งตัวแทน ติดตั้งไฟฟ้าพร้อมดูแลค่าใช้จ่ายตลอดชีพ โดยทีมแพทย์ลงตรวจร่างกาย พร้อมทำกายภาพให้ร่างกายยืดตัวให้ดีขึ้น ส่วนประชาชนที่ทราบข่าว ทยอยเข้ามอบของและให้กำลังใจต่อเนื่อง

วันนี้ 14 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรณี โลกเชียลได้เผยแพร่เรื่องราวของ ยายทองพูน เอี๊ยวถาวร ในวัย 90 ปี ที่อาศัยอยู่ในเพิงพักหลังคาสังกะสี ข้างถนนเพชรเกษม เลขที่ 14 ตำบลห้วยจระเข้ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยอยู่เพียงลำพังไร้ ไม่มีลูกหลาน หรือ ญาติ พี่น้องมาดูแล นานหลายสิบปี และต้องนั่งยอง ๆ ค่อยๆ ก้าวขาเพื่อไปรับข้าว นม จากร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้กัน แต่ต้องใช้เวลาไปกลับนานถึง 1 ชั่วโมงเศษ เนื่องจากยืดตัวลุกขึ้นเดินไม่ได้ เป็นที่น่าสงสารกับลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้านเซเล่น อีเลเว่น ในปั๊มก๊าซเอ็นจีวี ปตท.โดยเฉพาะในยามค่ำมืดที่เห็นยายทองพูนมานั่งเหม่อลอยบ่อยครั้ง

โดยหลังจากทราบข่าว พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม ได้นิมนต์พระลูกวัดและเจ้าหน้าที่วัดเพื่อเข้าพัฒนาบูรณะที่พักของยายทองพูน เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวแม้จะอยู่ริมถนนเพชรเกษม กลางเมืองนคปฐม แต่มีความรกและสกปรกเต็มไปด้วยซากกิ่งไม้และถุงชยะที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็น โดยเฉพาะในเพิงที่พักของยายทองพูน ภายในมีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นปัสสาวะและอุจาระ และซากของกินที่ไมได้ล้างบูดเน่าคาจานชาม ซึ่งเกิดจากที่ยายทองพูน ลุกเดินไม่ไหว ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนได้ทำการก่อสร้างเทพื้นปูนเพื่อจะก่อสร้างเพิงพักอาศัยให้ยายทองพูนขึ้นใหม่ติดกับที่พักเดิมโดยมีห้องน้ำในตัว

ล่าสุด นายพิเชฐ อรุณมาศ หัวหน้าแผนกมิเตอร์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครปฐม ได้เดินทางมาเป็นตัวแทนของ นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นักการเมืองหมายเลข 1 ของจังหวัดนครปฐม เพื่อให้มาเร่งทำการตรวจสอบหลังจากได้รับการร้องขอการใช้ไฟฟ้า จากหลวงพี่น้ำฝน และได้ประสานไปยังนายอุทัย ศิริไพบูลย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครปฐม เพื่อติดตามเรื่องนี้ โดยเมื่อได้มาตรวจสอบได้ ก็พบว่าเป็นเรื่องจริงและทราบว่า ยายทองพูนไม่มีไฟฟ้าใช้มาหลายสิบปีแล้ว จึงได้ทำการขยายเขต และทางนายไชยา สะสมทรัพย์ ได้แจ้งความประสงค์ในการออกค่าใช้จ่ายในการติดตั้งมิเตอร์ และชำระค่าไฟฟ้า ให้กับยายทองพูนตลอดชีวิต โดยตอนนี้ได้นำโคมไฟประหยัดพลังงานแบบ แอลอีดี มาให้ใช้ไว้เบื้องต้น ก่อนที่เพิงพักที่หลวงพี่น้ำฝนกำลังก่อสร้างให้ยังไม่เสร็จ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยินดีที่จะร่วมสนับสนุนการทำดีในสังคมและช่วยเหลือให้เกิดสิ่งดีดีต่อไป

โดยหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า วันนี้เป็นเรื่องน่ายินดีที่มีคนมาร่วมด้วยช่วยกันทำให้ยายทองพูน มีชีวิตที่ดีขึ้น และทำให้เห็นว่าสังคมไม่ทิ้งกัน ซึ่งส่วนของพระเป็นเรื่องเกี่ยวกับ บวร คือ บ้าน วัด โรงเรียน นื่คือการช่วยกัน ซึ่งไม่ได้ขอรับเงินบริจาค และทุกคนมาด้วยใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สังคมนั้นต้องการ ซึ่งวัดก็เป็นศูนย์กลางการช่วยเหลือและเป็นสิ่งที่วัดต้องทำเรื่องนี้นั่นเอง ซึ่งจากที่คุยกับยายทองพูน ทำให้รู้ว่ายายทองพูน ไม่มีไฟฟ้าใช้มากว่า 50 ปีเป็นอย่างน้อย นี่คือการมีไฟฟ้าใช้ครั้งแรก ซึ่งในเพิงพักนั้นร้อนมาก ขนาดนั่งไม่นานก็จะมีเหงื่อไหลออกมาแล้ว แต่ยายต้องมนมาหลายปี เป็นเรื่องที่น่าสงสาร ไม่นานยายก็จะมีพัดลมในห้องพัก และบ่นว่านอนไม่หลับเพราะเสียงรถที่วิ่งบนถนนดังมากช่วงวกลางคืน เมื่อที่พักเสร็จก็จะทำการปิดให้มิดชิดป้องกันเสียงของรถได้มาก รวมถึงแสงแดดที่ส่องเข้าตายายตรงๆ ก็เป็นปัญหามากด้วย

ต่อมา วันเดียวกัน คณะทีมแพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ได้เดินทางเข้ามาตรวจสุขภาพให้ยายทองพูน ทั้งเรื่องความดัน ชีพจร และตรวจค่าเลือด โดยพบว่า แม้ยายทองพูน จะอายุถึง 90 ปี แต่ก็ยังมีสุขภาพของร่างกายดีมาก โดยไม่มีปัญหาเลือดเกี่ยวกับเบาหวาน และหัวใจความดันก็อยู่ในค่าที่ดีมาก โดยมีตาที่มองไม่ค่อยจะเห็นแล้วโดยมาจากต้อกระจกที่เกิดขึ้น นอกจากนี้หากเพิงพักเสร็จ ก็จะมีการเข้ามาทำกายภาพบำบัดให้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เดินได้ แต่จะมายืดเส้นให้ไม่เป็นเส้นยึด และมาพัฒนาด้านสุขอนามัยให้มีมากขึ้น โดยได้ตรวจสุขภาพเบื้องต้นให้กับนายต้อน อายุ 79 ปี คนที่คอยวนเวียนมาดูยายทองพูน ซึ่งชรามากและเริ่มีอาการหลงหลืมแล้วเช่นกันด้วย

ขณะที่ตลอดวันก็เริ่มมีผู้เข้ามาหานำสิ่งของและมาให้กำลังใจยายทองพูนทั้งวัน โดยคนที่มาส่วนใหญ่ทั้งหน่วยงานราชการ และประชาชน ยอมรับว่าไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน และบอกว่าไม่อยากจะเชื่อว่า จะมีคนชราที่อาศัยโดยลำพัง และเป็นคนชราที่ไม่มีแรงที่จะขยับร่างกายซึ่งอาศัยลำพังไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่เคยได้อาบน้ำ ไม่มีห้องน้ำ โดยเฉพาะการอยู่ติดริมถนนเพชรเกษมและอยู่กลางเมืองนครปฐม ซึ่งหลังเป็นข่าวก็มีประชาชนคนใจบุญได้เดินทางมาดูและเยี่ยมเยียนมากขึ้น บางคนถึงกับตำหนิหน่วยงานราชการที่ปล่อยให้ตกสำรวจเรื่องการดูแลคุณภาพชีวิตของคนอายุ 90 ปี แม้จะพอทราบว่ายายทองพูนได้รับเบี้ยคนชราแต่ก็ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเอาเงินมาให้ เหมือนมีการดู แต่ไม่แล คือไม่เอาใจใส่ เท่าที่ควรจะเป็นจึงได้เกิดประเด็นข่าวที่ชวนตกใจของคนนครปฐม และคนใจบุญ

ทีมข่าว นครปฐม

Loading