วันเสาร์, 13 กันยายน 2568

ชัยภูมิ!!ผวาโจรแสบบุกงัดบ้านขโมยเงินเกลี้ยงบ้าน”วอนตำรวจติดตามจับกุมคนร้าย”

ชัยภูมิผวาโจรแสบบุกงัดบ้านขโมยเงินเก็บของชาวบ้านทั้งชีวิตหมดตัววอนช่วยนำเงินมาคืนทุกข์หนักไม่มีเงินใช้หนี้

ชาวบ้านทั้ง คนแก่ ผู้เสียหายเศร้าช้ำหนัก เพราะใกล้ถึงเวลาที่จะต้องนำทรัพย์สินซึ่งถูกโจรแสบรายนี้ขโมยไปทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท ซึ่งจะนำไปใช้หนี้ตัดดอก ธกส.ในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้แล้วในวันที่ 27 พ.ย.61 นี้ พร้อมจะไม่เอาเรื่อง หลังถูกโจรแสบรายนี้ ออกตระเวนบุกงัดบ้านชาวบ้านไปทั่วในพื้นที่ อ.เนินสง่า ขโมยทรัพย์สิน เงินเก็บเบี้ยยังชีพคนชราที่เก็บมาทั้งชีวิตหายไปเกลี้ยงบ้าน จนปัจจุบันต้องพากันทนทุกข์หนักเพราะไม่รู้จะไปหาหยิบยืมเงินที่ไหนมาใช้หนี้ได้ทันแล้ว ซึ่งล่าสุดทาง จนท.ตร.ได้เร่งติดตามคดีพอรู้ตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุแล้วคาดได้ตัวในเร็วๆนี้ ด้านครอบครัวชาวบ้านคนแก่ฝากวอนคุณโจรแสบรายนี้เห็นใจช่วยเร่งนำเงิน ทรัพย์สินที่ขโมยไปมาคืนโดยเร็ว พร้อมจะไม่เอาเรื่อง!

( 2 พ.ย.61 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ ความคืบหน้าคดีของโจรแสบรายนี้ หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ร.ต.อ.สง่า ภิรมย์กิจ รอง สารวัตรสอบสวน สภ.เนินสง่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านผู้เสียหาย 2 ราย ในหมู่บ้านไร่ ม.3 ตำบลกะฮาด อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ ว่ามีเหตุมีเหตุขโมยบุกเข้าไปตระเวนงัดแงะลักขโมยทรัพย์สินและเงิน ของชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายรายการ เบื้องต้นพบมีชาวบ้านดีรับความเสียหายจำนวน 2 หลัง และขโมยแสบรายนี้ได้ทรัพย์สิน เงินสดบางส่วนหายไปรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท จึงเร่งไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อม ชุดสืบสวนสภ.เนินสง่า มาต่อเนื่องจนปัจจุบัน

ซึ่งผลการตรวจสอบในที่เกิดเหตุอยู่ในบ้านเลขที่ 82 บ้านไร่ ม.3 ต.กะฮาด ต. เนินสง่า และ บ้านเลขที่ 89/2 บ้านไร่ ม.3 ตำบลกะฮาด อ.เนินสง่า ซึ่งเป็นบ้านไม้ครึ่งปูนสองชั้น ปลูกอยู่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นบ้านของ นางทองดี จานศึก อายุ 76 ปี และนายประสิทธิ์ ชาญศึก อายุ 53 ปี โดยบ้านทั้งสองหลังนี้เป็นญาติครอบครัวเดียวกัน

เบื้องต้นทางจนท.ได้เข้าตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 89/2 บ้านไร่ หมู่ 3 ตำบลกะฮาด อำเภอเนินสง่า ซึ่งเป็นบ้านของนางทองดี ชาญศึกอายุ 76 ปี เบื้องต้นพบโทรศัพท์ยี่ห้อ Samsung j2 Prime และเงินเก็บจากเบี้ยยังชีพคนชราที่เก็บสะสมไว้มานานทั้งชีวิตเพื่อเก็บไว้ใช้รักษาตัวเองยามเจ็บป่วย หายไปรวมจำนวนกว่า 7,000 บาท และตรวจสอบบ้านเกิดเหตุถูกงัดเข้าไปขโมยของอีกหลังใกล้กันที่บ้านเลขที่ 82 บ้านไร่ หมู่ 3 ต.กะฮาด อ.เนินสง่า โดยเป็นบ้านของ นายบุญประสิทธิ์ ชาญศึก อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นลูกชายบ้านผู้เสียหายรายแรก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบร่องรอยบริเวณหน้าต่างข้างบ้าน ชั้นล่างถูกงัดแงะ ภายในบ้านยัง และพบร่องรอยการถูกรื้อค้นภายในตู้เสื้อผ้าในบ้านกระจัดกระจายไปทั่วจำนวนมาก และมีทรัพย์สินเงินสดบางส่วนที่เก็บไว้หายไปจำนวนมากรวมกว่า 200,000 บาท

ซึ่งครอบครัวผู้เสียหายครั้งนี้ทั้ง 2 ราย คือ นางทองดี ชาญศึกอายุ 76 ปี และนางสุบิน ชาญศึก อายุ 51 ปี กล่าวว่า เมื่อช่วงเกิดเหตุวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ขณะที่ตนเองได้นั่งเก็บปลอกหอมกระเทียมอยู่กับแม่ทองดี ก่อนที่จะลุกเดินไปถอนต้นตะไคร้มาปลอก เตรียมไว้ขาย ที่ตลาด จนเริ่มใกล้เย็นก่อนที่ หลานชายที่อยู่บ้านหลังเดียวกันจะวิ่งออกมา และโวยวายว่าโทรศัพท์ของตนที่เสียบชาร์จไว้ในบ้านหายไปไหน ซึ่งตนเองก็ไม่ค่อยได้ยิน อะไรเพราะว่า หูก็ไม่ค่อยได้ยินเสียง ตนเองจึงไปดู ก็พบว่ามีร่องรอย การถูกงัดแงะรื้อค้นภายในบ้านจำนวนมากเกิดขึ้น จึงให้หลานชายให้วิ่งไปบอกผู้ใหญ่บ้าน และช่วยแจ้งตร.ให้มาตรวจสอบ

ในขณะที่ นายบุญประสิทธิ์ ชาญศึก อายุ 53 ปี ลูกชายซึ่งอยู่บ้านข้างๆกันก็ได้กลับมาและได้ไปดูบ้านแม่ในที่เกิดเหตุแล้ว จึงได้วิ่งไป เปิดบ้านของตนเองซึ่งล็อคกลอนไว้อย่างหนาแน่น ถึงต้องกับตะลึง เมื่อพบตู้ลิ้นชักเกือบทั้งหมด ถูกรื้อค้นกระจัดกระจายเต็มพื้นบ้านชั้นล่าง ตนเองจึงรีบวิ่งขึ้นไปดู ที่เก็บทรัพย์สินของเงินของครอบครัวที่พากับเก็บไว้ มานานทั้งชีวิตร่วม 30 ปี ภายในบ้านอีกหลังก็แทบช็อค จนจะเรี่ยวแรงหมดแทบจะเป็นลมเมื่อ พบตู้เสื้อผ้าที่ตนเองเก็บทองและเงิน พร้อมทั้งธนบัตร ที่ระลึกจำนวนมาก ที่เก็บมาด้วยน้ำพักน้ำแรงหลังจากแต่งงานมากว่า 30 ปี หายไป ตนเองและภรรยาก็ถึงกับเข่าอ่อน เพราะเงินและทรัพย์สินที่หายไปนี้ เตรียมที่จะนำไปใช้หนี้ที่ยืมมาจาก ธกส. ภายในไม่เกินวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 นี้อีกไม่กี่วันนี้แล้ว

ในครั้งนี้เวลาเกิดเหตุก็ผ่านมาหลายวันแล้วจนใกล้จะครบกำหนดหายเงินไปใช้หนี้ ก็ยังติดตามตัวคนร้ายโจรแสบรายนี้และนำเงินทรัพย์สินที่หายไปคืนมาได้ ครั้งนี้จึงอยากฝาก ขอวิงวอนขอความเห็จใจจากคนร้ายรายนี้ ให้ช่วยนำทรัพย์สิน กลับมาคืนให้โดยเร็วด้วย และพร้อมจะไม่เอาเรื่อง เพราะใกล้ถึงเวลาชำระหนี้แล้วยังไม่รู้จะไปหาหยิบยืมเงินจำนวนมากขนาดนี้ที่ไหนมาใช้หนี้ได้ทันแล้ว ต้องหมดสิ้นเนื้อประดาตัวแล้วจริงๆ และอยากขอฝากวิงวอนทางเจ้าหน้าที่ ให้ช่วยเร่งจับกุมคนร้ายโจรแสบรายนี้ มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วด้วย
ขณะที่ล่าสุดทางด้าน พ.ต.ท.กิตติโชค คิรินทร์ รอง ผู้กำกับสืบสวน สภ.เนินสง่า ได้สั่งระดมชุดสืบสวน สภ.เนินสง่า ทำงานร่วมสนธิกำลังกับ ชุดกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชัยภูมิ เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบรอยนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุและร่องรอย การงัดแงะในครั้งนี้เบื้องต้นได้จำนวนมากแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวที่พบผู้ต้องสงสัยแล้วและคาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้เพื่อควบคุมตัวโจรแสบรายนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป

//////////ทีมข่าว จ.ชัยภูมิ//////////

Loading