เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามยอมรับตัดเองต้นศรีมหาโพธิ์บนยอดเขาช่องกระจกเตรียมปลูกใหม่ทดแทนอ้างยืนต้นตาย
จากกรณีต้นศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่อายุ 60 ปี บริเวณจุดชมวิวด้านทิศตะวันออกด้านข้างป้ายแสดงประวัติ บนเขาช่องกระจก ตรงข้ามศาลากลางจังหวัด ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีร่องรอยถูกตัดโค่นสภาพเหลือแต่ตอทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ภายหลังตรวจสอบพบว่าต้นศรีมหาโพธิ์ดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีรักธาตุไว้ในสถูปเจดีย์ด้านทิศเหนือ และทรงปลูกต้นศรีมหาโพธิ์เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินขึ้นเขาช่องกระจก เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2501
วันที่ 29 สิงหาคม พระราชสุทธิโมลี เจ้าอาวาสวัดธรรมิการราม พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุติ เปิดเผยโดยยอมรับว่า อาตมาและลูกศิษย์วัดเป็นผู้ตัดโค่นต้นศรีมหาโพธิ์ดังกล่าว โดยไม้ได้แจ้งให้หน่วยงานใดทราบล่วงหน้า เนื่องจากพบว่าที่ผ่านมาหลังเดือนตุลาคม 2559 ต้นไม้มีสภาพทรุดโทรม เริ่มจากปลายยอดเหี่ยวเฉาและทรุดโทรมอย่างต่อเนื่อง จากนั้นวัดได้บำรุงรักษา เพราะเข้าใจว่าอาจมีปัญหาขาดน้ำจากสภาวะภัยแล้งหรือมีปัญหาจากลิงเขาช่องกระจกหักยอดใบ แต่ต่อมาพบว่าสภาพต้นศรีมหาโพธิ์ยังไม่ฟื้น แต่วัดไม่ได้แจ้งให้หน่วยงานของรัฐรับทราบเพื่อช่วยเหลือ กระทั่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่ายังมีแขนงส่วนโคนแตกใบอ่อนแต่ไม่เติบโตและล่าสุดยอมรับว่าไม่สามารถเยียวยาได้
“ กระทั่งพบว่าต้นศรีมหาโพธิ์ยืนต้นแห้งตาย มีสภาพผุ อาตมาจึงตัดสินใจตัดโค่น พร้อมเตรียมพื้นที่ เพื่อนำต้นโพธิ์จากพระเทศอินเดียที่รับมอบจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาปลูกทดแทน ในวันที่ 1 มกราคม 2562 ในการกิจกรรมงานประเพณีประจำปีขึ้นเขาห่มพระ ยอมรับว่าเสียดายต้นศรีมหาโพธิ์ เพราะเป็นต้นไม้ศิริมงคลเป็นของศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมากราบไหว้บูชา ขณะที่ทราบว่าต้นศรีมหาโพธิ์มีอายุยืนยาวได้หลายร้อยปี ขณะที่บนเขาช่องกระจกอายุ 60 ปี ถือว่าอายุยังไม่มาก ”
พระราชสุทธิโมลี กล่าวว่า สำหรับการปลูกต้นใหม่ เชื่อว่าในแง่ของการยอมรับ ไม่สามารถทดแทนต้นเดิมในจุดเดิมได้ แต่ส่วนตัวอาตมาคิดว่าการปลูกใหม่ ดีกว่าไม่มีการปลูกเสริม และ สามารถชี้แจงให้นักท่องเที่ยวทราบว่ายังมีต้นโพธิ์ปลูกทดแทน เนื่องจากปัจจุบันยังมีป้ายแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยืนยันชัดเจน ส่วนที่คิดว่าจะเหมาะสมหรือไม่ ต้องหารือร่วมกันกับหลายฝ่ายโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อหาทางออกให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ ทั้งการเก็บซากของต้นไม้ หรือให้นักวิชาการตรวจสอบโครงสร้างของรากเพื่อฟื้นฟู แต่ส่วนตัวอาตมาก็ยอมรับว่าทดแทนกันไม่ได้ และ ที่ผ่านมาวัดไม่มีความรู้เรื่องนี้ วัดทำเท่าที่ทำได้ ส่วนซากต้นไม้ความยาวกว่า 1 เมตร ยังอยู่ในจุดเดิม ที่ผ่านมามีบุคคลภายนอกแจ้งขอใช้เพื่อนำไปแกะสลักพระพุทธรูป แต่วัดยังไม่อนุญาต เนื่องจากมีแนวคิดจะนำออกไปแปรรูป แต่เมื่อกระแสสังคมให้ความสนใจก็จะเก็บรักษาซากไว้อย่างดี เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ทราบประวัติที่มา
นายศิลา โพธิ์ระย้า แกนนำกลุ่มจิตอาสาเมืองประจวบฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบบริเวณที่มีการตัดโค่นต้นศรีมหาโพธิ์ยอมรับว่ามีผลกระทบกับความรู้สึกของประชาชนทั่วไปพอสมควร ขณะนี้ได้แจ้งให้รวบรวมสมาชิก เพื่อจัดหาวัสดุที่เหมาะสมไปล้อมรอบโคนต้นศรีมหาโพธิ์เพื่อให้มีความสมพระเกียรติ เช่นเดียวกับล้อมตอไม้จันทร์หอมภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ภายหลังมีการตัดไปจัดสร้างพระโกศ
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า พื้นที่บริเวณเขาช่องกระจก ปัจจุบันอยู่ในเขตป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 สำหรับการตัดโค่นดังกล่าวยืนยันว่าวัดไม่ได้แจ้งให้ทราบ และ อาจจะตัดสินใจทำลายจากลักษณะภายนอก โดยไม่ได้ตรวจสอลบลักษณะทางกายภานอย่างละเอียด ตามหลักวิชาการ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบสภาพอีกครั้งว่าสามารถฟื้นฟูได้หรือไม่ โดยเฉพาะการนำเนื้อเยื่อไปเพาะเลี้ยงเพื่อนำมาปลูกทดแทนต้นเดิม
ทีมข่าว ประจวบคีรีขันธ์
