วันอาทิตย์, 14 กันยายน 2568

ไก่แจ้ลงสนามแข่งขัน!!เพื่อยกระดับพัฒนาการเลี้ยงไก่แจ้ไทย”

จับไก่แจ้ลงสนามแข่งขัน เพื่อยกระดับพัฒนาการเลี้ยงไก่แจ้ไทย

วันรที่ 5 พ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า… ที่บริเวณสนามแข่งขันไก่แจ้ไทย พื้นที่หมู่ 9 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี นายเล็ก แก้วพรายตา อายุ 54 ปี กำนันตำบลทุ่งหลวง อ.ปากท่อ ผู้ที่ได้ชื่นชอบไก่แจ้มานาน จึงได้มีแนวคิดสร้างสนามซ้อมแข่งขันไก่แจ้ขึ้นอย่างถูกกฏหมาย เพื่อให้พรรคพวกเพื่อนฝูงนำไก่แจ้มาแข่งขันสร้างความสนุกสนาน และชิงถ้วยรางวัลและเงินสดเป็นรางวัลปลอบใจ ผู้ส่งไก่แจ้เข้าแข่งขันจะต้องเสียค่าครั้งละ 200 – 300 บาท สามารถนำไก่แจ้เข้าแข่งขันได้ประมาณ 10 – 15 นาทีต่อรอบ มีชาวบ้านที่รักและชื่นชอบไก่แจ้ทั้งในพื้นที่ราชบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงเดินทางมา นำไก่แจ้สายพันธุ์ไทยสีสันสวยงาม ขนมันวาวอมเขียวเข้ม สร้อยคอมีสีเหลืองอ่อนไปจนสีเข้ม แข้งเข้มอมดำ หางกระรวยยาวสีเขียวเข้ม บางตัวแซมด้วยสีขาว หงอนตั้งสีแดงเข้ม บางตัวก็มีสีขาวทั้งตัวสวยงามนำใส่อุปกรณ์ เช่น กรงปิดคลุมผ้าอย่างดี บางคนนำไก่ใส่ในตะกร้อสานด้วยไม้ไผ่โผล่ให้เห็นแค่หัวไก่ หรือหางไก่สะพายมาร่วมแข่งกันอย่างคึกคัก หลายคนได้ให้น้ำ ลูบหัวสร้างความคุ้นเคยก่อนอุ้มไปผูกเชือกที่ขาไว้บนแท่งเหล็กในสนามแข่งขันเป็นแถวยาว บางรอบแข่งขัน 2 ตัว บางรอบแข่งขัน 5 ตัว ใช้เวลาไม่เท่ากัน

นายกิติทัต สมานจิต อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 / 749 หมู่ 10 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ผู้ชื่นชอบนิยมเลี้ยงไก่แจ้ไทย เปิดเผยว่า ที่นี่ได้รวมกลุ่มกันลักษณะเป็นชมรมผู้ที่ชื่นชอบไก่แจ้ไทยไก่ที่นำมาแข่งขันนั้นส่วนใหญ่จะเป็นไก่ป่าที่มาผสมกับไก่แจ้พื้นบ้าน ทำให้พัฒนาสายพันธุ์เกิดขึ้นมาเป็นลูกผสมใหม่เกิดขึ้น ดูมีสีสันสวยงาม ทำให้เกิดการจัดแข่งขันท้าประลองไก่แจ้ขึ้นมา โดยไก่แจ้ทุกตัวจะมีลักษณะที่โดดเด่นเฉพาะของแต่ละตัวไม่เหมือนกัน อย่างการแข่งขันจะนับเป็นจำนวนดอก หรือจำนวนครั้งของการขันกี่ครั้ง แบ่งการแข่งขันเป็น 10 – 15 นาที ขัน 1 ครั้ง เรียก 1 ดอก เมื่อครบ 10 นาทีก็จะมานับจำนวนว่าไก่ตัวไหนขันได้มากกว่ากันก็จะเป็นผู้ชนะไป โดยมีคณะกรรมการคอยนับดอก ถือว่าเป็นการพัฒนาการเลี้ยงไก่แจ้ไทย ทำให้ไก่มีราคาขึ้น บางตัวที่เอามาแข่งขันวันนี้มีราคาตัวเป็นหลักหมื่นบาท บางตัวราคาขึ้นถึง 4-5 หมื่นบาท ขัน 15 นาที ได้ 45 – 60 ดอก ขายตัวละ 3-4 หมื่นบาทกันเลยทีเดียว ซึ่งจะมีผลกับสายพันธุ์ของไก่แจ้ด้วย เช่น สายพันธุ์บางตัวร้องขันเก่ง และยังมีหูขาว ความสวยงาม นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์มาตรฐานคือ จะมีจุกเป็นชบา หน้าอกจะต้องมีสีดำ หน้าแข้งก็ต้องดำอมตะกั่ว ปีกจะเป็นสีเขียวประดู่ นอกนั้นจะเป็นไก่แฟนซีที่จะต้องหน้าแข้งดำ ไม่มีสีเหลืองและสีขาว

สำหรับคนที่ชื่นชอบความสวยงามของไก่แจ้จะรู้สึกเพลิดเพลินไปกับเสียงไก่ขันและยัง ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยงไก่ซึ่งกันและกัน ไก่แจ้ตัวไหนแพ้ก็จะเอากลับไปปรับปรุงฝึกกันเพื่อนำมาแข่งขันใหม่ การเลี้ยงไม่ยาก แต่จะฝึกอย่างไรให้ไก่แจ้มันขันได้นานมากที่สุดต่างหาก ที่สำคัญการเลี้ยงจะต้องมีหญ้า และดินให้ไก่เดินเล่นตามธรรมชาติ ส่วนเทคนิคการเลี้ยงมองว่าไก่แต่ละสายพันธุ์ที่เอามาแข่งจะมีความเก่งอยู่ในตัวแล้วเพียงแต่นำมาฝึกอีกเล็กน้อยก็สามารถแข่งขันกับคู่ต่อสู้ได้ โดยที่การแข่งขันชนิดนี้ไก่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่กลับมีความสุข ความสนุกสนานไปกับการแข่งขันแต่ละครั้ง

อย่างไรก็ตามจากการสอบถามผู้ชื่นชอบนิยมเลี้ยงไก่แจ้ พบว่าจังหวัดราชบุรี พบว่าชาวบ้านเริ่มมีการเลี้ยงไก่แจ้เพื่อสวยงามและส่งเข้าแข่งขันชิงรางวัลกันเป็นจำนวนมาก เพราะขันแค่ 10 นาที ได้เงินรางวัลตั้ง 1 หมื่นบาท ถึงว่าเป็นความสุขอีกทางหนึ่งสำหรับคนเลี้ยงไก่แจ้ในยามนี้..

สุจินต์ นฤภัย (เต้)

Loading