งัดอาคารพานิชย์ลักตัดสายไฟและท่อแอร์เกลี้ยง
รวบไอ้แมงมุมปีนตึกสามชั้นตัดเหล็กดัดงัดบานเกร็ดเข้าลักทรัพย์ในอาคารพานิชย์สามคูหาได้ทรัพย์สินไปจำนวนมากพร้อมทั้งสายไฟและเบรคเกอร์เจ้าของมาเปิดอาคารสวิตไฟหายสายไฟหายทั้งหมดแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจที่เกิดเหตุ และสุดช้ำหนักหลังพบถุงยาอนามัยใช้แล้วทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าบนห้องนอน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดลำปางวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 เวลาประมาณ 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ร้อยตำรวจเอกเทพพิทักษ์ เกตุทอง รองสารวัตร ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองลำปาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุลักทรัพย์ ภายในอาคารพาณิชย์ 3 คูหา เลขที่ 134 /1-3 ต.สวนดอก อ.เมืองลำปาง หลังรับการประสานจากศูนย์วิทยุตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ว่ามีเหตุลักทรัพย์ที่อาคารพานิชย์ดังกล่าว
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ นางชุติกาญณ์ กิตติปัญญาพัฒน์ อายุ 46 ปี พร้อมพนักงานงาน ยืนรอ เจ้าหน้าที่อยู่ พร้อมนำเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจภายในอาคารพานิชย์สามคูหา สามชั้นครึ่ง ซึ่งใช้เป็นที่ เก็บสินค้า ประเภทเครื่องสำอางและทรัพย์สินอื่ๆอีกจำนวนมาก โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าสายไฟภายในอาคารทั้งสามคูหาถูกตัดออกไปจนหมดรวมทั้งเบรคเกอร์ สายทองแดงท่อแอร์ และภายในตัวอาคารมีร่องรอยการลื้อค้นทรัพย์สิน และกรจายเกลื่อน ทั้งสามชั้น และที่ห้องนอน ของอาคารชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่ยังพบถุงยาอนามัยที่ใช้แล้ววางทิ้งไว้หนึ่งอัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้เก็บไว้ เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นางชุติกาญณ์ เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าอาคารพานิช์ดังกล่าวตนใช้เป็นที่เก็บของ เมื่อวานนี้ได้ให้พนักงานมาเปิดเอาของซึ่งไฟก็เปิดได้ปกติ แต่พนักงานกลับมาบอกว่า มีเครื่องทำน้ำอุ่น วางทิ้งอยู่ชั้นล่าง ตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่าพนักงานคงไปลื้อหาของและไม่เก็บ ก็ทั่ง เช้าวันนี้ ให้พนักงานกลับเข้าไปเอาของอีกครั้งพบว่าสวิสไฟหายไฟ เปิดไฟไม่ได้ เมื่อตรวจดู เบรคเกอร์ก็หายไปด้วย สายไฟหายไปทั้งหมด จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
และเมื่อตรวจดูด่านบนสุดของตัวอาคารพบว่ามีร่องรอยการตัดเหล็กดัดและบานเกร็ดหน้าต่างถูกถอดออก จากนั้นคนร้ายตคงเข้ามาลักทรัพย์และลื้อค้นสิงขิงภายในตัวอาคาร เพราะอาคารดังกล่าว ม่มีใครอยู่เฝ้า ซึ่งยังพบว่าที่ห้องนอนชั้นที่ 2 คนร้ายยังทิ้งถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วไว้ให้ดูต่างกน้าด้วย ซึ่งจากการสำรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ร.ต.อ.เทพพิทักษ์ เกตุทอง รองสารวัตร ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองลำปาง พบว่ามีรอยทางเดินลงไปบริเวณหอพักที่อยู่ด้านหลัง จึงนำกำลังเดินอ้อมไปตรวจสอบ พบหอพักดังกล่าวห้องไม่มีผู้พักอาศัย มีเพียงคนดูแลหอพักดังกล่าวเพียงคนเดียว ทราบชื่อต่อมา นาย บดินทร์ ณ สมบูรณ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/1 หมู่ที่ 8 ต.บ้านเอื้อม อ.เมืองลำปาง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ก็แสดงท่าทีมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้เปิดหอและพูดคุยด้วย แต่จากท่าทีที่มีพิรุธเจ้าหน้าที่จึงขอเดินดูบนหอพัก และพบของกลางที่ลักขโมยมาจากอาคารพานิชย์ จำนวนมาก รวมทั้งสายไฟและท่อแอร์ เจ้าหน้าที่จึงเค้นถามความจริง และในที่สุดให้การรับสารภาพ ว่าได้แอบปีนเข้าไปลักทรัพย์สินภายในอาคารพานิชย์สามคูหาดังกล่าวจริง โดยจะเข้าไปลื้อทรัพย์สิน ในเวลากลางคืยทำมาหลายคืนแล้วเพราะ ไม่เห็นมีใครมาเปิด และล่าสุดเมื่อคืนเข้า ไปขโมยสายไฟ และปลอกเอาทองแดงไปขาย เมื่อช่วงเช้า ที่ผ่านมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาขอตรวจที่หอพัก ที่ตนเป็นผู้ดูแล พร้อมทั้งเจอหลักฐานดังกล่าว ล่าสุดพบมีหมายจับคดีลักทรัพย์จำนวนหลายหมาย ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่หลายท้องที่
สุจิต ลำปาง
