ยโสธร 2จังหวัดยินดีต้อนรับโรงงานน้ำตาลสร้างงานสร้างรายได้เข้าพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยโสธร แจ้งว่า เกษตรกรชาวไร่อ้อยใน จ.ยโสธร และอำนาจเจริญ โดยเฉพาะในชุมชนรอบๆพื้นที่ที่จะมีการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล มีความยินดีและพร้อมที่จะต้อนรับการเปลี่ยนแปลงและสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาถ้าหากว่ามีโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลเกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะจะมีผลดีมากกว่าผลเสียที่สำคัญจะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้นและลูกหลานไม่ต้องเดินทางไปทำงานในต่างถิ่น จากไร่นาที่ทำนาไม่ได้ผลหรือพื้นที่ไม่เหมาะในการทำนาข้าวแต่ก็สามารถปลูกอ้อยได้เพื่อส่งขายโรงงานใกล้บ้าน เพื่อลดต้นทุนการผลิตเพิ่มรายได้ในครอบครัวต่อไป
นายอธิจิตร ธนูชัย เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยใน อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ บอกว่า ดีใจที่ทางโรงงานน้ำตาลมิตรอำนาจเจริญ มาให้ความรู้ในการทำไร่อ้อยทำให้สามารถปลูกอ้อยได้ผลผลิตไร่ละ 18-20 ตัน ก่อนหน้านี้ปลูกข้าวและยางพาราไม่เคยมีใครมาแนะนำ ให้ความรู้แต่พอหันมาปลูกอ้อยได้มีเจ้าหน้าที่ของทางโรงงานมาให้ความรู้โดยตลอด ผลผลิตอ้อยที่ได้ใช้แรงงานในครอบครัวในการตัดอ้อยสดและใช้รถอีแต๋นที่มีในการบรรทุกอ้อยไปส่งที่สถานีขนถ่ายหัวตะพาน ซึ่งอยู่ห่างจากไร่อ้อยเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น เพื่อไปส่งเข้าหีบอ้อยที่โรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ ครอบครัวยึดอาชีพการทำไร่อ้อย ทั้งตัวผม ภรรยา ลูกสาวและลูกเขย ทำไร่อ้อยร่วมกันมีความสุข ไม่ต้องแยกย้ายกันไปทำงานต่างถิ่น ซึ่งถ้าโรงงานน้ำตาลมิตรอำ นาจเจริญสามารถเปิดหีบได้ก็จะมีโรงงานน้ำตาลใกล้บ้านช่วยประหยัดค่าบรรทุกลงได้ ตันละ 120 บาท จะทำให้มีเงินเหลือจากการขายอ้อยมากขึ้นจึงอยากให้โรงงานเปิดหีบได้เร็วๆ
นางนรินรัตน์ สุขทองหลาง ชาวบ้านดอนดู่ ต.น้ำปลีก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ และนางทองเจือ อุ่นวงศ์ ข้าราชการบำนาญ ซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนบ้านน้ำปลีก มาตั้งแต่เกิด ปัจจุบันเป็นคณะกรรมการรักษ์สิ่งแวดล้อมท้องถิ่นของโรงงาน(ไตรภาคี) รู้สึกดีใจที่มีโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลใกล้บ้าน คณะกรรมการฯ มีส่วนช่วยดูแลทุกๆด้านระหว่างพี่น้องชุมชนรอบโรงงานกับทางโรงงานฯให้อยู่ร่วมกันได้อย่างดี มีความเอื้ออาทรต่อกันและเป็นมิตรที่ดี มีเวทีให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมของชุมชน และสร้างกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงงานทำธารณะประโยชน์อย่างมากมาย ทั้งที่วัด บ้านโรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ สถานีตำรวจภูธร และสถานที่อื่นๆ โรงงานได้ลงพื้นที่ในหมู่บ้าน และชุมชนรอบโรงงาน ในขณะเดียวกันก็ได้พาชุมชนเข้ามาเยี่ยมชมโรงงานเป็นระยะ ถ้าโรงงานน้ำตาลสามารถเปิดหีบอ้อยได้ทางชุมชนก็จะมีรายได้ดีขึ้น การค้าขาย เศรษฐกิจก็จะดีตามมา ในฐานตัวแทนของชุมชนบอกเลยว่าอยากให้มีโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลโดยเร็ว เพราะมั่นใจว่าโรงงานฯมีระบบการจัดการและเทคโนโลยีที่ดีไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชนอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับนายประยูร บุญทศ ชาวบ้านเซ ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร บอกว่า ปกติตนมีอาชีพเปิดร้านขายไก่ย่าง ส้มตำอยู่ที่กรุงเทพมหานคร มานานกว่า 10 ปี แต่พอทราบว่ามีโรงงานน้ำตาลจะมาเปิดอยู่บ้านน้ำปลีก ตนจึงได้ย้ายกลับมาเปิดร้านขายอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านน้ำปลีกเพื่อเตรียมรอรับกับการเปิดของโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล และในช่วงนี้ที่ทางโรงงานน้ำตาลกำลังเร่งก่อสร้างทำให้ขายของได้มากขึ้นกว่าเดิม 2-3 เท่า ถ้าโรงงานน้ำตาลและโรงงานไฟฟ้าชีวมวลสามารถเปิดทำการได้ก็จะมีคนที่มาทำงานในโรงงานอีกมากมาย การจับจ่ายใช้สอยก็จะเพิ่มขึ้น การค้าขายก็จะดีขึ้นตามไปด้วย
ทีมข่าว ยโสธร