มุกดาหาร สาวร้องแพทย์ลืมอุปกรณ์ทำฟันไว้ในเหงือกนาน 5 ปี
มุกดาหาร สาวร้องแพทย์ลืมอุปกรณ์ทำฟันไว้ในเหงือกนาน 5 ปี มีอาการชาที่ปาก ลามถึงหูและประสาท วอนแพทย์ช่วยอุปกรณ์ทำฟัน( หัวกรอฟัน ) ออก หวั่นได้รับอันตรายจากผลข้างเคียง
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางกฤติกา ฤทธิ์ขันธ์ อายุ 33 ปี (ซึ่งเป็นแม่บ้านตำรวจ) บ้านเลขที่ 111/18 แฟลตตำรวจ สภ. ดอนตาล อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ว่าได้ไปรักษาฟันคุดที่โรงพยาบาลตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อต้นปี 2558 แพทย์ได้ผ่าตัดเอาฟันคุดออกให้ และได้ทำอุปกรณ์แพทย์คือหัวกรอฟันติดอยู่ในเหงือก และไม่สามารถเอามาได้เป็นเวลา 5 ปี เคยร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแล้วไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบ ปัจจุบันมีอาการชาที่ปาก ลามถึงหูและประสาท วอนแพทย์ช่วยอุปกรณ์ทำฟัน( หัวกรอฟัน ) ออก หวั่นได้รับอันตรายจากผลข้างเคียง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน2562 เข้าทำการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี กับการผ่านำหัวกรอฟันที่ติดอยู่ในเหงือกคนไข้นานถึง 5 ปีออกโดยโรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นมาย้อนเหตุการณ์ว่าหัวกรอฟันขนาดจิ๋ว ยาวประมาณ 0.5 เซนติเมตรหลุดไปอยู่ในเหงือกได้อย่างไร
ด้านนางกฤติกา ฤทธิขันธ์ อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดมุกดาหาร ผู้ที่ทรมานกับหัวกรอฟันติดอยู่ในเหงือกเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2558 ผ่าฟันคุด (ฟันกรามด้านขวา) ที่โรงพยาบาลตากใบ จ.นราธิวาส (สามีเป็นข้าราชการตำรวจจึงย้ายไปอยู่กับสามี) ในวันนั้นหมอทราบว่ามีชิ้นส่วนอุปกรณ์หล่นอยู่ในเหงือก และพยายามหาตั้งแต่ 09.00 – 15.00 น. แต่ไม่สามารถนำออกมาได้ และแจ้ง กฤติกาว่า เมื่อแผลประสาน ชิ้นส่วนที่ติดอยจะหลุดออกมาเอง ไม่เป็นอันตราย และผลจากการผ่าฟันคุดจะทำให้ริมฝีปากชาราว 6 เดือน – 2 ปี หลังผ่าฟันคุดกฤติกาไปพบหมอ 3 ครั้งในช่วง 2 เดือน เพื่อรักษาอาการปากชา
เดือนพฤษภาคม 2558 สามีย้าย จึงไม่ได้รักษาต่อเนื่อง และทำใจกับอาการริมฝีปากชา ใช้ชีวิตตามปกติและคิดว่า หัวกรอฟันที่ติดอยู่ในเหงือกได้หลุดออกมาแล้วตามที่หมอบอก มกราคม 2562 ไปรักษารากฟันด้านซ้าย หมอ Xray และ พบว่า หัวกรอฟันยังคงติดอยู่ในเหงือก ยังไม่ได้หลุดออกมาตามที่กฤติกาคิด ปลายเดือนมีนาคม 2562 ปวดฟันกรามฝั่งขวามาก และไปหาหมอที่ รพ.ใน จ.อุบลราชธานี มีการ Xray พบว่า มีหนองรอบหัวกรอที่อยู่ในเหงือกจนเหงือกบวมไปทับฟันกราม เกิดอาการปวดฟันรุนแรง
ต้นเดือนเมษายน 62 ทีมทันตแพทย์ รพ.ในอุบลฯ เตรียมผ่านำหัวกรอออก แต่อยู่ๆ กฤติกาได้รับแจ้งว่าผ่าไม่ได้ เพราะกระดูกมันหุ้มหัวกรอแล้ว ไม่คุ้มที่จะผ่าเพราะต้องเจาะ มีความยาก กรามจะชาหนักกว่าเดิม ทันตแพทย์จึงถอนฟันที่ถูกเหงือกบวมทับออก รักษาอาการปวดฟันรุนแรง และหลังถอดฟันซีกนี้ มีการอาการปวดรุนแรงมากจนต้องฉีดมอร์ฟีน กฤติกา เคยร้องขอความช่วยเหลือไปยังทันตแพทยสภา… แต่ไม่มีหน่วยงานใดช่วยเหลือ และหาทางรักษาตัวเองมาตลอด
กฤติกาตัดสินใจเดินทางจากจังหวัดมุกดาหาร มาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามคำแนะนำของหลายๆ คนที่บอกว่า ที่นี้คุณหมอเก่งมาก กฤติกา เดินทางจากจังหวัดมุกดาหาร แวะนอนที่บ้านตายยายจังหวัดร้อยเอ็ด และฝากลูกวัย 7 ขวบ และ 2 ขวบ ไว้กับตายาย เช้าวันที่ 28 มิถุนายน 2562 กฤติกา เข้ารับการตรวจรักษาที่ โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นตั้งแต่เช้า การเข้ารักษาครั้งนี้สร้างความดีใจให้กับกฤติกาและสามี เพราะไม่คิดว่า จะได้ผ่าในทันที เนื่องจาก คุณหมอที่อุบลแจ้งว่าผ่าไม่ได้ ทันตแพทย์โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ใช้เวลา 30 นาที ผ่านำหัวกรอฟันออกจากเหงือกคนไข้.
รศ.ดร.ทพญ.วรานุช ปิติพัฒน์ คณบดีทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผศ.ทพญ ภัทรมน รัตนาพันธุ์ รองคณบดีฝ่ายโรงพยาบาลทันตกรรม ผศ.ทพ.ศิริพงศ์. สิทธิสมวงศ์ หัวหน้าสาขาวิชาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเซียล (กระดูกขากรรไกร) พร้อม นางกฤติกา ฤทธิขันธ์ อายุ 33 ปี คนไข้ และ ร.ต.อ.พรทวี ฤทธิขันธ์ สามี ร่วมแถลงผลการผ่าตัด นำหัวกรอออกจากเหงือกของนางกฤติกา ฤทธิขันธ์
ทีมทันตแพทย์แถลงว่า คนไข้เข้ามารักษาด้วยอาการชาที่ริมฝีปากล่างขวา และลิ้น ซึ่งมีอาการมานานราว 5 ปี มีผ่านมามีประวัติผ่าฟันคุด และมีหัวกรอหลุดค้างในเหงือก ทีมทันตแพทย์ได้ทำการ X ray 2 มิติ และ x Ray 3 มิติ เพื่อหาตำแหน่งหัวกรอ และทำการผ่าตัดบริเวณส่วนท้ายขากรรไกรล่างด้านขวา หรือ ตำแหน่งที่ผ่าฟันคุดเดิม ใช้ทีมแพทย์ในการตรวจรักษาหาตำแหน่ง และ ผ่า 4 ท่าน ใช้เวลาในการผ่า 30 นาที ก็สามารถนำหัวกรอออกมาได้ หลังผ่าตัดกฤติกาสามารถพูดคุยได้ตามปกติ และเดินทางกลับบ้านได้ทันที
ผลการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจ คนไข้รู้สึกสบายที่ลิ้นตอนนี้อาการชาที่ลิ้นหายไป เหลือเพียงปลายลิ้น ส่วนอาการริมฝีปากชา จะต้องตรวจติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่องราว 6 เดือน มีการให้วิตามินบำรุง รอการซ่อมแซมของเส้นประสาท ทีมทันตแพทย์ กล่าวว่า อาการชาที่ริมฝีปาก บุคคลที่ผ่าฟันคุดมีโอกาสริมฝีปากชาได้ประมาณ 0.3%
อย่างไรก็ตามกรณีนี้ไม่ใช่กรณีแรกที่ทำการผ่าตัด เคยเกิดผู้ป่วยลักษณะนี้หลายครั้ง และมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เนื่องจากเครื่องมือทันตกรรมมีขนาดเล็กมาก และหากมีสิ่งแปลกปลอมหักติดในปาก ควรรีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งโรงพยาบาลขนาดใหญ่ประจำจังหวัดต่างๆ จะมีอุปกรณ์ที่พร้อมในการรักษา
ขณะที่นางกฤติกา กล่าวว่ารู้สึกขอบคุณคุณหมอมาก เหมือนบ่งหนามออกจากอก ตอนนี้โล่งใจแล้ว ขอบคุณ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ช่วยตนหลุดพ้นจากความทุกข์ ตลอดจนขอบคุณสื่อมวลชน ที่ช่วยเหลือเหมือนยกภูเขาไฟออกจากอก คิดว่าจะต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปจนตาย นางกฤติกา กล่าว..
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ / มุกดาหาร