วันจันทร์, 25 สิงหาคม 2568

สอศ!!จัดงานสถาปนาครบรอบ 77 ปี พร้อมก้าวเข้าสู่ยุคอาชีวะพรีเมี่ยม”

สอศ.จัดงานสถาปนาครบรอบ 77 ปี พร้อมก้าวเข้าสู่ยุคอาชีวะพรีเมี่ยม  ตอบโจทย์กำลังคนภาคการผลิต

ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (19 สิงหาคม 2561) เป็นวันครบรอบวันคล้ายวันสถาปนา 77 ปี ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) หรือ กรมอาชีวศึกษาเดิม จึงได้จัดพิธีทำบุญโดยมี พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน และมอบโล่รางวัลให้กับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น “ครูดีศรีอาชีวะ” 13 ราย “คนดีศรีอาชีวะ” จำนวน 71 ราย “ผู้ทำคุณประโยชน์ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา” 30 ราย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติครูผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ข้าราชการพลเรือนที่ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และผู้ที่ทำคุณประโยชน์ในการสนับสนุนการศึกษาด้านวิชาชีพ

เลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อไปว่า อาชีวศึกษาเป็น 1 ใน 5 หน่วยงานหลักของกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่กำกับดูแลการจัดการศึกษาด้านวิชาชีพ มีสถานศึกษาในสังกัดทั้งอาชีวศึกษาภาครัฐและเอกชนรวมจำนวนทั้งสิ้น 911 แห่ง แบ่งเป็นสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐ 428 แห่ง ภาคเอกชน 483 แห่ง จัดการเรียนการสอน 9 ประเภทวิชาชีพหลัก ได้แก่ ช่างอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ศิลปกรรม คหกรรม เกษตรกรรม ประมง อุตสาหกรรมสิ่งทอ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในรูปแบบปกติ ทวิภาคี และระยะสั้น ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือปฏิบัติการ ซึ่งรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “ทวิภาคี” เนื่องจากเป็นช่องทางการศึกษาที่สร้างความพึงพอใจให้ทั้งผู้เรียน ผู้ปกครอง และสถานประกอบการ ตลอดจนผู้เรียนจะมีพฤติกรรมที่เรียกว่า “นิสัยอุตสาหกรรม” คือมีความรับผิดชอบ มีวินัยในตัวเอง มีความอดทน มีการคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหา ปัจจุบันมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ทันสมัยหลายรูปแบบ เช่น การเรียนแบบโคเซ็น วีเชพ อาชีวะฐานวิทย์ อาชีวะพรีเมี่ยม ทำให้ตอบโจทย์การมีงานทำทันทีหลังเรียนจบได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้จำนวนผู้เรียนอาชีวศึกษาในปีการศึกษา2561 นี้ ก็มีจำนวนมากขึ้น มีสัดส่วนการเรียนสายสามัญ : สายอาชีพ 60:40 ซึ่งน่าจะพยากรณ์ได้ว่าในปีการศึกษา 2562 จำนวนผู้เรียนอาชีวะก็จะเพิ่มขึ้นอีก เพราะผู้ที่เข้ามาเรียนอาชีวศึกษาจะมีงานทำทันทีหลังเรียนจบ มีเส้นทางก้าวหน้าในอาชีพ และมีค่าตอบแทนตามสมรรถนะ ส่วนด้านการดูแลช่วยเหลือสังคมในรูปแบบ “อาชีวะอาสา” “อาชีวะบริการ” และ “Fix it Center” ก็ได้รับคำชื่นชมจากสาธารณชนมาอย่างต่อเนื่อง เพราะคนเรียนอาชีวะจะมีทักษะฝีมือเชิงช่างที่สามารถช่วยเหลือสังคมในภาวะวิกฤตได้อย่างดี

ดร.สุเทพ กล่าวปิดท้ายว่า สอศ.ก้าวเข้าสู่ปีที่ 77 ถือว่าเป็นปีแห่งการพัฒนาคุณภาพและความเข้มแข็งอาชีวศึกษา เพื่อสร้างผู้เรียนอาชีวะให้เป็นมนุษย์ที่ดี มีคุณภาพ มีงานทำ ซึ่งในโอกาสวันครบรอบปีนี้ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมงาน คือ อดีตอธิบดี และอดีตเลขาธิการ ที่แต่ละช่วงในการบริหารงานของแต่ละท่านได้ก่อให้เกิดคุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้มีสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเกิดขึ้นในวันนี้ และเชื่อมั่นว่าอาชีวศึกษาจะเป็นทางเลือกที่ทำให้ประเทศก้าวผ่านภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจไปได้ รวมถึงเป็นพลังหลักในการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัยในยุคประเทศไทย 4.0

สมยศ แสงมณี / ปทุมธานี

Loading