“เจ้าของธุรกิจโรงแรมชื่อดัง จังหวัดภูเก็ต ร้องสื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม จากบริษัทประกันภัยต่างชาติ อาคารร้าวจากแผ่นดินไหว จนต้องปิดกิจการ เสียหายร่วม 15 ล้านบาท!!
วันนี้( 4 กันยายน 2561) เวลา 09:00 น ที่ผ่านมา.ณ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นายนรินทร์ เศรษฐีใจเย็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลูโอเชี่ยน รีสอร์ท จำกัด (ไตรตรัง)หรือ บลู โอเชี่ยน บีช สอร์ท หรือบลู บีชคลับ ตั้งอยู่เลขที่ 14282 ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยทนาย เปิดเผยว่า ได้นำหลักฐานมายื่นฟ้อง บริษัท เอช ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด ข้อหาเกี่ยวกับการผิดสัญญาประกันภัยทุนทรัพย์ฟ้อง 150 ล้านบาท เนื่องจากอาคารโรงแรมได้รับความเสียหายเกิดจากแผ่นดินไหว จนต้องปิดกิจการมาถึง 3ปีทำให้ได้รับความเสียหายจำนวน 15 ล้านบาท
นายนรินทร์ กล่าวว่า “เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 06.00 น.ที่ผ่านมาได้เกิดแผ่นดินไหว 3.9 ริกเตอร์ บริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และแจ้งทางแผนกช่างให้เข้าไปตรวจสอบอาคารของโรงแรมพบว่ามีการแตกร้าวเกิดขึ้นของเสาและผนังอาคารหลายจุด และห้องพัก (อาคาร 1) -อาคาร 2 ที่บริเวณพื้นปูนตามพื้นที่โดยรอบโรงแรมมีรอยแตกและยุบตัวเช่นกันจึงได้แจ้งการเคลมเรียกร้องสิทธิ์ตามสัญญาประกันภัยจากเหตุความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวไปยังผู้จัดการฝ่ายสินไหม เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้จัดการฝ่ายสินไหมทดแทน และตัวแทนของบริษัทประกันภัยดังกล่าวได้รับแจ้งเคลมประกันแผ่นดินไหวดังกล่าวแล้ว ซึ่งตนเองได้เรียกร้องค่าเสียหายไปจำนวน 98 ล้านบาทแต่กลับได้ค่าชดเชยมาแค่ 100,000 กว่าบาท
นายนรินทร์ กล่าวต่อ ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุแผ่นดินไหวทางโรงแรมบลูโอเชี่ยน รีสอร์ท (ไตรตรัง) หรือบลู โอเชี่ยน บีช รีสอร์ท หรือบลู บีช คลับ อยู่ที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 1 ไร่ 26.6 ตารางวา และ สิ่งปลูกสร้างอาคารโรงแรม ตนตกลงทำประกันภัยกับบริษัท เอช ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด เป็น
กรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัย ประเภทการประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน เพื่อประกันทรัพย์สินของบริษัทและบริษัทเครือเดียวกัน 4 กรมธรรม์ 1)
กรมธรรม ฉบับที่ 1 กรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ระยะเวลาประกันภัย 1 ปี เริ่มวันที่ 26 มกราคม 2555 สิ้นสุดวันที่ 26 มกราคม 2556จำนวนเงินเอาประกันภัยรวม 480,000,000 บาท เบี้ยประกันภัยรวม 515,654.40 บาท 2)
กรมธรรม์ ฉบับที่ 2 กรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ระยะเวลาประกันภัย 1 ปี เริ่มวันที่ 26 มกราคม 2556 สิ้นสุดวันที่ 26 มกราคม 2557 จำนวนเงินเอาประกันภัยรวม 763,200,000 บาท เบี้ยประกันภัยรวม 876,612.48 บาท 3)
กรมธรรม์ ฉบับที่ 3 กรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ระยะเวลาประกันภัย 1 ปี เริ่มวันที่ 26 มกราคม 2557 สิ้นสุดวันที่ 26 มกราคม 2558 จำนวนเงินเอาประกันภัยรวม 819,200,000 บาท เบี้ยประกันภัยรวม 852,549.25 บาท 4)
กรมธรรม์ ฉบับที่ 4 (ฉบับที่พิพาทในคดีนี้) กรมธรรม์ประกันภัยประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ระยะเวลาประกันภัย 1 ปี เริ่มวันที่ 26 มกราคม 2558 สิ้นสุดวันที่ 26 มกราคม 2559 จำนวนเงินเอาประกันภัยรวม 819,200,000 บาท เบี้ยประกันภัยรวม 852,549.25 บาท เฉพาะเงินทุนประกันภัย ในส่วนโรงแรมบลู โอเชี่ยน บีช รีสอร์ท หรือของโจทก์ 150,000,000บาท
ซึ่งกรมธรรม์ฉบับที่ 4 ดังกล่าวนี้ เป็นกรมธรรม์ความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ซึ่งหมายถึงการประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน อาคารโรงแรมบลู โอเชี่ยน บีช รีสอร์ท อันประกอบด้วย ตัวอาคาร สิ่งปลูกสร้างต่างๆทั้งหมด รวมส่วนต่อเติมตกแต่งต่างๆ (รวมรากฐาน) กำแพง,ประตู,กำแพงกันดิน ฯลฯ รวมถึงทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ในความดูแลรักษาของผู้เอาประกันภัยในฐานะผู้รักษาทรัพย์สิน (ไม่รวมทรัพย์สินของแขก) โดยเงื่อนไขกรมธรรม์ดังกล่าวนี้ เป็นการรับประกันภัยรวมภัยจากแผ่นดินไหว ซึ่งบริษัท เอช ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด ต้องคุ้มครองความเสี่ยงภัยดังกล่าวตามกรมธรรม์ประกันภัย เมื่อเกิดเหตุภัยดังกล่าว จำเลยจะให้ความคุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัย อันเนื่องมาจากสาเหตุภัยจากแผ่นดินไหว ฯ โดยตามสัญญาและกรมธรรม์ประกันภัยในส่วนนี้ มีทุนประกันภัย โรงแรมบลู โอเชี่ยน บีช รีสอร์ท ตามที่กล่าวมาแล้ว รวมเป็นทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ เป็นจำนวนเงิน 150,000,000 บาท
นายนรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ตนจึงยื่นขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อขอความเป็นธรรมและเรียกร้องให้บริษัทจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่เอาประกัน ตามกรมธรรม์ประกันภัย และมีการเจรจารวม 3 ครั้ง ในปี 2559 ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แต่การเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ โดยทางบริษัทฯยืนยันเสนอค่าสินไหมทดแทนในราคาเดิม หลังจากนั้นได้ติดตามทวงถามทางบริษัทประกันภัยดังกล่าว กลับบ่ายเบี่ยงและเพิกเฉย ตนจึงขอความเป็นธรรมยังหน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมทั้งพี่น้องสื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียง รวมทั้งจะขอพึ่งบารมีกับศาล เพื่อดำเนินการให้ถึงที่สุด!!